พบซากพะยูนตายในอ่าวพังงา ตัวแรกในรอบหลายสิบปี เร่งผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ชี้เป็นพะยูนตายตัวที่ 3 ในปีนี้ แม้จะน่าเศร้า แต่นับว่าน้อยกว่าที่พบปีก่อน
วันที่ 30 พฤษภาคม 2563 ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยข่าวชวนสลดผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Thon Thamrongnawasawat ระบุ พบพะยูนตายที่อ่าวพังงา โดย อาเมิร์ด สุมาลี ชาวประมงในพื้นที่ ได้พบซากพะยูนในเวลา 01.30 น. จึงช่วยนำซากมาที่ท่าเรือบ้านสามช่องเหนือ เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจพิสูจน์
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นซากพะยูน ขนาดความยาว 2.10 เมตร ขนาดรอบลำตัวประมาณ 1.07 เมตร น้ำหนักประมาณ 180 กิโลกรัม มีรอยผิวหนังถลอกบริเวณหัว สภาพซากเริ่มบวมน้ำ แต่ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการผูกรัด จึงไม่สามารถหาสาเหตุการตายได้ ทั้งนี้ ได้เร่งส่งซากพะยูนเพื่อตรวจสอบที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลละชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผศ. ดร.ธรณ์ ระบุว่า
พะยูนตัวนี้นับเป็นตัวแรกในรอบหลายสิบปีที่พบในอ่าว ซึ่งหากมองในแง่ดี
ปีนี้นับว่าพะยูนตายน้อยลงมากเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยในปีนี้มีพะยูนตายแล้ว
3 ตัว ขณะที่ปีก่อนมีพะยูนตาย 23 ตัว
สำหรับสาเหตุที่พบพะยูนตายน้อยลง คงต้องเก็บข้อมูลอีกสักระยะเพื่อหาเหตุผลที่แท้จริง และจะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการจัดการในอนาคต
การมีรายงานพบพะยูนในอ่าวอีกครั้ง แม้จะเป็นการตาย แต่แปลว่ามีโอกาสที่พะยูนจะกลับมาอาศัยในอ่าวอีก และอาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมมนุษย์ที่ลดลงมากในช่วงโควิด
ทั้งนี้ ผศ. ดร.ธรณ์ ได้แนะนำให้อุทยานขอให้กรมทะเลช่วยทำโครงกระดูกไว้หากทำได้ และนำมาไว้ที่ศูนย์อุทยาน จัดทำเป็นซุ้มพะยูนพร้อมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของผู้คนในเมืองพังงาและแถบนั้น จะได้รู้จักและรักพะยูนเพิ่ม จะได้ดูแลหญ้าทะเลและหากินแบบยั่งยืน ซึ่งล่าสุดเท่าที่ทราบ ศูนย์ชีวะจะช่วยทำโครงกระดูกกลับมาให้
การมีรายงานพบพะยูนในอ่าวอีกครั้ง แม้จะเป็นการตาย แต่แปลว่ามีโอกาสที่พะยูนจะกลับมาอาศัยในอ่าวอีก และอาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมมนุษย์ที่ลดลงมากในช่วงโควิด
ทั้งนี้ ผศ. ดร.ธรณ์ ได้แนะนำให้อุทยานขอให้กรมทะเลช่วยทำโครงกระดูกไว้หากทำได้ และนำมาไว้ที่ศูนย์อุทยาน จัดทำเป็นซุ้มพะยูนพร้อมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของผู้คนในเมืองพังงาและแถบนั้น จะได้รู้จักและรักพะยูนเพิ่ม จะได้ดูแลหญ้าทะเลและหากินแบบยั่งยืน ซึ่งล่าสุดเท่าที่ทราบ ศูนย์ชีวะจะช่วยทำโครงกระดูกกลับมาให้
