แม่ปูนิ่ม แฉ ร.ต.อ. ทรงกลด เคยตบลูกจนสลบ หลังทะเลาะกันเรื่องฝ่ายหญิงจะเอาลูกกลับไปเลี้ยงที่บ้าน บอกจะฆ่ายกครัว ถึงติดคุกก็ออกมาได้
รายการ โหนกระแส วันที่ 23 มิถุนายน 2563 เปิดใจสัมภาษณ์ ทองใส ภูคงน้ำ หรือ แม่เตี้ย แม่ของ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ หรือ ปูนิ่ม ภรรยาที่ถูกสามีคือ ผู้กองบอย ร.ต.อ. ทรงกลด บุญส่ง รองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง ทำปืนลั่นใส่จนเสียชีวิต มาพร้อมกับ สมัย ภูคงน้ำ น้าผู้ตาย รวมทั้ง อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี
ปูนิ่มรู้จักแฟนได้ยังไง ?
แม่ : เจอทางเฟซบุ๊ก ไม่เคยเจอรองสารวัตร แต่เคยคุย เขาคบกัน 3 ปีแล้ว
เขามีลูกด้วยกัน ลุกอายุเท่าไหร่ ?
แม่ : 2 ขวบค่ะ
![ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ. ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ.]()
วันนี้อยู่กับใคร ?
แม่ : อยู่กับแม่นม ฝั่งฝ่ายชาย
ตัวฝั่งรองสารวัตร เขามีภรรยามาก่อน แม่ทราบไหม ?
แม่ : ไม่เคยรู้เลย เขาไม่เคยเล่าให้ฟัง
น้ารู้ไหม ?
น้า : ไม่ทราบ เป็นเรื่องส่วนตัว หลานสาวคุยกับคุณแม่มากกว่า ก็เลยไม่ทราบเรื่องนี้
วันเกิดเหตุทราบเรื่องนี้ได้ยังไง ?
แม่ : ตำรวจบอกว่าลูกสาวเสียชีวิต บอกว่าลูกยิงตัวตาย
ครั้งแรกบอกปูนิ่มยิงตัวตาย ตอนนั้นแม่เชื่อไหม ?
แม่ : แม่ไม่เชื่อตั้งแต่ทีแรก คิดว่าทะเลาะเบาะแว้ง เพราะลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่าเขาเคยเอาปืนมายิง
แม่เคยบอกน้าไหม ว่าตำรวจคนนี้เคยเอาปืนจ่อ ?
น้า : ไม่ทราบเลย เพิ่งรู้ตอนตำรวจ สน.ลาดพร้าว โทร. ไป
ใครบอกว่าตำรวจเคยเอาปืนจ่อ ?
แม่ : ลูกสาวค่ะ เขาบอกว่าโดนแฟนเอาปืนจ่อหัว ก็ทะเลาะเบาะแว้งกันนี่แหละ
แม่รู้ไหมเขามีเรื่องอะไรกัน ?
แม่ : เรื่องที่ไม่เข้าใจกันนี่แหละ ตำรวจคนนี้ไม่อยากให้ปูนิ่มเอาลูกกลับกาฬสินธุ์ เพราะมีเรื่องทะเลาะกัน นิ่มอยากเอาลูกกลับไป แต่ตำรวจไม่ยอม เขาก็ทะเลาะกันเรื่อย ๆ เคยตบจนสลบ ลูกสาวเล่าสู่กันฟัง
เหตุการณ์เดียวกับที่เคยเอาปืนจ่อหรือคนละเหตุการณ์ ?
แม่ : คนละเหตุการณ์
นี่เป็นเหตุผลที่แม่ไม่เชื่อเลยว่าลูกยิงตัวตาย ?
แม่ : ใช่จ้ะ แม่ไม่เชื่อ
![ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ. ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ.]()
ปกติถนัดมือไหน ?
แม่ : ถนัดมือขวา การใช้ปืนลูกสาวก็ไม่รู้ว่าใช้ยังไง แม่ไม่เชื่อ
หลังจากนั้นแม่ได้มีโอกาสคุยกับตำรวจนายนั้นไหม ?
แม่ : ไม่เคยคุยค่ะ คุยแค่ตอนตบนี่แหละ คุยว่าไปตบไปตีทำไม ทำไมไม่คุยดี ๆ เขาก็บอกว่ามันจะเอาลูกกลับบ้าน ผมไม่ให้มันกลับ ถ้ามันกลับผมเอามันตาย จะฆ่าให้ตาย เขาบอกว่าเขาติดคุกก็ออกมาได้
ข่าวบอกว่าตำรวจนายนี้บอกว่าถ้าเอากลับไปจะฆ่ายกครัว ?
