ลุงพล สุดทนของขึ้น แฉยับพิรุธ แม่น้องชมพู่ หลังถูกสงสัย ลั่นไม่ได้ฆ่า ท้าเผชิญหน้าออกสื่อพร้อมกัน ชี้ขนาดลูกตัวเองตายแต่ไม่ยอมล้างหน้าศพลูก
จากกรณี คดีน้องชมพู่ เด็กหญิงที่หายตัวปริศนาจากบ้าน ก่อนพบเป็นศพนอนเสียชีวิตในป่า ซึ่งในขณะนี้เวลาผ่านไปนานเกือบ 2 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ รายการ โหนกระแส วันที่ 7 กรกฎาคม 2563 เปิดใจสัมภาษณ์ "ลุงพล" กรณีที่ แม่-พ่อ-ยาย น้องชมพู่ เปิดเผยว่า สงสัยลุงพลว่าเป็นคนฆ่าน้องชมพู่ลุงพลลำบากใจและอึดอัดใจ ?
"ไม่รู้สึกอึดอัดใจ ถ้าแม่เขากล้าออกมาพูดแบบนี้ ผมก็กล้าออกมาพูดเรื่องประเด็นอื่นที่สังคมต้องรับรู้"
2 เดือนแล้วจับตัวคนร้ายไม่ได้ วันนั้นลุงพลมาคุยครั้งแรก พาศพน้องมาชันสูตรรอบ 2 ลุงก็ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่น้องจะเดินขึ้นภูไป ?
"ก็ยังยืนยัน สภาพบนภูเป็นภูเขา เป็นที่สูง เด็ก 3 ขวบไม่น่าเดินขึ้นไปเองได้ ทุกคนคิดเหมือนกันหมด ถ้าไม่มีคนพาขึ้นไป
เป็นไปไม่ได้"
อะไรคือสิ่งที่แม่และยายน้องชมพู่ มาสงสัยเราว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ?
"ขอแก้เรื่องแม่ยาย แม่ยายผมออกมาพูดแล้วว่าเขาไม่ได้สงสัยในตัวผม น่าจะเป็นฝ่ายแม่น้องมากกว่าที่สงสัยผม"
แม่กับยายบอกว่าให้พี่น้องมาประชุมกันเพื่อพูดคุยกัน ทุกคนมาหมด แต่ลุงไม่ไปคนเดียว ?
"ประเด็นนี้ลุงไม่รู้เรื่อง ป้าก็ไม่รู้เรื่อง ไม่มีใครบอก"
พอถึงเวลาเขาบอกลุงไม่มา ?
"ปกติลุงก็ไม่ไปอยู่แล้ว ถ้าลุงไปบ้านน้องชมพู่ยามนี้
เป็นเรื่องผิดปกติแน่นอน เพราะชีวิตประจำวันผมอยู่บ้านคนเดียว
เมื่อก่อนถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ไปเลย ไม่ผ่านเลย น้อยมาก นอกจากมีธุระจริง ๆ"
สนิทกับน้องไหม ?
"สนิทช่วงหลัง ๆ ที่น้องเข้าเตรียมอนุบาล มีโอกาสคลุกคลีกันเยอะ ไปอำเภอ
ไปจังหวัด ไปตลาดทุกครั้ง ผมจะขึ้นไปชวนน้องกับครอบครัว
เราก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอยู่แล้ว แต่บางครั้งน้องก็ไป บางครั้งก็ไม่ได้ไป"
หลังน้องเสียชีวิต ลุงไม่ได้ขึ้นไปบ้านน้องอีกเลย ?
"ตั้งแต่วันน้องเสีย แม่น้องบอกว่าตั้งแต่วันเผาน้อง
ลุงไม่เคยขึ้นไปบ้านเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ เพราะงานศพน้องเสร็จแล้ว
ธรรมดาลุงก็ไม่ไปอยู่แล้ว ลุงจะขึ้นไปเพื่ออะไร งานศพน้องเสร็จแล้ว
เผาศพน้องแล้ว แล้วประเด็นที่สงสัยอยากจะถามแม่น้อง วันเผาศพน้องชมพู่
คนอื่นล้างหน้าศพชมพู่หมด ทำไมพ่อแม่เลี่ยงไม่ไปล้างหน้าศพ
มันเป็นนิสัยพ่อแม่ที่รักลูกไหมที่ทำแบบนี้
มันเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเห็นหน้าลูกตัวเอง ขณะที่คนอื่นล้างหมด
เสียใจยังไงก็เป็นวาระสุดท้ายที่พ่อแม่จะทำให้ลูก ถ้ารักลูกจริง ๆ ต้องทำ"
ลุงล้างไหม ?
