หนุ่มช้ำรัก แฉแฟนสาวติด HIV แถมเอามาติดตัวเอง - ฝ่ายหญิงแฉกลับ ติดยา

          หนุ่มสุดช้ำ หลังแฟนสาวติดเชื้อ HIV ไม่ยอมบอก ต้องหาหลักฐานเอง ฝ่ายหญิงแฉกลับ ฝ่ายชายติดยา ไม่ยอมทำงาน จึงตีตัวจาก เผยเคยถูกขู่ฆ่าถ้าเลิกกัน



          จากกรณีหนุ่มคนหนึ่งได้ออกมาโพสต์เล่าชีวิตรักที่ไม่สมหวังของตัวเองผ่านทางเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ตนได้คบกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีการผูกข้อไม้ข้อมือแต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะไปเจอหลักฐานว่าแฟนสาวติดเชื้อ HIV แต่ไม่ยอมบอกสักคำ ทำให้ตนติดเชื้อตามไปด้วย ซ้ำยังมาทิ้งตนไปอีกจนชีวิตพัง พร้อมกับลั่นวาจาด้วยความคับแค้นใจว่า #ผมไม่ยอมทุกข์คนเดียวแน่นอนคุณอย่าหวังที่จะมีความสุขเลยอับอายแต่ร้ายใครยอม จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์โจมตีฝ่ายหญิงอย่างหนัก


          ล่าสุด (24 มิถุนายน 2563) รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า สามารถติดต่อกับฝ่ายหญิงได้แล้ว ทราบชื่อคือ น้องมิ้น อายุ 22 ปี ซึ่งเธอยอมเปิดใจพร้อมกับเล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า คบกับฝ่ายชายชื่อ นายไนท์ อายุ 25 ปี เมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2562 จากนั้น 1 เดือน ก็ตัดสินใจแต่งงานด้วยการผูกข้อไม้ข้อมือ โดยมีญาติของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นพยาน และยอมรับว่าเธอไม่ได้บอกกับฝ่ายชายเรื่องที่ติดเชื้อ HIV


          จากนั้นเมื่อต้นปี 2563 นายไนท์เริ่มสงสัยในตัวเธอ และแอบไปค้นข้าวของในห้องขณะที่เธอไม่อยู่บ้าน จนพบเอกสารทางการแพทย์ว่าเธอติดเชื้อ HIV ซึ่งตอนนั้นนายไนท์โกรธมาก และข่มขู่เธอมาตลอด ถึงขั้นขู่ฆ่าถ้าหากเลิกรากับเขา โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอก็ยอมรับผิดที่ไม่บอกความจริงกับฝ่ายชาย กระทั่งล่าสุดเธอเริ่มทนไม่ไหว เพราะฝ่ายชายติดยาเสพติด ไม่ทำงานทำการ เธอต้องเป็นฝ่ายหาเลี้ยงมาโดยตลอด จึงขอเลิกและหนีออกมา จนนายไนท์ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแฉเธอ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งเธอได้ขอให้นายไนท์ลบโพสต์ทั้งหมดในเฟซบุ๊ก มิเช่นนั้นจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด


          ส่วนเรื่องที่มีกระแสวิพากวิจารณ์ถึงรอยสักรูปนกฮูกบนหน้าอก ว่าเป็นแก๊งเดียวกับกลุ่มหญิงสาวที่ค้าบริการทางภาคเหนือหรือไม่ เธอปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เป็นความชอบส่วนตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์