ศาลฎีกาสั่งจำคุก 5 นปช. บุกบ้าน พล.อ. เปรม 2 ปี 8 เดือน ชี้ เป็นการกระทำที่ร้ายแรง มีการเตรียมวางแผนไว้ล่วงหน้า ส่วนเหตุผลที่ขอลดโทษนั้นฟังไม่ขึ้น
วันที่ 26 มิถุนายน 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า ศาลฎีกา อ่านคำพิพากษาในคดีที่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ร่วมกันไปชุมนุมหน้าบ้านพักของ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี ที่บ้านพักแยกสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550
คดีนี้ อัยการโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย 7 คน ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และศาลชั้นต้นยกฟ้องจำเลย 2 คน คงเหลือจำเลย 5 คน ที่ต่อสู้คดีถึงชั้นศาลฎีกา โดยศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี 8 เดือน และให้ประกันตัวระหว่างฎีกา
โดยจำเลยที่ 1 คือ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว ให้การปฏิเสธ อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายในระหว่างการชุมนุม ไม่ได้ไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ ส่วนจำเลยที่ 4-7 คือ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และ นพ.เหวง โตจิราการ ให้การรับสารภาพในชั้นศาลฎีกาว่า ไปร่วมชุมนุมหน้าบ้านพัก พล.อ. เปรม ด้วยเจตนาให้เกิดประโยชน์กับประเทศในระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุวุ่นวาย จนควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
ศาลฎีกาพิเคราะห์จากพฤติกรรมและพยานหลักฐานแล้ว
การที่จำเลยฎีกาขอให้ศาลลงโทษสถานเบานั้น ฟังไม่ขึ้น
จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา
เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำที่ร้ายแรง มีการเตรียมวางแผนไว้ล่วงหน้า
ในการนำกำลังมวลชนไปใช้กำลังประทุษร้าย และต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเกิดการปะทะกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ซึ่งเป็นการสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
แม้ว่าตำรวจจะสั่งให้ยุติการชุมนุมถึง 3 ครั้ง
แต่กลุ่มผู้ชุมนุมกลับใช้ก้อนหินขว้างปาตำรวจ และการที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา
สเปรย์พริกไทย ในการควบคุมสถานการณ์ ถือว่าเป็นไปด้วยชอบแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
คดีนี้ อัยการโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย 7 คน ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และศาลชั้นต้นยกฟ้องจำเลย 2 คน คงเหลือจำเลย 5 คน ที่ต่อสู้คดีถึงชั้นศาลฎีกา โดยศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี 8 เดือน และให้ประกันตัวระหว่างฎีกา