แม่ : จ้ะ ลูกสาวก็เคยบอกให้ฟัง
วันที่น้องเสียชีวิต แม่ได้มีโอกาสคุยกับตำรวจนายนี้ไหม ?
แม่ : ไม่ได้คุยค่ะ
วันที่เข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุ แม่ก็เจอเขาด้วย เขาทำยังไง ?
แม่ : เขามีพิรุธ มองหน้ามองหลัง เหมือนคิดมาก
ตำรวจนายนี้บอกว่าเขาไปข้างนอก หลังจากนั้นกลับเข้ามาตี 1 ขึ้นไปบนห้อง ภรรยางอน เขาก็เดินไปตามไปง้อ เดินจูงมือมานอนที่ห้อง แต่ภรรยาไม่ยอม เขาหลับไป แล้วได้ยินเสียงปืน ภรรยายิงตัวเองเสียชีวิต ก่อนพบเขม่าที่มือ เขาก็สารภาพว่าเขาเองนั่นแหละเป็นคนก่อเหตุ แต่แย่งกันจนปืนลั่น ?
ปรเมศวร์ : ถ้าแย่งกัน มือภรรยาก็ต้องมีเขม่า ผมคิดว่าข้อเท็จจริงก็คงชัด แต่การที่เขาพูดครั้งที่หนึ่ง สอง ไม่ตรงกัน มันเป็นพิรุธ ถามว่าจะได้ประโยชน์จากการให้การแบบนี้ไหม ข้อเท็จจริงมันเป็นแบบนี้ มันคล้าย ๆ กับจำนนกับพยานหลักฐานบางส่วน ถึงเปลี่ยนคำให้การว่าตัวเองถือปืน
ผลการตรวจ พบเขม่าดินปืนอยู่ที่มือขวาทั้งคู่ ?
ปรเมศวร์ : ก็จบไปหนึ่งตอนว่าเขาถือปืน ภรรยาอาจปัดปืน แต่ไม่รู้ปืนลูกโม่หรือออโตเมติก ถ้าออโตเมติกโอกาสลั่นยาก มันต้องกระชากลูกเลื่อนแล้วจ่อ แต่ถ้าปืนลูกโม่มันเหนี่ยวได้เลย ผมเชื่อว่าพนักงานสอบสวนเขาต้องพิสูจน์ชัดว่าข้อเท็จจริงเป็นเจตนาหรือประมาท เพราะอัตราโทษต่างกันมาก ประมาทแค่ 10 ปี ส่วนเจตนาฆ่ามีตั้งแต่ประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต จำคุก 20 ปี แต่ถ้ารับสารภาพได้รับการลดอีก ผมว่ามูลเหตุจูงใจและพฤติการณ์ ไม่ได้อยู่ที่คนตายพูดไม่ได้ ศพจะบอกได้ว่าควรเกิดขึ้นอย่างไร เดี๋ยวนี้โทรทัศน์บ้านเราเก่ง จำลองภาพให้เกิดตามคำบอกเล่า พอทำภาพแล้วเป็นไปได้ไหม วันนี้ไม่ยิงตัวตายแน่นอน เหลือประมาทหรือเจตนา แต่ตำรวจเขาพิสูจน์ได้ ที่สำคัญที่คุณแม่เล่าให้ฟังเป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งของตัวเขา จะฆ่า ๆ
เขาตบสลบก็มี เอาปืนมาจ่อหัวแล้วครั้งหนึ่งก็มี ?
ปรเมศวร์ : คุณแม่แม้ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่เป็นพยานบอกเล่าชั้นดีว่าเขามีพฤติกรรมอย่างนี้ เคยกระทำอย่างนี้
แม่ : โมโหร้าย กินเหล้า ลูกสาวมีอะไรก็เล่าให้แม่ฟัง
ลูกสาวบอกเสมอคนฆ่าตัวตายใช้ไม่ได้ ?
แม่ : ใช่จ้ะ
อาจเป็นวิธีการต่อสู้ของตำรวจนายนี้หรือเปล่า ปืนลั่นโทษเบากว่าเจตนายิง ?
ปรเมศวร์ : ใช่ คดีประเภทสามียิงภรรยา หรือเป็นแฟนกันแล้วยิงกัน ปีที่แล้วก็มี ด.ต. ที่เชียงใหม่ ก็สู้กันแบบนี้ว่าปืนลั่น แต่พอดูข้อเท็จจริงมันไม่ใช่ ถ้าเราฟ้อง อัยการฟ้องว่าเจตนาฆ่า แต่ถ้าเขาสู้ว่าเป็นประมาท ศาลก็ลงเป็นประมาทได้ ต้องบอกพนักงานสืบสวนให้เอาให้ชัดว่าเป็นเจตนาหรือประมาท ผมเชื่อว่าวิทยาการตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเขาชัดเจนอยู่แล้ว ร่องรอยเขม่า มีคดีที่เถียงกันอยู่เรื่องเดียวที่เป็นประวัติศาสตร์ คือคดีคุณห้างทอง ธรรมวัฒนะ ฆ่าตัวตายหรือยิงตัวตาย ข้อพิสูจน์ไม่ชัดเจน แต่หลังจากนั้นมาข้อพิสูจน์แต่ละคดีมันชัดขึ้น
ผู้กองบอยเขามาขอโทษคุณแม่หรือสำนึกผิดอะไรไหม ?
แม่ : ไม่เลยค่ะ ไม่ติดต่อมาด้วย ติดต่อมาแต่ตำรวจ
อาจารย์พูดเรื่องเขม่าดินปืน จากข่าวที่ได้มา มีเขม่าดินปืนที่มือขวาผู้หญิงด้วย และเจอเขม่าดินปืนที่มือขวาผู้ชายด้วย ?
ปรเมศวร์ : แสดงว่าผู้ชายถือมือขวาเข้าขมับซ้าย ไม่รู้เฉียงทิศทางไหน อาจจะเฉียงหลังหรือหน้า ต้องไปดูว่าทะลุหรือเปล่าหรือมันขึ้น มีรูเข้าต้องมีรูออก เฉียงอาจไปข้างหลัง ถ้าเขาใช้มือขวา ยิงจ่อขวา คนใช้มือขวาปัดจะปัดยังไง มือขวาอาจยกขึ้นมาบังหรือเปล่า เพราะเขม่าก็เกาะได้ มันอาจกระจายได้ บางทีบาดแผลอาจมีเขม่าก็ได้ถ้ายิงระยะใกล้ แต่เชื่อว่าพิสูจน์หลักฐานคงชัด ใช้มือขวาปัดขณะที่ยิงข้างซ้ายน่าจะยาก ถ้าแย่งถามว่าจะแย่งมือเดียวหรือสองมือ โดยหลักการ ตรรกะมันยาก ถ้าลงแสดงว่าเขาอยู่ข้างบน
85 องศาเฉียงลง แสดงว่าผู้หญิงนั่งอยู่ ?
ปรเมศวร์ : ศาลฟังพยานหลักฐาน ลักษณะบาดแผลเฉียงลงล่างแสดงว่าอยู่ข้างบน ถ้า 85 ลงคืออยู่ต่ำ ไอ้นั่นก็ต้องยืน ตัดประเด็นเรื่องฆ่าตัวตายทิ้ง ปัญหาอยู่ที่ว่าแย่งหรือไม่แย่ง หรือเจตนา
สันนิษฐานว่าปูนิ่มนอนอยู่บนโซฟา แล้วยิงเฉียงลง ?
ปรเมศวร์ : ไม่รู้นั่งหรือนอน แต่ขณะที่เฉียงลง ตื่นหรือหลับ เพราะตัวผู้ต้องหาเขาบอกเขาเมา น้องถ้านอนอยู่ตื่นหรือหลับ ถ้าฟังว่าหลับก็จบอีกเหมือนกัน ไม่ได้แย่ง แค่ข้างนี้ก็ลำบากแล้ว
กรณีแรกเลย ทางผู้กองบอยบอกว่าน้องยิงเอง ฆ่าตัวตาย อันนี้ถือว่าพลาดไหม ?
ปรเมศวร์ : อันนี้พลาดแล้ว ตอนนั้นคิดไม่ทัน
เขาบอกเขาตกใจ ?
ปรเมศวร์ : โอ้โห ร.ต.อ. สติไม่มีขนาดนี้ ไม่มีทางหรอก ไม่ได้ตกใจ แก้ตัวไม่ทัน คิดไม่ทัน ผมว่าไม่แน่ใจว่านอนหลับหรือเปล่า เป็นแบบนี้มากกว่าหรือเปล่า อาจไม่ได้ปัดด้วยซ้ำไป
ตัวจำเลยโกหกครั้งแรกว่าผู้หญิงฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นจำนนต่อหลักฐาน ?
ปรเมศวร์ : ศาลฟังทุกประเด็น เอามาประกอบหมด แม้แต่ประเด็นที่แม่พูดว่าลูกเคยมาเล่า จะยิงบ้าง ตบบ้าง มันก็แสดงพฤติกรรมของเขาแล้ว สอง มาทำแบบนี้ มาพูดอย่างนี้ แล้วมาบอกทีหลังว่าไม่ใช่ ที่ผมบอกว่าเป็นการจำนนต่อหลักฐาน ที่คุณหนุ่มถาม คนถ้ากระทำผิดจะเกิดการสำนึกที่ว่าเจอแม่ยาย ถ้าไม่ได้ตั้งใจจริง ผมว่ากราบแล้วนะ เห็นไหมผู้ต้องหาไปยิงเขา ต่อมาตำรวจจับได้ ก็มากราบบิดามารดาซะก่อน นั่นคือการสำนึก แต่กรณีนี้มันมองไม่ชัด
ตำรวจไม่ได้คัดค้านการประกันตัว ครอบครัวกลัวไม่ปลอดภัย ?
ปรเมศวร์ : คุณแม่ยื่นคัดค้านได้ บอกว่าเกรงเสียรูปคดี ศาลจะเป็นคนพิจารณาว่าจะให้หรือไม่ให้ ไม่แน่ศาลอาจไม่ให้ก็ได้ เพราะเขาให้การกลับไปกลับมา
ทางนี้กลัวตำรวจช่วยกันเอง ?
ปรเมศวร์ : อย่ากลัวเลย เดี๋ยวนี้ตำรวจทำตรงไปตรงมา ใจเย็น ๆ เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมเถอะ เดี๋ยวนี้ตำรวจดีขึ้นเยอะ
![ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ. ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ.]()
หลานเอากลับมาดูเองไหม ?
แม่ : ยังไม่ได้ตกลงกันค่ะ
ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33
![ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ. ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ.]()
![ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ. ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ.]()
![ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ. ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ.]()
![ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ. ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ.]()
![ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ. ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ.]()
![ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ. ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ.]()
![ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ. ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ.]()
![ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ. ภาพข่าว แม่ แฉ ร.ต.อ.]()

รายการ โหนกระแส วันที่ 23 มิถุนายน 2563 เปิดใจสัมภาษณ์ ทองใส ภูคงน้ำ หรือ แม่เตี้ย แม่ของ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ หรือ ปูนิ่ม ภรรยาที่ถูกสามีคือ ผู้กองบอย ร.ต.อ. ทรงกลด บุญส่ง รองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง ทำปืนลั่นใส่จนเสียชีวิต มาพร้อมกับ สมัย ภูคงน้ำ น้าผู้ตาย รวมทั้ง อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี
ปูนิ่มรู้จักแฟนได้ยังไง ?
แม่ : เจอทางเฟซบุ๊ก ไม่เคยเจอรองสารวัตร แต่เคยคุย เขาคบกัน 3 ปีแล้ว
เขามีลูกด้วยกัน ลุกอายุเท่าไหร่ ?
แม่ : 2 ขวบค่ะ

วันนี้อยู่กับใคร ?
แม่ : อยู่กับแม่นม ฝั่งฝ่ายชาย
ตัวฝั่งรองสารวัตร เขามีภรรยามาก่อน แม่ทราบไหม ?
แม่ : ไม่เคยรู้เลย เขาไม่เคยเล่าให้ฟัง
น้ารู้ไหม ?
น้า : ไม่ทราบ เป็นเรื่องส่วนตัว หลานสาวคุยกับคุณแม่มากกว่า ก็เลยไม่ทราบเรื่องนี้
วันเกิดเหตุทราบเรื่องนี้ได้ยังไง ?
แม่ : ตำรวจบอกว่าลูกสาวเสียชีวิต บอกว่าลูกยิงตัวตาย

ครั้งแรกบอกปูนิ่มยิงตัวตาย ตอนนั้นแม่เชื่อไหม ?
แม่ : แม่ไม่เชื่อตั้งแต่ทีแรก คิดว่าทะเลาะเบาะแว้ง เพราะลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่าเขาเคยเอาปืนมายิง
แม่เคยบอกน้าไหม ว่าตำรวจคนนี้เคยเอาปืนจ่อ ?
น้า : ไม่ทราบเลย เพิ่งรู้ตอนตำรวจ สน.ลาดพร้าว โทร. ไป
ใครบอกว่าตำรวจเคยเอาปืนจ่อ ?
แม่ : ลูกสาวค่ะ เขาบอกว่าโดนแฟนเอาปืนจ่อหัว ก็ทะเลาะเบาะแว้งกันนี่แหละ

แม่รู้ไหมเขามีเรื่องอะไรกัน ?
แม่ : เรื่องที่ไม่เข้าใจกันนี่แหละ ตำรวจคนนี้ไม่อยากให้ปูนิ่มเอาลูกกลับกาฬสินธุ์ เพราะมีเรื่องทะเลาะกัน นิ่มอยากเอาลูกกลับไป แต่ตำรวจไม่ยอม เขาก็ทะเลาะกันเรื่อย ๆ เคยตบจนสลบ ลูกสาวเล่าสู่กันฟัง
เหตุการณ์เดียวกับที่เคยเอาปืนจ่อหรือคนละเหตุการณ์ ?
แม่ : คนละเหตุการณ์
นี่เป็นเหตุผลที่แม่ไม่เชื่อเลยว่าลูกยิงตัวตาย ?
แม่ : ใช่จ้ะ แม่ไม่เชื่อ

ปกติถนัดมือไหน ?
แม่ : ถนัดมือขวา การใช้ปืนลูกสาวก็ไม่รู้ว่าใช้ยังไง แม่ไม่เชื่อ
หลังจากนั้นแม่ได้มีโอกาสคุยกับตำรวจนายนั้นไหม ?
แม่ : ไม่เคยคุยค่ะ คุยแค่ตอนตบนี่แหละ คุยว่าไปตบไปตีทำไม ทำไมไม่คุยดี ๆ เขาก็บอกว่ามันจะเอาลูกกลับบ้าน ผมไม่ให้มันกลับ ถ้ามันกลับผมเอามันตาย จะฆ่าให้ตาย เขาบอกว่าเขาติดคุกก็ออกมาได้
ข่าวบอกว่าตำรวจนายนี้บอกว่าถ้าเอากลับไปจะฆ่ายกครัว ?
แม่ : จ้ะ ลูกสาวก็เคยบอกให้ฟัง
วันที่น้องเสียชีวิต แม่ได้มีโอกาสคุยกับตำรวจนายนี้ไหม ?
แม่ : ไม่ได้คุยค่ะ
วันที่เข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุ แม่ก็เจอเขาด้วย เขาทำยังไง ?
แม่ : เขามีพิรุธ มองหน้ามองหลัง เหมือนคิดมาก

ตำรวจนายนี้บอกว่าเขาไปข้างนอก หลังจากนั้นกลับเข้ามาตี 1 ขึ้นไปบนห้อง ภรรยางอน เขาก็เดินไปตามไปง้อ เดินจูงมือมานอนที่ห้อง แต่ภรรยาไม่ยอม เขาหลับไป แล้วได้ยินเสียงปืน ภรรยายิงตัวเองเสียชีวิต ก่อนพบเขม่าที่มือ เขาก็สารภาพว่าเขาเองนั่นแหละเป็นคนก่อเหตุ แต่แย่งกันจนปืนลั่น ?
ปรเมศวร์ : ถ้าแย่งกัน มือภรรยาก็ต้องมีเขม่า ผมคิดว่าข้อเท็จจริงก็คงชัด แต่การที่เขาพูดครั้งที่หนึ่ง สอง ไม่ตรงกัน มันเป็นพิรุธ ถามว่าจะได้ประโยชน์จากการให้การแบบนี้ไหม ข้อเท็จจริงมันเป็นแบบนี้ มันคล้าย ๆ กับจำนนกับพยานหลักฐานบางส่วน ถึงเปลี่ยนคำให้การว่าตัวเองถือปืน
ผลการตรวจ พบเขม่าดินปืนอยู่ที่มือขวาทั้งคู่ ?