"ล้างครับ ป้าก็ล้าง พ่อตาก็ล้าง แต่พ่อแม่ไม่ล้าง"
คิดอีกมุม เขาไม่อยากเห็นหน้าลูกที่เสียชีวิต คิดแบบนี้ได้ไหม ?
"ถามว่าวันที่เราค้นหาน้องชมพู่ จะมีช่วงที่พ่อแม่น้องไปหาน้องโดยลำพัง
อันนี้ผมไม่ทราบนะว่ามีเวลาช่วงนั้นไหม ผมสงสัยว่าเขาไปหาช่วงไหนยังไง"
พ่อแม่น้องชมพู่เคยขึ้นไปหาไหม ?
"รู้สึกว่าจะมีการค้นหาตอนกลางคืน ซึ่งผมไม่เคยออกค้นหาเลยตอนกลางคืน
ผมนอนอยู่ที่บ้าน พ่อแม่น่าจะขึ้นไป แต่ไม่แน่ใจว่ากี่วัน
แต่หลังจากออกค้นหาตอนกลางคืน พ่อแม่น้องชมพู่ไม่เคยขึ้นภูเหล็กไฟอีกเลย
ผมสงสัยว่าเขาไปเจออะไรไหมระหว่างที่ออกไปหาลูกเขา
อยู่มาวันหนึ่งเจ้าหน้าที่มาหาผม มีเรื่องปรึกษาให้ไปเจอที่บ้าน ผมก็ไป
วันนั้นผมพาน้องโอม ลูกชาย ไปโรงพยาบาล
พอกลับมาท่านบอกมีเรื่องปรึกษาให้ไปที่บ้าน
พอไปที่บ้าน พิสูจน์หลักฐานมาที่บ้านเต็มหมดเลย จะค้นในบ้านผม
แต่ผมไม่ให้ค้นเพราะไม่มีหมายค้นอะไร ผมขับรถออกมาหน้าบ้าน
ปรากฏว่านักข่าวที่อยู่ในพื้นที่เขาก็มาตั้งกล้องทำข่าว
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปที่รถผมแล้ว หลังจากพิสูจน์หลักฐานในรถผม
ถ้าถามว่าดีเอ็นเอชมพู่อยู่ในรถผม มีนาคมน้องก็ขึ้นรถผม เคยอาเจียนใส่รถผม"
แม่เขารู้ไหม ?
"แม่เขาก็รู้ มันอาจจะนาน แต่รถผมไม่เคยล้างทำความสะอาด
ในรถผมใช้แค่ผ้าเช็ด แต่รถของญาติ ๆ มีเกือบจะทุกคน ทำไมมาตรวจแค่รถผม
วันนั้นทำให้ผมเสียใจมากเลยต้องโกนหัว โกนคิ้ว ถ้าไม่ปลงผมสติแตกแน่"
ครอบครัวสงสัยเรื่องไทม์ไลน์ น้องหายวันที่ 11 ลุงทราบไหมกี่โมง ?
"ลุงยืนยันว่าลุงไม่รู้เรื่องว่าน้องหายตอนไหน เพราะลุงไม่เจอน้องเลย"
บางสื่อบอกว่าประมาณ
09.45-10.00 น. แต่อีกมุมหนึ่งในสำนวน ออกจากบ้านลุง 09.30 น. แล้วช่วงนั้นลุงหายไป ไปถึงวัด 10.10 น. 40 นาทีนั้น ลุงหายไปไหน ?
"วันที่ 11 ลุงได้ไปจัดจีพีเอสสวนมันสำปะหลังกับแม่น้องชมพู่
วันนั้นลุงยืนยันว่าวันที่ออกจากสวนยาง เป็นเวลา 09.22 น.
นาฬิกาดูจากป้าแต๋น เขาดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือ
เจ้าหน้าที่ถามว่าขับรถจากสวนยางใช้เวลากี่นาที ผมก็บอกว่าไม่เกิน 09.30 น.
พอถึงบ้านผมก็ไปอาบน้ำ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าไปรับพระครูที่วัด
เขาก็ถามว่าใช้เวลาอาบน้ำเท่าไหร่ กี่นาที เคลื่อนรถออกจากบ้านกี่นาที
ผมก็เลยระบุตัวเลขให้เจ้าหน้าที่เขาพิมพ์เป็นสำนวนการให้ปากคำ
ไปถึงวัดกี่โมง ผมนัดพระ 10 โมง ก็ต้องไปให้ถึง 10 โมง ทำให้ตัวเลขมันลง
แล้วจู่ ๆ มาสงสัยผมเรื่องเวลาไปรับพระ"
ที่เขาสงสัยเพราะจากบ้านลุงไปวัดแค่
7 นาที แต่บังเอิญลุงออกจากบ้านที่ในสำนวน ลุงบอก 09.22 น. แต่ไปถึงวัด
10.10 น. ไอ้ 33 นาที ลุงหายไปไหน นี่คือสิ่งที่เขาสงสัย ?
"ผมอธิบายแล้วนะครับ ผมกลับมาถึงบ้าน 09.30 น. และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
เวลา 09.30 น. น่าจะมาถึง 09.45 น. หรือ 09.50 น. ที่ผมอยู่ที่บ้าน
แล้วสตาร์ตรถผมไปรับพระ อาจเป็น 09.50 น. ก็ได้ แต่ผมบอกพระว่า 09.45 น.
เพื่อให้มันง่าย แล้ววันนั้นสอบผมทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นนอนยันตี 3 ถามว่าใครจะมีความจำดี จำได้ถึงขนาดว่าตัวเองไปไหนทุกนาที ทุกวัน"
สะดิ้ง พี่สาวชมพู่ ไปบ้านลุงกี่โมง ?
"ผมไม่ทราบครับ เพราะตอนผมขับรถออกจากบ้าน ผมไม่เห็นน้องสะดิ้งมาที่บ้าน"
มีกรณีที่ลุงไปบอกที่วัดว่ามาช้าหน่อย พอดีหาหลานอยู่ หลานหายไป ลุงรู้แล้วเหรอตอนนั้น ?
"ยืนยันว่าไม่ได้พูดประเด็นนั้น พระที่วัดก็ไม่รู้ ท่านอธิการบุญมาก็ไม่รู้"
มีคนใส่ร้าย ?
"มีคำให้การของพระอธิการบุญมา ที่เจ้าหน้าที่เรียกท่านไปสอบสวน
ท่านอธิการบุญมาบอกว่าผมได้พูดแล้วว่าหลานหาย คำให้การท่านไม่ตรง มันไม่ใช่
ประเด็นวันนั้นผมไปจอดรถหน้าศาลาการเปรียญเพื่อกราบพระประธาน
แล้วผมนำบาตรของท่าน กลดของท่าน เครื่องใช้ส่วนตัวมาไว้ที่รถ
แล้วเดินไปครัวกลางของวัด เจออธิการบุญมา ผมก็เข้าไปคุยกับพระอาจารย์"
พระพูดเอง โดยไม่ได้รู้ว่าหายไป ?
"ไปเชื่อพระอาจารย์ไงครับ ไม่เชื่อคำพูดของผม ผมก็เกิดความซวย อะไรทุกอย่างก็มารุมที่ผม"
เขาว่าลุงแอ็คติ้งเยอะมาก งานศพหลานไปร้องไห้ มานั่งในรายการดีใจร้องไห้เจอรอยแผลบนร่างกายหลาน ?
"คนที่คิดว่าผมแอ็คติ้งเยอะ ลองคิดไปถึงชีวิตจริงตัวเอง
ลองให้หลานที่ตัวเองรัก อยากดูแล เอ็นดูเขา ลองไปตายโหงบนภูเขา
ดูสิจะมีสภาพแบบผมไหม ผมคนเดียวในครอบครัวที่ไปเจอเหตุการณ์แบบนั้น
คนที่คิดแบบนั้นเป็นศูนย์รวมสัตว์นรก ผมได้ยินแต่พยายามไม่ตอบโต้ใคร"
ลุงมีกี่เบอร์ ?
"มีเครื่องเดียว ตอนเขาโทร. มาว่าน้องหายไปก็เครื่องนี้
หลักฐานทุกอย่างยังอยู่ครบ ตอนโทร.
ไปบอกแม่น้องชมพู่น่าจะเป็นเครื่องป้าแต๋น"
ลุงปล่อยรูปวันเผาศพ ลุงสงสัยว่าทำไมพ่อแม่ต้องรีบเอาเสื้อผ้าน้องไปเผา ?
"อันนี้เป็นประเพณีคนในพื้นที่
คนเสียชีวิตเขาจะเอาเสื้อผ้าไปเผาทิ้งด้วยบางส่วน
ประเด็นเรื่องเสื้อผมก็สงสัยว่าทำไมพาน้องลงมาทำพิธี จนเผาเรียบร้อย
หลังจากนั้นเราก็ตามหาเสื้อที่หายไปเพื่อเป็นหลักฐานมัดตัวคนร้าย
แต่แม่บอกว่าใครเจอเสื้อให้ระวังตัว
ทุกวันนี้ทั้งลุง ป้า พี่น้อง ชาวบ้านที่เขาอยากเห็นเสื้อ
เขาพยายามไปหาร่างทรง หมอธรรม ที่เราไปทุกวันเราไม่ได้ไปโดยพลการ
เราบอกให้พ่อแม่เขาไปด้วยกัน แต่เขาไม่ไป"
ทำไมแม่ถึงต้องบอกว่าถ้าเจอเสื้อให้ระวังตัว ?
"ผมไม่ทราบครับ ก็สงสัยอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น จริง ๆ
คนเป็นพ่อแม่ยิ่งหาหลักฐานได้เท่าไหร่ก็ยิ่งสาวไปถึงตัวคนร้ายได้ไวขึ้น
อันนี้เจ้าหน้าที่ทำงานไม่รู้จะไปหาข้อมูลจากใคร
เบาะแสจากคนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครบอก
เขาต้องอาศัยเบาะแสคนในหมู่บ้านเขาถึงจะช่วยเราได้
แล้วทำไมพ่อแม่เขาไม่อยากเห็นเสื้อผ้าลูกเขาที่หายไป ผมถามว่าไม่อยากเห็น
กลัวอะไร กลัวไปจับหรือกลัวมีหลักฐานติดเสื้อ
ที่คิดอยู่ตลอดและไม่เคยพูดผ่านสื่อเลย"
ขนหมาล่ะ ?
"ผมไม่ทราบว่าขนหมาติดตรงไหนของชมพู่
แต่หมาผมเวลาไปหาหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ มันไปด้วย มันไปกับเจ้าของอยู่แล้ว
ผมไม่ได้เป็นกังวลหรือร้อนตัว ตำรวจมาหาอะไรผมก็ต้องตอบ"
กับพ่อแม่น้องมีปัญหากันมาก่อน ?
"ไม่มีปัญหา เราถูกกัน ไปไหนเราไปด้วยกัน ก่อนหน้านั้นไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกัน"
เขาบอกว่าเขาโกรธลุงมากที่มาออกรายการโหนกระแส และพูดชื่อแอ๋ม ?
"มันดูในเนื้อข่าวแทนที่จะบอกว่าบ้านแอ๋มไปอยู่ตรงสามแยก มันไม่มีบ้านแอ๋ม
ผมเลยบอกว่าบ้านแอ๋มสามแยกไม่มี บ้านแอ๋มจริง ๆ อยู่บ้านน้องชมพู่
แต่ผมไม่ได้บอกว่าแอ๋มเป็นคนทำ ไม่ได้บอกว่าแอ๋มมีส่วนเกี่ยวข้อง
ที่เขาทะเลาะกันเขาเคลียร์กันแล้ว"
เขาให้ลุงพลไปขอโทษ ลุงก็ไม่ได้ไปขอโทษ ?
