ลูกชาย อดีต ผอ.โรงเรียน แจ้งจับช่องส่องผี กล่าวหาพ่อที่ตายรับสินบน-เป็นเปรต

        ลูกชาย อดีต ผอ.โรงเรียน แจ้งจับพิธีกร "ช่องส่องผี" หลังกล่าวหาว่าพ่อที่ตายไปแล้ว เป็นเปรตเพราะมีบาปหนัก ตอนมีชีวิตรับเงินใต้โต๊ะ ยืนยัน พ่อทำคุณประโยชน์ สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนมาโดยตลอด

         หลังจากที่เพจแหม่มโพธิ์ดำ เปิดวอร์ใส่รายการ "ช่องส่องผี" พร้อมโจมตีว่า เป็นการรับเงินบริจาคแบบลวงโลก รวมถึงเป็นรายการบิดเบือนประวัติศาสตร์ ทำให้ทางรายการต้องออกมาชี้แจงถึงการบริจาคว่าโปร่งใส ยินดีให้ตรวจสอบ กระทั่งแหม่มโพธิ์ดำ ได้ออกมาขอโทษหลังเช็กสเตตเมนต์ 1 พันหน้า แล้วพบว่าไม่มีความผิดปกตินั้น

 อ่านข่าว : แหม่มโพธิ์ดำ ขอโทษ ช่องส่องผี บริจาคลวงโลก เช็กสเตตเมนต์ 1 พันหน้า ไม่พบพิรุธจริง !

         ล่าสุด (4 กรกฎาคม 2563) Newslism ได้รายงานคลิปสัมภาษณ์ของลูกชายอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม เกี่ยวกับที่ได้เข้าแจ้งความหมิ่นประมาทคนตาย กับผู้ดำเนินรายการช่องส่องผี ทั้ง 4 คน ได้แก่

         1. นายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือ บ๊วย

         2. นายศราวุฒิ วรพัทธ์ทวีโชติ

         3. นายพลเชฏฐ์ อินทร

         4. นางสุระประภา คำขจร หรือ อ.เรนนี่

         โดยระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 ทางรายการได้ไปถ่ายทำภายในโรงเรียน มีชื่อตอนว่า "ตำนานผีในโรงเรียน" โดย 2 ใน 4 ผู้ดำเนินรายการเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนี้ด้วย ได้พูดจาในทำนองโรงเรียนแห่งนี้มีวิญญาณอยู่เต็มไปหมด และพูดถึงอดีต ผอ.โรงเรียน คนหนึ่งเป็นเปรตอยู่ที่นี่ เนื่องจากรับเงินใต้โต๊ะ จนมีบาปหนัก ตายไปจึงกลายเป็นเปรต

         จากพยานหลักฐานที่พูดในคลิปทั้งหลายรู้เลยว่าเป็นใคร แม้ว่านักเรียนเก่าหรืออดีตครูฟังแล้วก็รู้เลยว่าที่เขาพูดถึงนั้นหมายถึงใคร ซึ่งก็คือพ่อของตน แต่ข้อเท็จจริงมันไม่ใช่เลย พ่อตนเป็นคนที่สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน ทำคุณประโยชน์มาโดยตลอด แม้กระทั่งเกษียณราชการไปแล้ว ก็ยังมีงานในมูลนิธิที่ไปช่วยตลอดจนถึงแก่กรรม

         แต่เมื่อทางรายการพูดพาดพิงในเรื่องนี้ ตนในฐานะเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย ก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้สรุปสำนวนแจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 4 คนไว้แล้ว อยู่ระหว่างสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ และตนก็จะเข้าไปเป็นโจทก์ร่วมในการดำเนินคดีด้วย

         ทั้งนี้ สาเหตุที่ตนออกมาดำเนินคดี เนื่องจากก่อนที่รายการจะออกอากาศ ทางนักเรียนเก่าที่เป็นรุ่นพี่ที่พิธีกรรายการรู้จักได้คุยกับกลุ่มคนเหล่านี้ ตักเตือนว่าไม่ควรเอาออกอากาศเพราะมันดูไม่เหมาะสม เนื่องจากมีการพาดพิงถึงบุคคลอื่น แต่กลุ่มคนผลิตรายการก็ไม่ได้สนใจ

         แม้กระทั่งสมาคมนักเรียนเก่าเอง หลังออกเทปไปก็ได้เชิญมาชี้แจง แต่ทางรายการก็ไม่ได้มา เท่าที่ตนทราบ กลุ่มคนเหล่านั้นมองว่าพวกเขาทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ได้ทำอะไรผิด ใช้วิจารณญาณในการชมเอา แต่สำหรับในมุมของตน มองว่าการใช้สิทธิ์ของเขามันเกินขอบเขต เพราะทำให้ผู้อื่นเสียหาย การหมิ่นประมาทคนตายเป็นความผิดอาญา ทำให้พ่อเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนในนามครอบครัว จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก Newslism