ปรเมศวร์ : ก็จบไปหนึ่งตอนว่าเขาถือปืน ภรรยาอาจปัดปืน แต่ไม่รู้ปืนลูกโม่หรือออโตเมติก ถ้าออโตเมติกโอกาสลั่นยาก มันต้องกระชากลูกเลื่อนแล้วจ่อ แต่ถ้าปืนลูกโม่มันเหนี่ยวได้เลย ผมเชื่อว่าพนักงานสอบสวนเขาต้องพิสูจน์ชัดว่าข้อเท็จจริงเป็นเจตนาหรือประมาท เพราะอัตราโทษต่างกันมาก ประมาทแค่ 10 ปี ส่วนเจตนาฆ่ามีตั้งแต่ประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต จำคุก 20 ปี แต่ถ้ารับสารภาพได้รับการลดอีก ผมว่ามูลเหตุจูงใจและพฤติการณ์ ไม่ได้อยู่ที่คนตายพูดไม่ได้ ศพจะบอกได้ว่าควรเกิดขึ้นอย่างไร เดี๋ยวนี้โทรทัศน์บ้านเราเก่ง จำลองภาพให้เกิดตามคำบอกเล่า พอทำภาพแล้วเป็นไปได้ไหม วันนี้ไม่ยิงตัวตายแน่นอน เหลือประมาทหรือเจตนา แต่ตำรวจเขาพิสูจน์ได้ ที่สำคัญที่คุณแม่เล่าให้ฟังเป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งของตัวเขา จะฆ่า ๆ
เขาตบสลบก็มี เอาปืนมาจ่อหัวแล้วครั้งหนึ่งก็มี ?
ปรเมศวร์ : คุณแม่แม้ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่เป็นพยานบอกเล่าชั้นดีว่าเขามีพฤติกรรมอย่างนี้ เคยกระทำอย่างนี้
แม่ : โมโหร้าย กินเหล้า ลูกสาวมีอะไรก็เล่าให้แม่ฟัง
ลูกสาวบอกเสมอคนฆ่าตัวตายใช้ไม่ได้ ?
แม่ : ใช่จ้ะ

อาจเป็นวิธีการต่อสู้ของตำรวจนายนี้หรือเปล่า ปืนลั่นโทษเบากว่าเจตนายิง ?
ปรเมศวร์ : ใช่ คดีประเภทสามียิงภรรยา หรือเป็นแฟนกันแล้วยิงกัน ปีที่แล้วก็มี ด.ต. ที่เชียงใหม่ ก็สู้กันแบบนี้ว่าปืนลั่น แต่พอดูข้อเท็จจริงมันไม่ใช่ ถ้าเราฟ้อง อัยการฟ้องว่าเจตนาฆ่า แต่ถ้าเขาสู้ว่าเป็นประมาท ศาลก็ลงเป็นประมาทได้ ต้องบอกพนักงานสืบสวนให้เอาให้ชัดว่าเป็นเจตนาหรือประมาท ผมเชื่อว่าวิทยาการตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเขาชัดเจนอยู่แล้ว ร่องรอยเขม่า มีคดีที่เถียงกันอยู่เรื่องเดียวที่เป็นประวัติศาสตร์ คือคดีคุณห้างทอง ธรรมวัฒนะ ฆ่าตัวตายหรือยิงตัวตาย ข้อพิสูจน์ไม่ชัดเจน แต่หลังจากนั้นมาข้อพิสูจน์แต่ละคดีมันชัดขึ้น
ผู้กองบอยเขามาขอโทษคุณแม่หรือสำนึกผิดอะไรไหม ?
แม่ : ไม่เลยค่ะ ไม่ติดต่อมาด้วย ติดต่อมาแต่ตำรวจ
อาจารย์พูดเรื่องเขม่าดินปืน จากข่าวที่ได้มา มีเขม่าดินปืนที่มือขวาผู้หญิงด้วย และเจอเขม่าดินปืนที่มือขวาผู้ชายด้วย ?
ปรเมศวร์ : แสดงว่าผู้ชายถือมือขวาเข้าขมับซ้าย ไม่รู้เฉียงทิศทางไหน อาจจะเฉียงหลังหรือหน้า ต้องไปดูว่าทะลุหรือเปล่าหรือมันขึ้น มีรูเข้าต้องมีรูออก เฉียงอาจไปข้างหลัง ถ้าเขาใช้มือขวา ยิงจ่อขวา คนใช้มือขวาปัดจะปัดยังไง มือขวาอาจยกขึ้นมาบังหรือเปล่า เพราะเขม่าก็เกาะได้ มันอาจกระจายได้ บางทีบาดแผลอาจมีเขม่าก็ได้ถ้ายิงระยะใกล้ แต่เชื่อว่าพิสูจน์หลักฐานคงชัด ใช้มือขวาปัดขณะที่ยิงข้างซ้ายน่าจะยาก ถ้าแย่งถามว่าจะแย่งมือเดียวหรือสองมือ โดยหลักการ ตรรกะมันยาก ถ้าลงแสดงว่าเขาอยู่ข้างบน
85 องศาเฉียงลง แสดงว่าผู้หญิงนั่งอยู่ ?
ปรเมศวร์ : ศาลฟังพยานหลักฐาน ลักษณะบาดแผลเฉียงลงล่างแสดงว่าอยู่ข้างบน ถ้า 85 ลงคืออยู่ต่ำ ไอ้นั่นก็ต้องยืน ตัดประเด็นเรื่องฆ่าตัวตายทิ้ง ปัญหาอยู่ที่ว่าแย่งหรือไม่แย่ง หรือเจตนา

สันนิษฐานว่าปูนิ่มนอนอยู่บนโซฟา แล้วยิงเฉียงลง ?
ปรเมศวร์ : ไม่รู้นั่งหรือนอน แต่ขณะที่เฉียงลง ตื่นหรือหลับ เพราะตัวผู้ต้องหาเขาบอกเขาเมา น้องถ้านอนอยู่ตื่นหรือหลับ ถ้าฟังว่าหลับก็จบอีกเหมือนกัน ไม่ได้แย่ง แค่ข้างนี้ก็ลำบากแล้ว
กรณีแรกเลย ทางผู้กองบอยบอกว่าน้องยิงเอง ฆ่าตัวตาย อันนี้ถือว่าพลาดไหม ?
ปรเมศวร์ : อันนี้พลาดแล้ว ตอนนั้นคิดไม่ทัน
เขาบอกเขาตกใจ ?
ปรเมศวร์ : โอ้โห ร.ต.อ. สติไม่มีขนาดนี้ ไม่มีทางหรอก ไม่ได้ตกใจ แก้ตัวไม่ทัน คิดไม่ทัน ผมว่าไม่แน่ใจว่านอนหลับหรือเปล่า เป็นแบบนี้มากกว่าหรือเปล่า อาจไม่ได้ปัดด้วยซ้ำไป

ตัวจำเลยโกหกครั้งแรกว่าผู้หญิงฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นจำนนต่อหลักฐาน ?
ปรเมศวร์ : ศาลฟังทุกประเด็น เอามาประกอบหมด แม้แต่ประเด็นที่แม่พูดว่าลูกเคยมาเล่า จะยิงบ้าง ตบบ้าง มันก็แสดงพฤติกรรมของเขาแล้ว สอง มาทำแบบนี้ มาพูดอย่างนี้ แล้วมาบอกทีหลังว่าไม่ใช่ ที่ผมบอกว่าเป็นการจำนนต่อหลักฐาน ที่คุณหนุ่มถาม คนถ้ากระทำผิดจะเกิดการสำนึกที่ว่าเจอแม่ยาย ถ้าไม่ได้ตั้งใจจริง ผมว่ากราบแล้วนะ เห็นไหมผู้ต้องหาไปยิงเขา ต่อมาตำรวจจับได้ ก็มากราบบิดามารดาซะก่อน นั่นคือการสำนึก แต่กรณีนี้มันมองไม่ชัด
ตำรวจไม่ได้คัดค้านการประกันตัว ครอบครัวกลัวไม่ปลอดภัย ?
ปรเมศวร์ : คุณแม่ยื่นคัดค้านได้ บอกว่าเกรงเสียรูปคดี ศาลจะเป็นคนพิจารณาว่าจะให้หรือไม่ให้ ไม่แน่ศาลอาจไม่ให้ก็ได้ เพราะเขาให้การกลับไปกลับมา
ทางนี้กลัวตำรวจช่วยกันเอง ?
ปรเมศวร์ : อย่ากลัวเลย เดี๋ยวนี้ตำรวจทำตรงไปตรงมา ใจเย็น ๆ เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมเถอะ เดี๋ยวนี้ตำรวจดีขึ้นเยอะ

หลานเอากลับมาดูเองไหม ?
แม่ : ยังไม่ได้ตกลงกันค่ะ
ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33