"ก็ผมไม่ได้ผิด ผมไม่ได้พาดพิงแอ๋ม ผมบอกว่าแอ๋มอยู่ในบ้าน ไม่ได้ไปไหน"
ลุงเดือดเหมือนกัน ?
"มันไม่ไหวแล้วครับ ต้องเคลียร์แล้วครับ"
ตัดพี่ตัดน้องกันเลยหรือเปล่า ?
"ป้าบอกไปแล้ว ถ้าสงสัยตัวลุงพล ตัดพี่ตัดน้องไปเลย ไม่ต้องมาคบหา
ให้จบไปเลย ผมยืนยันว่าถ้าป้าคิดอย่างนี้ ผมก็ต้องคิดตามแฟน"
เมียลุงพลฝากจดหมายมาหา บอกว่าตอนสอบปากคำ ครั้งหนึ่ง
รอง..สอบถามว่าถ้ากรณีลุงกับป้าติดคุก ป้าจะฝากลูกไว้ที่ใคร บอกมา 3 คน
ป้าบอกว่า ตา ยาย ปู่ ย่า ท่านถามต่อว่าญาติคนอื่นล่ะ
ป้าไม่ได้ตอบท่านในวันนั้น วันนี้อยากฝากบอกท่าน หากดูอยู่ และน้อง ๆ
เพราะความเห็นแก่ตัวของเขา เขาหมายถึงใครก็คิดเอาเอง
ไม่มีความเอื้อเฟื้อออกมาจากใจจริง
มีเจ้าหน้าที่หลายคนมาพูดเกี่ยวกับคนในครอบครัว
ป้าบอกทุกครั้งว่าป้าไม่กล้าคิด แม้จะสงสัยในความรู้สึกของพี่คนหนึ่ง
วันนี้เสียใจจริง ๆ กับสิ่งที่น้องคิดกับครอบครัวพี่ ป้าสงสัยอะไร ?
"ถ้าคนที่เขาดูข่าว เขาน่าจะรู้ว่าเป็นใครที่น่าสงสัย"
ป้ายังบอกว่าทุกครั้งป้าไม่กล้าคิด ไม่อยากจะคิด ?
"ผมก็ไม่อยากคิดครับ เรื่องที่สงสัยคนที่ป้าแต๋นเขียนเข้าไป เราไม่อยากคิด"
ถามจริง ๆ ลุงสงสัยฝั่งเขามานานไหม ?
"สงสัยเรื่องพฤติกรรม วันที่จะเอาน้องมาผ่าที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่กรุงเทพฯ
เขาปรึกษาเจ้าหน้าที่กับญาติคนอื่น ซึ่งผมนอนหลับอยู่ที่แคร่
เขาปรึกษากันเสร็จแต่ไม่ยอมพาน้องมาผ่าที่โรงพยาบาลตำรวจ
ผมนอนหลับอยู่เขาไปปลุกผมให้ขึ้นมา แล้วให้พาน้องมากรุงเทพฯ"
เขาบอกลุงเสนอตัวเอง ลุงเสนอตัวเองหรือเปล่าวันนั้น ?
"ไม่ได้เสนอครับ ผมนอนอยู่เขาเรียกมาให้พาลูกไปผ่าหน่อย
เขาไม่สะดวกมาทั้งพ่อแม่ ผมก็เลยมา เพราะชมพู่เป็นหลานผม
แล้วผมได้ถามว่าจะให้ผมขอความช่วยเหลือกับ ผบ.ตร. ไหม แม่เขาบอกตามใจลุง
ทำไมต้องตามใจลุงล่ะ คนเป็นพ่อแม่ต้องตามใจตัวเองสิ พ่อแม่เป็นคนสูญเสียลูก
ตัวเองเป็นพ่อแม่"
สงสัยอะไรอีก ?
"วันเผาศพน้องไม่ล้างหน้าศพน้อง มันเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเห็นลูกตัวเป็น ๆ
ทำไมไม่ทำ สงสัยวันที่ 14 มีคนเห็นรองเท้า
ทำไมไม่ขึ้นไปดูให้เห็นกับตาว่าใช่หรือไม่ใช่"
ลุงบอกพ่อเตรียมเสื้อผ้าให้ชมพู่ เขารู้ตั้งแต่แรกว่าชมพู่ไม่มีเสื้อใส่ ?
