ลูกเสือโคร่งไซบีเรีย ใช้ชีวิตลำพังหลังแม่ตาย เด็กเกินกว่าจะหาเหยื่อกินเป็น หิวโหยจนทนไม่ไหว ต้องร่อนเร่จากป่า ขอความช่วยเหลือจากมนุษย์
วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ชาวบ้านหมู่บ้านกอร์โนโวดโนเย ในพื้นที่ดินแดนปรีมอร์สกี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัสเซีย สังเกตเห็นลูกเสือโคร่งตัวหนึ่ง เดินออกจากป่ามาร่อนเร่อยู่ตามท้องถนน ชาวบ้านเป็นกังวลกลัวว่ามันจะถูกล่าหรือได้รับอันตราย อีกทั้งคิดว่ามันคงหิว แต่ไม่กล้าเข้าใกล้มัน พวกเขาจึงรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาตรวจสอบ และความจริงที่น่าเศร้าก็ถูกเปิดเผย
ลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าวคือ เสือโคร่งอามูร์ (Amur Tiger) หรือเสือโคร่งไซบีเรีย (Siberian Tiger) เป็นสายพันธุ์เสือที่จัดอยู่ในสถานะสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered Species) ตามข้อมูลในบัญชีแดงขององค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ ไอยูซีเอ็น (IUCN - International Union for Conservation of Nature) โดยปัจจุบันพบว่ามีเสือโคร่งไซบีเรียหลงเหลืออยู่ในธรรมชาติน้อยกว่า 700 ตัว
ตามปกติแล้ว เสือโคร่งไซบีเรียจะอยู่ในป่าลึกและซ่อนตัวจากมนุษย์ การที่มันออกมาเดินร่อนเร่ให้เห็น แสดงว่ามันต้องการความช่วยเหลือและหิวโหยมาก เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามันพลัดหลงกับแม่ พวกเขาจึงปล่อยให้มันอยู่ในป่าบริเวณดังกล่าว พร้อมจัดทีมคอยเฝ้าติดตามสำรวจอย่างใกล้ชิด และเฝ้ารอคอยเผื่อแม่ของมันอาจจะกลับมา
แต่หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ ทุกคนก็หมดความหวัง สันนิษฐานว่าแม่ของมันน่าจะตายไปแล้ว อาจตายเพราะอุบัติเหตุ หรือไม่ก็ตกเป็นเหยื่อของนายพราน
เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิงยาสลบใส่เจ้าเสือน้อย และนำมันกลับมาดูแล เนื่องจากมันยังเด็กมาก ไม่สามารถหาอาหารได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังเสี่ยงอันตรายมากถ้าปล่อยไว้แบบนั้น ซึ่งจากการตรวจสอบพวกเขาพบว่าลูกเสือโคร่งตัวนี้เป็นเพศเมีย อายุประมาณ 10 เดือน
วิกตอร์ คุซเมนโก ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์และฟื้นฟูเสือโคร่งไซบีเรีย เปิดเผยว่า เจ้าตัวเล็กอยู่ในสภาพขาดสารอาหารและอ่อนเพลียอย่างมาก แต่หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะคอยดูแลให้อาหาร พร้อมจับตาดูอย่างใกล้ชิดภายในพื้นที่ศูนย์อนุรักษ์
หลังจากผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ ทุกอย่างก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก ลูกเสือสุขภาพแข็งแรงดี น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น จนกลับมาเป็นปกติ ไม่ผอมซูบเหมือนเดิม และออกจะดูสมบูรณ์ด้วยซ้ำ
เจ้าหน้าที่ยังคงดูแลมันอยู่ จนกว่าจะถึงเวลาที่มันเติบโตขึ้น พร้อมจะกลับคืนสู่ผืนป่าอันกว้างใหญ่อีกครั้ง และหวังว่ามันจะมีชีวิตรอดต่อไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Центр «Амурский тигр»
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Центр «Амурский тигр»
