คืบคดี แม่ปุ๊ก แม่วางยาลูก น้องอมยิ้ม น้องอิ่มบุญ หมอเผยขั้นตอนจับโป๊ะ

แพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เผยไทม์ไลน์การจับโป๊ะแม่ปุ๊ก วางยาลูก รักษาเป็น ๆ หาย ๆ เริ่มสงสัยจึงบอกว่าอย่าให้อาหารลูก จนน้องเริ่มดีขึ้น ทำให้มั่นใจว่าใช่แน่ ๆ - พบค่ารักษาเด็กหลักแสนจริง แต่มีกองทุนต่าง ๆ ช่วยจ่ายให้ สุดท้ายจ่ายส่วนต่างไม่กี่พัน

ความคืบหน้ากรณี แม่ปุ๊ก วางยาลูก ล่าสุด (25 พฤษภาคม 2563) รายการ ทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า รศ. นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ พร้อมด้วย ดร.ขนิษฐา บูรณพันศักดิ์ หัวหน้างานสังคมสงเคราะห์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าว และไล่ไทม์ไลน์การเสียชีวิตของเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ตามมาด้วยอาการป่วยของเด็กชายบี (นามสมมุติ) ที่สุดท้ายแล้วนำไปสู่การจับกุมตัวแม่ปุ๊ก

ก่อนหน้านี้ เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) เริ่มมารักษาตัวที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 และเสียชีวิต 8 เดือนหลังจากนั้น ในตอนนั้น น้องเข้ารักษาด้วยอาการอาเจียนเป็นสีดำ เมื่อส่องกล้องก็พบว่าเยื่อบุต่าง ๆ ของน้องอักเสบ ความดันโลหิตสูง ตับและไตวาย จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2562

ต่อมา เด็กชายบี (นามสมมุติ) ก็เริ่มเป็นเด็กรายที่ 2 ที่เข้ารับการรักษา เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 ซึ่งน้องมีอาการคล้ายพี่ คือ อาเจียนเป็นเลือด เยื่อบุกระเพาะอาหารอักเสบ เมื่อรักษาหายแล้ว คุณหมอได้ให้ยา และให้น้องไปรักษาตัวที่บ้าน แต่ไม่นานก็กลับมาที่โรงพยาบาลด้วยอาการเดิม แต่แย่กว่าเก่า หมอจึงเริ่มเกิดความสงสัย จนกระทั่งต้นเดือนเมษายน 2563 น้องมีอาการดีขึ้น แต่พอกลับบ้านไปอาการก็ทรุดเหมือนเดิม อาการของน้องเริ่มไม่สอดคล้องกับการรักษา จึงเริ่มจำกัดการเข้าเยี่ยม และเวลาที่แม่ปุ๊กเยี่ยม จะมีแพทย์อยู่ด้วยตลอด แพทย์จึงเริ่มเชื่อมั่นในข้อสงสัยของตัวเอง

14 พฤษภาคม 2563 เมื่อเด็กชายบี (นามสมมุติ) อาการดีขึ้น แพทย์จึงบอกแม่ปุ๊กว่า ขอเวลาให้น้องอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน เพื่อรอ พม. มาหา จนกระทั่งวันที่ 18 พฤษภาคม น้องก็ถูกรับตัวไป

ภาพจาก รายการ ทุบโต๊ะข่าว

           ก่อนหน้านี้เวลาที่น้องรักษาตัว แม่ปุ๊กจะเป็นคนดูแลน้องอย่างใกล้ชิด เป็นคนคอยป้อนอาหารน้องเกือบทุกครั้ง เนื่องจากเป็นผู้ป่วยเด็กและอยู่ในห้องพิเศษ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่รักษาในโรงพยาบาล แต่อาการน้องทรุด เนื่องจากแม่ปุ๊กเอาอาหารมาให้น้องกิน หมอจึงบอกว่าไม่ให้แม่ปุ๊กเอาอาหารจากข้างนอกให้น้องกินอีก แล้วน้องก็อาการดีขึ้น ซึ่งปกติแล้ว หากเป็นการแพ้อาหาร เมื่อไม่ได้รับอาหารชนิดนั้นอีกอาการจะดีขึ้น แต่ในกรณีเด็กทั้ง 2 คน แม้จะไม่ได้รับอาหารแต่ยังแพ้อยู่ จึงคาดว่าอาจจะเกิดจากสารเคมีบางอย่างที่มีฤทธิ์กัดกร่อน และเกิดเฉพาะจุดในร่างกาย ซึ่งในกรณีนี้คือ ระบบทางเดินอาหาร

           อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เด็กชายบี (นามสมมุติ) มีอาการภาวะแทรกซ้อน ผนังลำคอทะลุ เสียงแหบ เหนื่อยง่ายเวลาเล่น ปอดอักเสบ หลังจากนี้จะมีการผ่าตัดคอเพื่อรักษา

           ในส่วนของค่ารักษาของน้องทั้ง 2 คนนั้น เป็นไปตามสิทธิของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยเด็ก และกองทุนสังคมสงเคราะห์ของ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ค่ารักษาเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาท เด็กชายบี (นามสมมุติ) 2 แสนบาท แต่เนื่องจากเงินช่วยเหลือครอบคลุมค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมด ส่วนต่างที่ต้องออกเพิ่มจึงอยู่ที่แค่หลักพันเท่านั้น

ภาพจาก รายการ ทุบโต๊ะข่าว

นางนัน (นามสมมติ) เหยื่อแม่ปุ๊ก

ด้าน นางนัน (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่รู้จักกับแม่ปุ๊ก กล่าวว่า ตนติดตามน้องอมยิ้มผ่านเพจ มีการสอบถามอาการน้องตลอด จนคนโตเสียชีวิต เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แม่ปุ๊กบอกว่าแม่ปุ๊กเป็นโรคหัวใจ อยากให้ตนช่วยขายหน้ากากอนามัยหาเงินรักษาน้องคนเล็ก เป็นของพรีออร์เดอร์ กล่องละ 250 บาท แม่ปุ๊กบอกว่ามี 2,500 กล่อง แต่เมื่อกำหนดส่งของ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 แม่ปุ๊กกลับเลื่อนส่ง จนคนซื้อคิดว่าถูกหลอกแน่ ๆ

ด้าน แม่ม่อน อายุ 33 ปี เผยว่า ตนรู้จักแม่ปุ๊กจากกลุ่มเฟซบุ๊กขายของ แม่ปุ๊กขายมิเตอร์วัดไข้ 83 เครื่อง ตนโอนเงินไป 123,140 บาท แต่พอเปิดกล่องออกมาพบว่าภายในกล่องเป็นเจลแอลกอฮอล์ไม่กี่หลอด แม่ปุ๊กอ้างว่างานยุ่ง ส่งของผิด และรับปากจะส่งของให้ใหม่ แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด จนกระทั่งได้เจอเหยื่ออีกคนของแม่ปุ๊ก จึงรู้ว่าโดนหลอกแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก รายการ ทุบโต๊ะข่าว

ข่าวแม่ปุ๊ก วางยา น้องอมยิ้ม น้องอิ่มบุญ หมอเผยขั้นตอนจับโป๊ะ รอเวลาจนจับได้คาตา