"ผมทราบภายหลัง หลังออกมาเป็นข่าว เห็นว่ามีลิ้นจี่ด้วย
เอาออกมาจากกระเป๋า แสดงว่ากระเป๋านั้นเตรียมหลายวันแล้ว
ผมก็สงสัยว่าทำไมต้องเตรียมเสื้อผ้าให้ผมเอาไปให้ลูกเขา
ทั้งที่เขายังไม่รู้เลยว่ารองเท้าเป็นของใคร ตายหรือไม่ตาย
พ่อแม่เขาต้องออกมาชี้แจงว่าทำไมต้องเตรียม แล้วรู้ได้ยังไงว่าต้องเจอ
เจอในสภาพไหน"
วันที่ลุงกับป้าแต๋นไปไหว้พระธาตุพนม ป้าแต๋นบอกว่าคนร้ายไม่ตั้งใจฆ่าชมพู่ อาจบังเอิญหรือเปล่า ป้าเขารู้เหรอ ?
"อันนั้นเป็นนิมิตของหมอธรรม หมอธรรมที่ไปทำหวยวันนั้น
ท่านพูดว่าคนร้ายอาจไม่ตั้งใจ อาจเผลอตัวทำให้ชมพู่เสียและพยายามกลบเกลื่อน
ป้าเลยเอาคำพูดหมอธรรมมาพูด อันนั้นเป็นนิมิตของหมอ"
คิดว่าคนพาน้องไปข้างบนอยู่ในหมู่บ้านไหม ?
"ผมไม่ฟันธงว่าเป็นคนในหมู่บ้านไหม คนในหมู่บ้านรู้จักนิสัยใจคอเกือบทุกคน"
บางคนในหมู่บ้านก็สงสัยลุง ?
"ก็มีสิทธิ์สงสัย แต่วันเกิดเหตุผมไม่เจอหน้าน้องชมพู่เลย
ถ้าสงสัยเรื่องความผูกพันระหว่างผมกับชมพู่
เหมือนสามีคู่หนึ่งที่มาออกรายการครั้งก่อนที่เอ่ยชื่อผมออกไป
ก็ขอบคุณที่เขาบอกว่าผมมีความสนิทสนมกับครอบครัวชมพู่ แต่จริง ๆ
ต้องพูดให้มากกว่านี้ คนในครอบครัวสนิทกับชมพู่หมด
มีความรักและเอื้ออาทรหมด ไม่ใช่มีแค่ผมที่สนิท ควรพูดให้หมดเลย
ไม่ต้องสะกิดกันขนาดนั้นหรอก"
ถ้าตำรวจออกหมายจับ ทำไง ?
"ผมต้องสู้ เพราะผมไม่ได้ทำ"
กลัวเป็นแพะไหม ?
"กลัวสิครับ กระเป๋าที่อยู่บนเขาเอาไปทำอะไร มาค้นรถผมทำไม ค้นหาอะไร
ค้นสากกะเบืออะไร มาค้นเอาอะไรตรงนี้ ถ้าถามหาดีเอ็นเอชมพู่
รถคนอื่นก็น่าจะมี ทำไมไม่ค้นล่ะ ผมบอกแล้ววันนั้นถ้าทำแบบนี้ผมถึงจะมั่นใจ
ต้องตรวจให้ทุกคนนะ ตรวจให้หมด ไม่ใช่เลือกตรวจ"
มีคนบอกว่าลุงพูดข้อเท็จจริงต่างกัน ลุงบอกว่าเข้าไปสวนยาง แต่มีคนบอกว่าลุงอยู่แถวบริเวณบ้าน ?
"มีคนข้างบ้านแต่ไม่เอ่ยชื่อ มีโอกาสได้คุยกับแก แต่เป็นเวลา 7 โมงกว่า ๆ
แต่จำไม่ได้เป็นวันที่ 10 หรือ 11 แต่วันที่คุยกับแก
เป็นวันที่น้องโอมนำโทรศัพท์มือถือไปให้ผมที่สวนยาง ว่าหัวหน้าโทร.