ภาพจาก เฟซบุ๊กЦентр «Амурский тигр»
ขอบคุณข้อมูลจาก
Daily Mail, IUCN
วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ชาวบ้านหมู่บ้านกอร์โนโวดโนเย ในพื้นที่ดินแดนปรีมอร์สกี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัสเซีย สังเกตเห็นลูกเสือโคร่งตัวหนึ่ง เดินออกจากป่ามาร่อนเร่อยู่ตามท้องถนน ชาวบ้านเป็นกังวลกลัวว่ามันจะถูกล่าหรือได้รับอันตราย อีกทั้งคิดว่ามันคงหิว แต่ไม่กล้าเข้าใกล้มัน พวกเขาจึงรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาตรวจสอบ และความจริงที่น่าเศร้าก็ถูกเปิดเผย
ลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าวคือ เสือโคร่งอามูร์ (Amur Tiger) หรือเสือโคร่งไซบีเรีย (Siberian Tiger) เป็นสายพันธุ์เสือที่จัดอยู่ในสถานะสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered Species) ตามข้อมูลในบัญชีแดงขององค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ ไอยูซีเอ็น (IUCN - International Union for Conservation of Nature) โดยปัจจุบันพบว่ามีเสือโคร่งไซบีเรียหลงเหลืออยู่ในธรรมชาติน้อยกว่า 700 ตัว
ตามปกติแล้ว เสือโคร่งไซบีเรียจะอยู่ในป่าลึกและซ่อนตัวจากมนุษย์ การที่มันออกมาเดินร่อนเร่ให้เห็น แสดงว่ามันต้องการความช่วยเหลือและหิวโหยมาก เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามันพลัดหลงกับแม่ พวกเขาจึงปล่อยให้มันอยู่ในป่าบริเวณดังกล่าว พร้อมจัดทีมคอยเฝ้าติดตามสำรวจอย่างใกล้ชิด และเฝ้ารอคอยเผื่อแม่ของมันอาจจะกลับมา
แต่หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ ทุกคนก็หมดความหวัง สันนิษฐานว่าแม่ของมันน่าจะตายไปแล้ว อาจตายเพราะอุบัติเหตุ หรือไม่ก็ตกเป็นเหยื่อของนายพราน
เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิงยาสลบใส่เจ้าเสือน้อย และนำมันกลับมาดูแล เนื่องจากมันยังเด็กมาก ไม่สามารถหาอาหารได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังเสี่ยงอันตรายมากถ้าปล่อยไว้แบบนั้น ซึ่งจากการตรวจสอบพวกเขาพบว่าลูกเสือโคร่งตัวนี้เป็นเพศเมีย อายุประมาณ 10 เดือน
วิกตอร์ คุซเมนโก ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์และฟื้นฟูเสือโคร่งไซบีเรีย เปิดเผยว่า เจ้าตัวเล็กอยู่ในสภาพขาดสารอาหารและอ่อนเพลียอย่างมาก แต่หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะคอยดูแลให้อาหาร พร้อมจับตาดูอย่างใกล้ชิดภายในพื้นที่ศูนย์อนุรักษ์
หลังจากผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ ทุกอย่างก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก ลูกเสือสุขภาพแข็งแรงดี น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น จนกลับมาเป็นปกติ ไม่ผอมซูบเหมือนเดิม และออกจะดูสมบูรณ์ด้วยซ้ำ
เจ้าหน้าที่ยังคงดูแลมันอยู่ จนกว่าจะถึงเวลาที่มันเติบโตขึ้น พร้อมจะกลับคืนสู่ผืนป่าอันกว้างใหญ่อีกครั้ง และหวังว่ามันจะมีชีวิตรอดต่อไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Центр «Амурский тигр»
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Центр «Амурский тигр»
ภาพจาก เฟซบุ๊กЦентр «Амурский тигр»
Daily Mail, IUCN