จับ นริน อนาจารเด็ก 5 ขวบ ทำคนโยงอาจเอี่ยวคดีน้องชมพู่ เจ้าตัวลั่น ผมไม่ได้ทำ !

        จับ นริน อนาจารเด็ก 5 ขวบ เจ้าตัวลั่น "ผมไม่ได้ทำ" แต่การโดนจับครั้งนี้ ทำคนโยงไปถึงคดีน้องชมพู่ ด้านแม่น้องชมพู่ ชี้ เป็นหน้าที่เขาต้องพิสูจน์ตัวเอง ด้านแรมโบ้ เชื่อ หากเจอดีเอ็นเอ ปิดคดีแน่นอน



         เมื่อวานนี้ (24 มิถุนายน 2563) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายนริน เชื้อคมตา วัย 48 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร ข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี หลังพบว่ามีการก่อเหตุอนาจารเด็ก 5 ขวบ ที่เป็นหลานสาว ก่อนเกิดเหตุน้องชมพู่เสียชีวิต ซึ่งนายนรินก็ปฏิเสธกับสื่อชัดเจนขณะถูกจับกุมว่า "ผมไม่ได้ทำ"

         ด้าน นายตี๋ (นามสมมติ) บุตรชายนายนริน กล่าวว่า พ่อของตนถูก สภ.กกตูม เชิญตัวตั้งแต่ 3 วันที่แล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตนไม่รู้ว่าพ่อถูกเชิญตัวไปในคดีอะไร เพราะตำรวจก็ไม่ได้บอก และตนก็ไม่เคยไปหาพ่อ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าพ่อไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนแม่ก็ไปหาพ่อบ้าง บอกแค่ว่าพ่อสบายดี ตอนนี้แม่ไม่อยู่บ้าน ไม่รู้ว่าออกไปไหน

         ขณะเดียวกัน นายนรินเคยให้สัมภาษณ์ พร้อมกับโชว์แขน ถอดเสื้อ พบว่าไม่มีร่องรอยของการขีดข่วน ไม่มีเสื้อสีส้ม เพราะไม่ได้เป็นคนซื้อปุ๋ย และยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ต้องหาคดีน้องชมพู่แต่อย่างใด


         ส่วน นางปุ้ย เชื้อคมตา ชาวบ้านที่รู้จักกับนายนริน กล่าวว่า เรื่องคดีอนาจารเด็ก 5 ขวบ ไม่เคยมีผู้ใหญ่ทำกับเด็ก เรื่องผ่านมา 5-6 เดือน และทางครอบครัวก็ไกล่เกลี่ยกันเรียบร้อย ทั้งนี้ เรื่องที่ถูกออกหมายจับ น่าจะเป็นการเข้าใจผิด เพราะที่ได้ยินมาคือเป็นเรื่องระหว่างเด็กกับเด็กที่ไม่ได้มีการแจ้งความกัน ตนไม่เชื่อว่านายนรินจะทำได้ เพราะอีกฝ่ายก็มีลูก และเด็กที่บอกว่าเป็นหลานสาวก็เป็นลูกพี่ชายนายนรินด้วย

         ขณะที่ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ กล่าวว่า วันนี้มีคนโทรศัพท์มาสอบถามตนเรื่องออกหมายจับชายกระทำอนาจารเด็ก 5 ขวบ ซึ่งที่บ้านกกกอกไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน ไม่มีใครทำอนาจารหลานในหมู่บ้าน ได้ยินแต่เรื่องเด็กที่ทำอนาจารกับเด็กเท่านั้น สุดท้ายเด็กบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นคนทำ ที่เหลือขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เป็นหน้าที่เขาที่จะต้องพิสูจน์ตัวเอง

         ด้าน พ.ต.อ. สุรโชค เจษฎาเดช ฉายาสารวัตรแรมโบ้ อดีตผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ และอดีตสารวัตรกองปราบปรามนครบาล กล่าวว่า มีโอกาสสูงที่นายนรินจะเกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ เพราะอยู่หมู่บ้านเดียวกัน รู้จักกันมาก่อน แต่เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ต้องมีพยานบุคคล พยานแวดล้อม และดีเอ็นเอ ถ้าหากมีดีเอ็นเอแล้วยิ่งปิดคดีได้เลย

         ต่อมา เวลาประมาณ 20.00-21.00 น. ภรรยานายนรินก็กลับมาถึงบ้าน ปฏิเสธการให้ข่าว อ้างว่าอยากพักผ่อน


ขอบคุณข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว