พระพยอม ปลง หลังแพ้คดีที่ดินวัดสวนแก้ว ถอดใจ ไม่สู้ต่อ เตรียมย้ายออกภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2563 คืนที่ดินให้ทายาทเจ้าของที่
วันที่ 13 มิถุนายน 2563 รายการข่าวเด่น เย็นเสาร์ อาทิตย์ ช่อง 3 รายงานว่า จากกรณีข้อพิพาทที่ดินวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ที่ พระราชธรรมนิเทศ
หรือพระพยอม กลฺยาโณ เป็นเจ้าอาวาส นั้น ทางพระพยอม
ได้ซื้อที่ดินนี้มาตั้งแต่ปี 2547 ต่อมา
ทายาทเจ้าของที่ดินเดิมได้ต่อสู้ขอสิทธิ์ในการครอบครองที่ดิน จำนวน 6 ไร่
เศษ ที่มีการขายทอดต่อมาให้กับทางวัดสวนแก้ว นั้น ล่าสุดทางเจ้าของที่ได้ส่งเอกสารแจ้งให้ทางวัดต้องทำการรื้อถอนอาคารที่พักคนงานและย้ายออกจากที่ดินภายในสิ้นเดือนมิถุนายน
2563 ทั้งที่ทางวัดสวนแก้วก็มี
โฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวจากการซื้อขายที่เมื่อ 2547
รายงานข่าวระบุว่า
พระพยอม ได้เล่าย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อปี 2547 ที่ทางวัดสวนแก้ว
ได้ตัดสินใจจะซื้อที่ดินซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของวัด
โดยก่อนทำการซื้อขาย
ทางวัดได้เดินทางไปตรวจสอบโฉนดที่ดินเพื่อดูว่ามีปัญหาหรือไม่ ในขณะนั้นทาง
เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน สาขาบางบัวทองแจ้งว่าที่ดินมีโฉนด สามารถซื้อขายได้
พระพยอมก็มั่นใจ จึงตัดสินใจทำการซื้อขายมาในราคา 10 ล้านบาท
ได้มีการรับมอบโฉนดมา หลังการซื้อขายทางวัดก็ได้เข้าทำประโยชน์บนที่ดิน
มีการก่อสร้างที่พักคนงานไว้กว่า 10 หลัง
และมีครอบครัวคนงานของวัดเข้ามาอยู่อาศัย
กระทั่งปี 2549
ทายาทเจ้าของที่ดิน ซึ่งไม่ใช่คนขายที่ดินให้วัด
ได้ยื่นคำร้องขอใหม่เพราะก่อนหน้านั้นเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์
จนได้กรรมสิทธิ์
ซึ่งอ้างว่าผู้ที่ครอบครองที่ดินในขณะนั่นได้มีการทำสัญญาเช่าไว้กับแม่ของตน
ตั้งแต่ปี 2520 ซึ่งแม่ได้เสียชีวิตไปก่อนเมื่อปี 2528
ทำให้ศาลได้มีการพิจารณาคดีใหม่
ซึ่งมีคำพิพากษาศาลจังหวัดนนทบุรีและคำพิพากษาฝากธรภาคหนึ่งโฉนดที่ดินและให้สิทธิ์ทายาท คดีสิ้นสุดเมื่อปี 2551 โดยประเด็นการเช่าที่ดินนั้นทางพระพยอม
ได้ตั้งข้อสังเกตว่า
สัญญาเช่ามีขึ้นมาทีหลังเพื่อการประกอบคดีที่มีการร้องเรื่องการครอบครองที่ดินของ
2 ฝ่าย เป็นสัญญาเช่าที่ไม่มีพยานรู้เห็น แต่เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้
ทางพระพยอม ได้พยายามติดต่อทั้งเจ้าของที่ดินที่ขายให้กับวัด
และเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นทายาทเดิมแต่ก็ไม่มีการชี้แจงรายละเอียดที่ชัดเจน
จนมาทราบว่าโฉนดที่ทางวัดครอบครองอยู่ถูกยกเลิกไปแล้ว
เมื่อทราบเรื่องทางพระพยอม
ได้ติดต่อพูดคุยกับทายาทเจ้าของที่ดินโดยเสนอว่าทางวัดจะขอจ่ายเงินเพิ่มอีก
3 ล้านบาท เพื่อขอซื้อที่ดังกล่าว แต่เจ้าของไม่ยอม
และแจ้งว่าจะขายที่แปลงนี้ในราคา 15 ล้านบาท
ทางวัดไม่สามารถซื้อได้เพราะราคาสูงเกินไป เวลาผ่านล่วงเลยมาจนถึงปี 2563
ทางเจ้าของที่ดินได้มีเอกสารแจ้งให้ทางวัดย้ายออกจากที่ดินภายในสิ้นเดือนมิถุนายน
2563 ซึ่งเรื่องนี้ พระพยอมให้สัมภาษณ์เพียงว่าตอนนี้ พระต้องปลง
แล้วปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปตามกฎหมาย ส่วนของคนที่ขายที่ดินให้กับวัดตอนนี้ก็อายุมาก
และเจ็บป่วยอยู่แล้ว เงินก็ไม่มี พระพยอมบอกว่าสงสารโยม ไม่อยากเอาความ
ตอนนี้ทางวัดจะยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ
ขอรอให้ทางทีมทนายศึกษาข้อมูลว่าจะสามารถดำเนินการทางด้านกฎหมายได้หรือไม่อย่างไร
ขอบคุณข้อมูลจาก
รายการข่าวเด่น เย็นเสาร์ อาทิตย์ ช่อง 3