ร่างทรงหลวงปู่สี เผยรู้ตัวคนร้ายคดีน้องชมพู่ แต่บอกไม่ได้
เพราะกลัวอันตราย แต่จะทำให้คนร้ายรับสารภาพเอง ชี้เป็นคนผมยาว
อยู่ใกล้บ้าน ผสมยาใส่น้ำแดงให้กินก่อนอุ้มไป
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เมื่อวานนี้ (21 มิถุนายน 2563) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานความคืบหน้าคดีน้องชมพู่
ว่า นายชาน หลาบโพธิ์ ตาของน้องชมพู่ พร้อมด้วยนางสมพร หลาบโพธิ์ ป้าน้องชมพู่ และนายไชย์พล วิภา ลุงน้องชมพู่ รวมถึงญาติ ๆ
เดินทางไปยังสำนักทรงเพื่อพบกับร่างทรงหลวงปู่สีอีกครั้ง
โดยทุกคนเข้าสำนักทรง มีเพียงลุงพลที่นั่งรอด้านนอก
เพื่อรอว่าร่างทรงจะเรียกหาหรือไม่
โดยครั้งนี้ครอบครัวใช้ชื่อตาเป็นคนเชิญวิญญาณ และไม่ได้เขียนระบุว่าวิญญาณที่อยากให้เข้าร่างคือน้องชมพู่ จึงเขียนแต่ชื่อจริง แต่ปรากฏว่าร่างทรงจำได้ มีการทักว่าเคยมาแล้วทำไมถึงมาอีก ทั้งที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นเรื่องของน้องชมพู่ ซึ่งร่างทรงกล่าวว่า ตนไม่อยากดัง ไม่อยากให้คนรู้จักไปมากกว่านี้ เพราะมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ ถูกหาว่าดัดเสียงจนถูกเอาไปลบหลู่สารพัด ก่อนจะมีการยกขันธ์ 5 ขันธ์ 8 พร้อมร่ายมนตร์คาถา เมื่อร่างเข้าทรงก็ล้มตัว จากนั้นเสียงก็กลายเป็นเด็กทันที
โดยครั้งนี้ครอบครัวใช้ชื่อตาเป็นคนเชิญวิญญาณ และไม่ได้เขียนระบุว่าวิญญาณที่อยากให้เข้าร่างคือน้องชมพู่ จึงเขียนแต่ชื่อจริง แต่ปรากฏว่าร่างทรงจำได้ มีการทักว่าเคยมาแล้วทำไมถึงมาอีก ทั้งที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นเรื่องของน้องชมพู่ ซึ่งร่างทรงกล่าวว่า ตนไม่อยากดัง ไม่อยากให้คนรู้จักไปมากกว่านี้ เพราะมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ ถูกหาว่าดัดเสียงจนถูกเอาไปลบหลู่สารพัด ก่อนจะมีการยกขันธ์ 5 ขันธ์ 8 พร้อมร่ายมนตร์คาถา เมื่อร่างเข้าทรงก็ล้มตัว จากนั้นเสียงก็กลายเป็นเด็กทันที
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ร่างทรงถามหาพ่อ แม่ และโอม ซึ่งเป็นลูกของป้าสมพร ที่สนิทกัน บอกว่าคิดถึงมาก มีการถามหาพ่อว่ามาไหม รวมถึงลุงพลด้วย จากนั้นร่างทรงก็ตอบคำถามว่าคนร้ายคือใคร ระบุว่า ตนถูกอุ้ม ถูกเอายาใส่น้ำแดงให้กินตอนที่นั่งเล่นอยู่ ตอนนั้นพี่สาวก็เห็น คนร้ายเป็นคนใกล้ตัว ผมยาว อยู่ใกล้บ้าน ติด ๆ บ้านเรา คนบ้านเรา
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ทั้งนี้ นายชาน เปิดเผยยอมรับว่า เชื่อร่างทรงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่เรื่องที่ร่างทรงบอกว่าพี่สาวเห็น ส่วนตัวเชื่อว่าอาจเป็นความคิดของเด็กว่าพี่เห็น แต่ที่จริงพี่หลับอยู่ สำหรับประเด็นที่ว่าคนบ้านใกล้เป็นคนร้าย คือ บ้านแอ๋มและบ้านแบงค์ (นามสมมติ) นั้น ยอมรับว่าไม่ได้สนิทกัน มีปัญหากันบ้าง แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นต้องทำร้ายกัน
นายชาน
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
นายชาน ทิ้งท้ายว่า ส่วนตัวเชื่อว่าหลานเข้าร่างทรงจริง เพราะจะให้คนแก่ดัดเสียงเป็นเด็กขนาดนี้คงทำไม่ได้ แต่หลานคงไม่กล้าบอกว่าคนร้ายคือใคร เพราะกลัวที่ถูกขู่ไว้ ซึ่งตนอยากให้ตำรวจจับตัวให้ได้ภายใน 3 วัน 5 วัน
นายไชย์พล วิภา และนางสมพร
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน นางสมพร กล่าวว่า ตนก็เชื่อบ้าง แต่ไม่ทั้งหมด อะไรที่สบายใจก็เชื่อ เพราะเขาว่ากันว่าคนตายไปแล้ววิญญาณอาจจะไม่เหมือนเดิม อาจจะจำได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
