ปคม. แถลงปิดคดีแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติ รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 23 คน อีก 1 คนถูกดำเนินคดีอยู่ที่จีน ชี้มีบทลงโทษหนัก เข้าข่ายความผิดองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกทลายบ้านพักแก๊งอุ้มบุญย่านลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โดยสามารถจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้หลายราย นำไปสู่การขยายผลจับกุมถึงนายทุนจีน รวมถึงแพทย์ และนักวิชาการ ที่ทยอยกันเข้ามามอบตัวนั้น
อ่านข่าว : ตีแผ่แก๊ง อุ้มบุญ จ่ายครึ่งล้านให้ตั้งท้อง สาวไทยเกิน 100 คน ปลายทางส่งเด็กไปจีน
อ่านข่าว : ปคม. ออกหมายจับ แพทย์-นักวิชาการ เอี่ยวอุ้มบุญข้ามชาติ ล่าสุด 4 หมอ เข้ามอบตัวแล้ว
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
ล่าสุด (29 พฤษภาคม 2563) สำนักข่าว ไทยพีบีเอส รายงานว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) แถลงข่าวปิดคดีขบวนการรับจ้างตั้งครรภ์ หรืออุ้มบุญข้ามชาติ ที่มีผู้ต้องหาสัญชาติจีนเข้ามาเป็นผู้จ้างวานคนไทยให้ไปจ้างหญิงไทยมาตั้งครรภ์ ซึ่งตำรวจได้เข้าจับกุมเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รวมทั้งออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้รวม 10 คน
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
สำหรับคดีนี้ตำรวจได้สอบสวนพยานบุคคล 70 คน ทั้งกลุ่มแพทย์ และกลุ่มผู้รับจ้างอุ้มบุญ จากนั้นได้ขยายผลออกหมายจับได้อีก 13 คน รวมผู้ต้องหา 23 คน ซึ่งขณะนี้จับได้ทั้งหมดแล้วเหลือเพียง 1 คน ที่ถูกดำเนินคดีอยู่ในประเทศจีน
สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้ ตำรวจแบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มนายหน้าชาวจีน 5 คน
2. กลุ่มนายหน้าจัดหาแม่อุ้มบุญ 7 คน
3. กลุ่มคนขับรถและให้ความสะดวก 3 คน
4. กลุ่มแม่บ้านดูแลแม่อุ้มบุญและดูแลเด็กหลังคลอด 2 คน
5. กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 6 คน
โดยแต่ละคนถูกแจ้งข้อหาแตกต่างกันไป ทั้งสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และข้อหาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ พ.ศ. 2558
สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้ ตำรวจแบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มนายหน้าชาวจีน 5 คน
2. กลุ่มนายหน้าจัดหาแม่อุ้มบุญ 7 คน
3. กลุ่มคนขับรถและให้ความสะดวก 3 คน
4. กลุ่มแม่บ้านดูแลแม่อุ้มบุญและดูแลเด็กหลังคลอด 2 คน
5. กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 6 คน
โดยแต่ละคนถูกแจ้งข้อหาแตกต่างกันไป ทั้งสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และข้อหาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ พ.ศ. 2558
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
นอกจากนี้ ยังตรวจพบคลินิกที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวในไทยรวม 5 แห่ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินคดีได้ ต้องรอผลคำพิพากษาทางคดีก่อน ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่า มีเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมกว่า 1,000 ล้านบาท
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส