x close

ทนาย VS นักเคลื่อนไหว ใส่ร้ายรัฐอุ้ม วันเฉลิม ลั่นเป็น-ตาย ยังไงก็ต้องหาให้เจอ

          ทนายดังปะทะนักเคลื่อนไหว ใส่ร้ายรัฐบาลอุ้ม วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ลั่นเป็น-ตายต้องตามตัวกลับมา ทนายชี้เกิดเหตุในต่างประเทศ จะไม่แทรกแซงกัน เขมรใช้กฎหมายเขมร


ภาพข่าวทนาย VS นักเคลื่อนไหว

          รายการ เรื่องลับมาก (no censor) ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.20-15.00 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (9 มิถุนายน 2563) ดร.เสรี วงษ์มณฑา ได้สัมภาษณ์ ภูมิวัฒน์ แรงกสิวิทย์ ตัวแทนประชาชนผู้ไม่ยอมนิ่งเฉย และทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เรื่อง วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ตกลงถูกอุ้มหายในกัมพูชา จัดฉาก หรือฝีมือรัฐบาลไทย ?


ตัวแทนประชาชนผู้ไม่ยอมนิ่งเฉย คืออะไร ?

          ภูมิวัฒน์ : มันเป็นแค่คำเอาไว้แสดงจุดยืนเฉย ๆ วันนั้นรวมตัวกันผ่านโพสต์เฟซบุ๊กของเพื่อนคนหนึ่งที่ตกลงกันว่าจะไปยื่นจดหมาย

จุดยืนอันนี้เป็นติ่งส้มไหม ?

          ภูมิวัฒน์ : ไม่ใช่เลย เพราะผมไม่ได้ไปในนามพรรคไหน แล้วผมก็ไม่ใช่แฟนคลับติ่งส้มแน่นอน

ภาพข่าวทนาย VS นักเคลื่อนไหว

ชื่นชมธนาธรไหม ?

          ภูมิวัฒน์ : ไม่ครับ

ทำไมไปรัฐสภา แล้วไปยื่นเรื่องที่พรรคก้าวไกล ?

          ภูมิวัฒน์ : เพราะตอนที่ไปเราติดต่อหลายพรรคแต่ติดต่อใครไม่ได้ แต่คนยอมลงมารับเรื่องคือ ส.ส.พรรคก้าวไกล

ทนายรณณรงค์ ดูเหมือนกระแสตอนแรกมันเข้ามาในลักษณะเหมือนรัฐบาลไทยเป็นคนสั่งการให้ไปอุ้มถึงเขมร ?

          รณณรงค์ : อย่างแรกอุ้มจริงหรือไม่จริง ก็ต้องเสียใจกับทางญาติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทีนี้อีกมุมหนึ่งการที่บอกว่าภาครัฐไปดำเนินการอุ้ม มันก็พูดยากนะ แต่อีกส่วนหนึ่งอันนี้เกิดที่ต่างประเทศ โดยปกติแต่ละประเทศจะไม่แทรกแซงกัน ของเรากับเขมรก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกัน ถ้าจะเกิดเหตุในประเทศเขาก็ให้รัฐบาลเป็นคนดำเนินการทั้งหมด

ภาพข่าวทนาย VS นักเคลื่อนไหว

แต่การแทรกแซงถึงขั้นจัดคนไปอุ้มเขาถึงเขมรนี่ได้ไหม ?

          รณณรงค์ : ถ้าลองเขมรมาทำที่เมืองไทย เมืองไทยก็จับนะครับ เพราะใช้กฎหมายไทย พอไปเขมรก็ใช้กฎหมายเขมร โดยหลักการเรื่องการก้าวข้ามอำนาจอธิปไตย เราจะไม่ทำกันโดยเด็ดขาด ตำรวจสากลก็มีหลักของเขา ผมยังแปลกใจเลยว่าทำไมทางญาติมาร้องเรียนทางรัฐบาลไทย ทำไมไม่ไปเริ่มสอบสวนสืบสวนที่เขมรก่อน ที่ผมพูดได้เพราะผมเคยเป็นทนายความให้สถานทูตเพื่อนบ้านหลายคดีใหญ่ ทุกอย่างต้องเริ่มจากจุดที่เกิดเหตุก่อน แล้วถ้าเจ้าของประเทศเขาไม่ทำให้ ก็กลับมาหาสถานทูตไทย สถานทูตไทยจะส่งตัวแทนไปตามเรื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นี่คือกระบวนการ

แปลว่าญาติต้องเข้าไปที่เขมรเหรอ ?

          รณณรงค์ : ต้องไปสิครับ ถ้าญาติไม่ไป แล้วจะให้รัฐบาลไทยไปตาม มันก็ไม่มีข้อมูล ผมไม่แปลกใจว่าทำไมฝ่ายเขมรเขาบอกว่าเขาไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย จะรู้ได้ยังไง ก็คุณไม่ให้ข้อมูลเขา ถ้าให้ข้อมูลไป เขาจะสืบสวนสอบสวนว่าใครเป็นคนทำ ถ้าสมมติตัดทุกประเด็นออกแล้วไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย เป็นเรื่องการเมืองหรือเปล่า ค่อยย้อนกลับมา

เห็นเขมรบอกว่าไม่มีตัวตน ไม่มีเข้าไป ไม่เป็นผู้ลี้ภัย ?

          รณณรงค์ : ก็มีหมายจับเมืองไทย หลบหนีเข้าเมืองเขาผิดกฎหมายหรือเปล่า นี่ดีนะ เขายังไม่ได้อธิบายเรื่องนี้มา

โอกาสรัฐบาลไทยเข้าไปยุ่มย่ามไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ขณะเดียวกัน คุณธนาธร บอกว่า รัฐบาลไทยต้องรับผิดชอบ อย่างนี้โหนไหม ?

          รณณรงค์ : แหม ต้องบอกอย่างหนึ่งนะครับ ถ้าเกิดที่เมืองไทย รัฐบาลไทยต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ทีนี้มันเกิดที่ต่างประเทศ สมมติเราส่งตำรวจ-ทหารไปที่เขมร เขาก็จับตำรวจ-ทหารเราได้นะครับ เพราะเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกส่วนหนึ่งต้องเอาให้ชัดก่อน มันเกิดในต่างประเทศ คนที่เข้าไปมีหมายจับที่เมืองไทยและหลบหนีไปต่างประเทศ ผมว่าต้องย้อนไปดูที่มาที่ไปก่อน จะบอกว่ารัฐบาลไทยทำ คนเห็นต่างทางการเมืองถูกดำเนินการโดยภาครัฐ ถ้าเขาอยู่เมืองไทยก็ไม่เห็นโดนจับ ผมเห็นคนแรงกว่านี้ตั้งเยอะแยะ

ภาพข่าวทนาย VS นักเคลื่อนไหว

น้องเข้าไปยื่นเอกสาร ปรากฏว่าพรรคซึ่งเกี่ยวพันกับธนาธรเป็นคนมารับ ไม่กลัวว่าจะโหนเรื่องนี้ร่วมกับธนาธรเหรอ ?

          ภูมิวัฒน์ : ผมเคยไปร่วมงานกับพรรคการเมืองหลายฝ่าย ขั้วการเมืองหลายขั้ว ผมถูกด่าจากทุกฝ่ายมาตลอดชีวิตอยู่แล้ว ผมเคยไปประชาธิปัตย์ ก็โดนติ่งส้มด่าหนักมากเมื่อ 2-3 ปีก่อน ผมไปเจอ อ.สุระ ผมก็เจอพวกเสื้อแดงด่าหลายครั้ง ฉะนั้นผมไม่แคร์ครับ

ไม่กลัวถูกกล่าวว่าเกี่ยวข้องธนาธรแน่ เพราะไปยื่นพรรคนี้ ?

          ภูมิวัฒน์ : คนร้อยพ่อพันแม่ เขาก็พูดกันไปตามวิสัยของเขากันเอง ไม่ใช่เรื่องของผม เขาจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา

ไปยื่นหนังสือต้องการอะไร ?

          ภูมิวัฒน์ : สิ่งที่ผมเรียกร้องชัดเจนคือ 1. ต้องการให้รัฐติดตามกรณีการอุ้มสูญหาย ไม่ใช่แค่กรณีคุณวันเฉลิม แต่รวมไปถึงนักกิจกรรมทางการเมืองคนอื่น ที่ถูกบังคับสูญหายเหมือนกันในต่างประเทศ 2. ผมต้องการให้มีการผลักดัน พ.ร.บ. อุ้มหายแบบนี้

เขากล่าวหากันรุนแรงแบบนี้ รัฐบาลไทยทำอะไรได้บ้าง ?

          รณณรงค์ : โดยส่วนใหญ่ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปที่รัฐสภา จริง ๆ ต้องไปกระทรวงการต่างประเทศ ถ้ากระทรวงการต่างประเทศไม่ทำงานให้ก็อีกเรื่องหนึ่ง พอไปเสร็จก็ใช้ความสัมพันธ์ทางการทูตค่อยประสานงานตำรวจหรือเจ้าหน้าที่เขมรให้สืบสวนคดีนี้ ถ้าเขาไม่ทำค่อยดำเนินการต่อ ไม่ใช่ไปบอกเลยว่าภาครัฐบาลไทยทำโดยที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลย

การไปที่รัฐสภา อาจมีคนคิดว่าน้องก็กำลังมีในใจ โทษว่ารัฐบาลไทยทำ ?

          ภูมิวัฒน์ : ผมไม่คิดอย่างนั้นเลย ตอนที่ไปผมคิดในใจอย่างเดียว คนคนหนึ่งหายไป คนเป็นพ่อเป็นแม่รู้สึกยังไง ผมเคยหายไปจากบ้าน พ่อแม่เสียใจหนักมาก ดังนั้น ผมรู้สึกว่าผมเข้าใจความรู้สึกคนเป็นพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ดี ๆ เขาไม่สามารถติดต่อลูกชายเขาได้เป็นอย่างดี

ภาพข่าวทนาย VS นักเคลื่อนไหว

แม้ว่าเขาผิดถูกยังไงต้องตามหา ?

          ภูมิวัฒน์ : ใช่ครับ

ทนายบอกว่าเรื่องอย่างนี้ถ้าจะเริ่มต้น ต้องเริ่มที่กระทรวงการต่างประเทศ น้องจะไปไหม ?

          ภูมิวัฒน์ : ไปครับ ถ้ามีคนชวนผมไป ผมก็จะไปแน่นอน

ญาติต้องไปเขมร จะแนะนำญาติเขาไหม ?

          ภูมิวัฒน์ : ผมไม่รู้จักญาติเขาส่วนตัว แต่ถ้ามีช่องทางติดต่อผมจะประสานงานให้แน่นอน และอาจเชิญคุณทนายไปให้คำปรึกษาเรื่องคดีนี้ด้วย

กรณีสวยแต่มงไม่ลงตอนไปนางงามจักรวาล เราอยู่ด้วยความหวาดกลัว เราจะมีความหมายอะไร ถ้าไม่แสดงความคิดเห็นตรงนี้ วันเฉลิมหายไปไหน ทำไมไม่ทำอะไร คิดยังไง ?

          รณณงค์ : วันเฉลิมไม่ได้หายที่เมืองไทยนะครับ ถ้าวันเฉลิมหายที่เมืองไทย เจ้าหน้าที่ไทยเอาไปดูแลอันนี้สามารถวิจารณ์ได้เต็มที่ แต่อันนี้ไปอยู่ต่างแดน ยังไม่รู้เลยว่าเป็นเรื่องธุรกิจ ส่วนตัวหรือชู้สาว ถ้ามาสอบสวนที่เมืองไทยแล้วพี่สาวไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ ตำรวจไทยก็ทำอะไรไม่ได้ เอาง่าย ๆ ถ้าเกิดที่เมืองไทย เขาต้องถามว่าคุณมีเหตุขัดแย้งกับใครบ้าง คุณบอกรัฐบาล หน่วยงานไหน ใครที่คุณขัดแย้งด้วย กระทรวงไหน กรมไหน ก็ต้องบอกข้อมูลได้ ไม่ใช่ลอย ๆ ว่ารัฐบาล แล้วมันใครล่ะ มันกว้างเกินไป

ถ้าเป็นทนาย เขาบอกได้คุยกับน้อง 30 นาที แต่สิ่งที่ออกมาจากน้อง น้องบอกว่าเขาหายใจไม่ออก ถ้าเป็นทนายจะถามอะไรบ้างใน 30 นาที ?

          รณณรงค์ : ไปอยู่ที่นั่นใช้เงินที่ไหน ไปทำธุรกิจอะไร เข้าไปได้ยังไง มีเหตุโกรธเคืองกับใคร น้องได้เล่าให้ฟังไหม แค่นี้สามารถรู้ได้เลยว่าจะเป็นกลุ่มไหน

ทำไมออกมาแค่เรื่องหายใจไม่ออก ?

          รณณรงค์ : มันอาจมีข้อมูลบางอย่างที่เขารู้และไม่อยากเปิดเผยในที่สาธารณะหรือเปล่า ถ้าเราอยากให้เขาตามตัวมาเป็น ๆ เราต้องให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วมาบอกเจ้าหน้าที่รัฐทำแล้วไม่ให้ข้อมูล ไม่ได้ ในเมืองไทยถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐทำ เราก็มี ป.ป.ช. หรือหน่วยงานอื่นมาคานอำนาจกัน ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย ที่เขมรก็น่าจะมีเหมือนกัน แต่เราต้องไปเริ่มต้นที่กฎหมายเขมรก่อน

ภาพข่าวทนาย VS นักเคลื่อนไหว

น้องเขาบอกหายใจไม่ออก แต่ไม่มีอย่างอื่นเลย ในฐานะที่น้องทำเรื่องนี้ อยากรู้ข้อมูลอะไรบ้าง ?

          ภูมิวัฒน์ : ถ้าเกิดผมเป็นพี่สาว ผมน่าจะได้ติดต่อกับเขามาตลอด เรื่องเขาทำอะไรที่ไหน หากินยังไง ตลอดหลายปีเขาก็คงรู้ คงไม่ได้มารู้แค่ในบทสนทนา 30 นาทีหลัง ส่วนเรื่องหายใจไม่ออก ผมก็มองว่ามันยังมีความเป็นไปได้ ยังไม่ควรถูกตัดทิ้งไม่ว่าจะมุมไหน เราลองดูกรณีที่เกิดขึ้น เรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านมา มีคำว่าหายใจไม่ออกบ่อย ที่อเมริกาก็มีหายใจไม่ออก 4-5 คนมาแล้ว ที่เป็นคนผิวสี หรือกรณีตากใบ ยุคคุณทักษิณ มีคนไปซ้อน ๆ อุ้ม ๆ เรียง ๆ กอง ๆ กันเหมือนไม่ใช่มนุษย์ เขาก็พูดกันว่าหายใจไม่ออก ตอนเขาอยู่และขาดอากาศหายใจกันตาย คิดว่าเขาอาจหายใจไม่ออกจริง ๆ ก็ได้ และความเป็นไปได้ตรงนี้ก็ไม่ควรถูกตัดทิ้ง

ทนายล่ะ ?

          รณณรงค์ : อันนี้เป็นเรื่องกรรมวิธีไปเอาตัวเขามา มันบอกได้อย่างหนึ่งว่าเขาไม่อยากจะไปด้วย แต่ถูกใช้กำลังบังคับไป ทีนี้ต้องมาดูว่าใครบังคับเขาไป แต่กรณีนี้ต่างจากการเหยียดผิวสีที่อเมริกา ของฟลอยด์ เขาไม่ได้หนีหมายจับไปต่างประเทศนะครับ ของคุณวันเฉลิมมีหมายจับที่เมืองไทย แล้วก็ไปต่างประเทศ และก็หายไป มันไม่เหมือนกัน

ในแง่ของพยานหลักฐานล่ะ ?

          รณณรงค์ : ของฟลอยด์มันเห็นชัดเจน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำชัดเจน แต่งตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐชัดเจนแต่อาจจะลงมือเกินกว่าเหตุไปก่อน แต่ของคุณวันเฉลิม ยังไม่รู้เลยใครดำเนินการ เป็นมาเฟีย เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลอื่น ยังตอบไม่ได้เลย

หลายคนตั้งข้อสงสัย ว่าเขาคุยกันตั้ง 30 นาที แต่พี่สาวเอาออกมาแค่หายใจไม่ออก ในฐานะผู้เคลื่อนไหว ถ้ามีโอกาสได้เจอพี่สาวเขา จะถามคำถามอะไรเขาบ้างเพื่อให้การเคลื่อนไหวมีความชอบธรรม ?

          ภูมิวัฒน์ : ผมไม่ถามอะไรเลยครับ อย่างแรกเป็นเรื่องส่วนตัว สอง ผมไม่แคร์ว่าเขาจะโดนอะไร ทำยังไง เรื่องคดีเป็นเรื่องคดี เรื่องกฎหมายผมไม่อยากไปยุ่งด้วย มันยาก และผมไม่เข้าใจแน่นอน ผมโง่เกินไป แต่ที่ผมสนใจคือเขาเป็นคน เป็นมนุษย์ เขาเป็นคนหายตัวไป ถ้าวันหนึ่ง ดร.เสรี หายไปจากบ้านพักที่อเมริกา ผมก็จะไปช่วยตามหาให้แน่นอน ผมกล้ายืนยันเรื่องนี้แน่นอน

โดยไม่ต้องรู้อะไรเพิ่มเติม ?

          ภูมิวัฒน์ : ใช่ครับ

แล้วไม่อยากรู้เรื่องอะไรเลยเหรอ เอาแค่ประเด็นเดียวว่าเขาหายไป ?

          ภูมิวัฒน์ : ผมไม่อยากรู้ ผมไปซักไซ้ทุกอย่างไม่ได้

เรื่องนี้จะเคลื่อนไหวยังไงต่อไป ?

          รณณรงค์ : ผมต้องการเจอว่าเขาเป็นหรือตาย ถ้าตายต้องการเจอชิ้นส่วนกระดูก ถ้ายังอยู่ต้องการเจอว่าอยู่ที่ไหนและใครเอาไป และผมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวเขากลับมาให้ได้ แม้เขาจะอยู่ต่างประเทศ เราต้องไปตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่างที่เราไปถึง เราจะไม่ลัดขั้นตอน ถ้าหน่วยงานไม่ดำเนินการ เราค่อยดำเนินการกับหน่วยงานที่สูงกว่าอีกทางหนึ่ง อย่างกรณีนี้ผมเชื่อว่าศักยภาพในเขมรจะต้องหาตัวได้ว่าใครเป็นคนเอาตัวไป เพียงแต่ข้อมูลเขามีน้อย ยกตัวอย่างผู้ลี้ภัยในต่างประเทศมาหายที่เมืองไทย ผมบอกได้เลยว่าคดีระดับนี้ ผบ.ตร. ในเมืองไทยลงมาดูคดีเองแน่นอน เพียงแค่สถานทูตในประเทศนั้น ๆ ร้องขอเข้ามา

          รณณรงค์ : ความสัมพันธ์ทางการทูตทำให้หลายคดียิ่งกว่าคดีคนหาย อย่างเด็กพม่าที่หลบหนีเข้ามาหายในไร่อ้อย ใครจะไปนึกว่าวันดีคืนดี หน่วยงานทุกหน่วยงานของรัฐบาลไทยเข้าไปช่วยเด็กต่างด้าวคนหนึ่ง ผมมองว่าเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพียงแต่ว่าต้องไปให้ถูกขั้นตอน ไม่ใช่มาโจมตีว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย เขาอาจจะทำก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องบอกทุกอย่าง

มีเรื่องโผล่ออกมาว่าวันเฉลิมอาจมีเรื่องเกี่ยวข้องกับกัญชา เพราะเขาโพสต์ในเฟซบุ๊กว่านอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว เนื่องจากมีความขัดแย้งทางธุรกิจ ซึ่งมีมาเฟียเข้ามาเกี่ยวข้อง ทนายคิดยังไง ?

          รณณรงค์ : อันนี้ต้องไปสืบสวนสอบสวนมา ถ้าพูดมาอย่างนี้ ถ้าเป็นตำรวจไทย ภายใน 24 ชม. ตามตัวเจอ ก็รู้แล้วไงว่าใครเอาไป ใครเป็นผู้ขัดแย้ง ตำรวจก็ไปตามตัวมาเลย หาวิธีสืบจนเจอ

สันนิษฐานว่ามาเฟียเอาตัวไป ?

          รณณรงค์ : ครับ ก็ถึงบอกให้ญาติไปให้ข้อมูลที่เขมร ให้ตำรวจเขมรดำเนินการให้

พอมาถึงตรงนี้มีแฉกที่สองว่าเป็นไปได้ไหมว่าเป็นความขัดแย้งทางธุรกิจ บางคนบอกว่าเป็นไปได้ไหมเขาทำผิดกฎหมายแล้วตำรวจจับไป ?

          รณณรงค์ : แต่โดยหลักทั่วไปของนานาประเทศ ถ้าตำรวจจับกุมไปเขาต้องแจ้งญาติ และต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย เอาตัวไปที่โรงพัก คือหลักทั่วไปของนานาชาติต้องมีการแจ้ง ไม่ใช่อุ้มหายไปเลย เขมรเขาก็มีศาล มีระบบตุลาการในการตัดสินคดี ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการเขา

เมื่อเรามีข้อมูลเรื่องกัญชา มาเฟีย ตำรวจ น้องจะมีข้อสันนิษฐานอะไรเพิ่มเติมไหม ?

          ภูมิวัฒน์ : ผมเองผมไม่รู้ ไม่แน่ใจอะไรเลย สิ่งเดียวที่ผมนึกออก ผมต้องการให้รัฐเข้ามามีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะยิ่งเราไม่รู้ข้อมูลอะไร รัฐยิ่งต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น

แล้วรัฐเราทำอะไรได้ไหม ?

          รณณรงค์ : คือมันอยู่ในพื้นที่ต่างประเทศ เราทำได้คือการขอความร่วมมือ เราบอกว่าเราจะส่งตำรวจไปสืบคดีเองเนี่ย มันไม่ได้ มันอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของเรา ถ้าต่างประเทศต้องผ่านกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น

มีข่าวอยู่ในโซเชียล จริงแท้แค่ไหนไม่รู้ บอกว่าคนคนนี้ไม่มีบันทึกใด ๆ ว่าเข้าไปในเขมร ไม่มีตัวตนอะไรเลย เขมรถามว่าที่เรียกร้องจะให้เขาทำอะไร แล้วจะให้เขาทำอะไร ในเมื่อคนคนนี้ไม่มีตัวตน คิดยังไง ?

          รณณรงค์ : อันนี้แสดงว่าตอนเข้าไป เข้าไปไม่ถูกกฎหมาย เลยไม่มีข้อมูลการเข้าเมือง แต่ทีนี้ไม่ใช่แปลว่าเขาไม่ได้เข้าไป เมื่อวงจรปิดมันยืนยันว่าเขามีตัวตนอยู่ เจ้าหน้าที่ของรัฐโดยนานาชาติก็ต้องเข้าไปดูว่าเขาหายไปยังไง ผมว่าตรงนี้ต่างหากที่สำคัญ ถ้าหากรัฐบาลไทยขอความร่วมมือได้ เจอตัวมา ตำรวจเขมรก็ดำเนินคดีเข้าเมืองผิดกฎหมายไป แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นมีสิทธิ์ไปเอาชีวิตเขาได้ เพราะฉะนั้นต้องเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายทุกอย่าง

ระหว่างเรากับเขมรใครต้องเป็นคนเริ่มก่อน ?

          รณณรงค์ : ต้องถามว่าญาติเขา ณ วันนี้คุณได้ทำหนังสือไปหรือยัง ญาติเป็นผู้เสียหายทางกฎหมาย ถ้าญาติไม่ทำอะไรเลย ญาติไปหาคุณธนาธร ญาติไปหา ส.ส. พรรคส้ม แล้ว ส.ส. พรรคส้มไปเรียก ผบ.ตร. เมืองไทยมาแล้วมันจะไปเกี่ยวอะไรกับคดีที่เขมรล่ะ มันต้องไปให้ตรงจุด ไปกระทรวงการต่างประเทศก่อน โดยญาติต้องแสดงเจตจำนง ไม่ใช่คนอื่น ญาติต้องขยับ คนอื่นจะขยับแทนไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้เสียหายทางกฎหมาย

น้องจะขยับยังไงเกี่ยวกับญาติ ?

          ภูมิวัฒน์ : ถ้าเกิดเขาหาย ญาติเขามีหน้าที่ติดตามตัว ใช่ และเขาก็มีหน้าที่จริง ๆ ต้องประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ นั่นคือหน้าที่ญาติ แต่เราในฐานะประชาชน ในฐานะคนทั่วไป เราไม่มีสิทธิ์เลยใช่ไหมที่จะเรียกร้องกับรัฐ ไม่มีสิทธิ์เลยใช่ไหมไปบอกรัฐว่าเราในฐานะประชาชนคนทั่วไปและเกิดเรื่องแบบนี้กับมนุษย์คนหนึ่ง ทำไมเราถึงพูดไม่ได้ว่าเราต้องการให้รัฐช่วยประสานงานกับต่างประเทศในการติดตามเรื่องนี้ เราแค่แสดงจุดยืนในฐานะที่เป็นคนทั่วไป

          รณณรงค์ : ถ้าอยู่เมืองไทย เราก็ต้องดูว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องในการยื่นเรื่องไหม ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการยื่นเรื่อง ส่วนใหญ่หน่วยงานของรัฐ ถ้าไม่เกี่ยวกับทุจริตคอร์รัปชันเขาจะไม่ทำเรื่องให้ เพราะถือว่าคุณไม่มีส่วนได้เสีย คุณไม่มีอะไรยืนยันว่าเขาหายจริงหรือเปล่า คุณไม่มีข้อมูลเขาเลย เอกสารที่คุณยื่นมาไม่สามารถให้ถ้อยคำเพิ่มเติมได้ว่าเป็นใคร ทำอาชีพอะไร ไปหลบอยู่ตรงนั้นได้ไง เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นี่คือความแตกต่าง แต่ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะไม่ทำนะครับ โอเค ถึงแม้น้องมายื่น ผมเชื่อว่าภาครัฐเขาก็ต้องดำเนินการให้ แต่จะมีข้อมูลดำเนินการต่อยอดจนสัมฤทธิผลต้องเป็นญาติเท่านั้น

          รณณรงค์ : ผมไม่ได้ต้องการให้เป็นกระแสแค่ว่าเซฟวันเฉลิมแล้วก็จบไป ผมต้องการเจอตัวเขา ว่าเขาหายไปจากอะไร หายเพราะรัฐบาลไทยจริงไหมหรือมาเฟีย ผมต้องการความกระจ่าง และมันต้องคลี่คลายให้ได้ แต่ถ้าญาติไม่ให้ข้อมูลแล้วรัฐบาลจะไปเอาข้อมูลจากไหนมาล่ะ มันเป็นพื้นฐานของการทำงาน ในการติดตามหาคนเลย เวลาคนหายก็ต้องมีข้อมูลพื้นฐานอยู่แล้วว่าใครเอาไป ซึ่งส่วนใหญ่ที่เราทำงานมา จะเจอเรื่องความรักและธุรกิจ ที่ถูกอุ้มหายไป มีแค่ 2 อย่างนี้

ภาพข่าวทนาย VS นักเคลื่อนไหว

เรื่องการเมืองล่ะ ?

          รณณรงค์ : โอกาสน้อยมาก

ถ้าพี่สาวเขาได้คุยถึง 30 นาที ถ้าเป็นทนายจะแนะนำยังไง ?

          รณณรงค์ : ผมก็ยังแนะนำเหมือนเดิมว่าให้ใช้ขั้นตอนทุกอย่างตามกฎหมาย ถ้าเขาไม่ทำ ค่อยยกระดับขึ้นไป อันดับแรกไปที่กระทรวงการต่างประเทศ ให้เขาประสานงาน เวลาไปเขมรก็ขอความอนุเคราะห์ไปกับเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยเลย

รู้สึกว่า 30 นาทีที่คุยกัน ไม่น่าเป็นความลับ ?

          ภูมิวัฒน์ : เวลาอาจารย์คุยกับญาติ อยากบอกคนอื่นไหมครับ

ถ้าเป็นคดีก็ต้องบอก ?

          ภูมิวัฒน์ : ถ้าเป็นคดีแล้วต้องดำเนินการในภาพใหญ่ มันมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก ถ้าญาติเอาข้อมูลตรงนี้มาบอก แล้วตอนนี้ญาติบอกหรือไม่บอกกับเจ้าหน้าที่

          รณณรงค์ : อันนี้ก็ไม่ทราบ เพราะญาติไม่ได้แจ้ง

          ภูมิวัฒน์ : แล้วการที่เราไม่เห็นความเคลื่อนไหว แสดงว่าเขาไม่ได้ทำอะไรอยู่หรือเปล่าครับ

          รณณรงค์ :
เขาต้องสู้มากกว่านี้ หลายคนที่เป็นคนไทยและมีญาติสูญหายหรือถูกบังคับให้สูญหาย ทุกคนต้องสู้และเรียกร้อง ต้องเชื่อว่าเอาตัวกลับมาได้ ไม่มีใครยอมแพ้ทั้งนั้นเพราะมันเรื่องใหญ่มาก กับการทำให้คนหายไปคนหนึ่ง ไม่ว่าเป็นหรือตายต้องได้ตัวกลับมา และต้องสู้มากกว่าที่เห็น

ภาพข่าวทนาย VS นักเคลื่อนไหว

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทนาย VS นักเคลื่อนไหว ใส่ร้ายรัฐอุ้ม วันเฉลิม ลั่นเป็น-ตาย ยังไงก็ต้องหาให้เจอ อัปเดตล่าสุด 10 มิถุนายน 2563 เวลา 10:28:37 7,316 อ่าน
TOP