มาให้ไปดูเครื่องหยอดข้าว ซึ่งวันนั้นคนที่ให้การเขาบอกว่าเห็นผมตอน 9
โมงกว่า ซึ่งเวลานั้นผมอยู่กับแม่น้องชมพู่ที่สวนยางพารา
จับจีพีเอสสวนมันอยู่ คำให้การของเขาไม่ตรงกับไทม์ไลน์ของผม"
เขาบอกไปเจอรถแบ็กโฮอยู่บนภู ยายย้อมบอกว่าไม่ใช่ รถคันนี้อยู่ข้างล่างวันชมพู่หายไป วันดีคืนดี รถคันนี้ไปอยู่ข้างบน ?
"ผมถามหน่อย ขนาดวันนี้ที่มาออกรายการ ตั้งแต่ตื่นนอน
ผมทำอะไรไปบ้างหรือยัง จำได้ไหมครับ
นางย้อมออกมาให้การว่าเห็นรถแบ็กโฮอยู่ที่หลุม มันผ่านไป 2 เดือนแล้วนะ
ความจำดีขนาดนั้นเลยเหรอ"
ตำรวจบอกว่าเป็นไปได้ที่จะเอารถคันนี้หลอกล่อพาขึ้นไป
แต่ยายย้อมบอกว่าไม่ใช่
ฉันกับชาวบ้านคนอื่นก็เห็นว่ารถคันนี้อยู่ในหลุมกองทราย อยู่ ๆ
รถคันนี้ตามขึ้นไป แสดงว่าต้องมีคนร้ายเอารถนี้ขึ้นไปกลบเกลื่อนหลักฐาน ?
"แค่วันนี้ที่ผ่านไปตั้งแต่เช้า ผมยังจำไม่ได้เลยว่าทำอะไรไปบ้าง
ยายย้อมควรออกมาพูดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่มีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปหมู่บ้าน
ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก มาบอกตอน 50 กว่าวัน แล้วบอกเห็นรถแบ็กโฮ
อีกคนที่บอกว่าเห็นด้วยกันก็มากลับคำให้การแล้วว่าไม่ได้เห็น"
เปิดศึกไหม ?
"ไม่คิดว่าเป็นการเปิดศึก เป็นการปรับความเข้าใจกันผ่านสื่อ ไม่คิดที่จะมานั่งโต๊ะคุยกันเลย"
ทำไมไม่ไปนั่งคุยกัน ต่างคนต่างออกสื่อ เหมือนปั่นให้มีปัญหากันเองหรือเปล่า ?
"สำคัญที่สื่อนี่แหละ ทำไมสื่อเวลาทำข่าว เชิญเลยจะให้ค่าตัวเท่าไหร่
มานั่งเลยหน้าบ้านล้อมวงกันเลย ตระกูลพ่อตาแม่ยาย เอามานั่งคุยกันเลย
ให้ค่าตัวกันไปเลย ให้มาเจอกัน มาคุยกันเลยเป็นชอต ๆ ไปเลย"
ผมลงพื้นที่เอาแม่กับลุงมานั่งคุยกันเลยไหม ?
"ได้ครับ เอาเลยครับ เอามาคุยกันเลยประเด็นที่สงสัย
ระหว่างครอบครัวตัวเองกับเจ้าหน้าที่ที่ไปทำคดี กับชาวบ้านที่ให้เบาะแส
หลักฐานน้ำหนักตรงไหนมั่นใจกว่ากัน ที่พ่อแม่น้องชมพู่จะหายสงสัยในตัวลุง"
ยืนยันไม่ได้ฆ่าน้องชมพู่ ?
"ยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะผมรักน้องเหมือนลูกคนหนึ่ง
เป็นไปไม่ได้ที่จะทำกับหลาน เพราะผมเคยพูดอยู่แล้วว่าถ้าเขาไม่เลี้ยงชมพู่
ผมสามารถเอาเขามาเลี้ยงเองได้ ผมพูดกับคนอื่น ไม่ได้พูดกับแม่เขา
น้องมีความผูกพันกับผม ผมรู้ว่าครอบครัวน้องอยู่กันยังไง
แต่ละวันอยู่กันยังไง ผมในฐานะที่เป็นลุงเขย"
เมื่อวานลุงบอกว่าบอกตำรวจดี ๆ จะไม่ทำอะไรแบบผิด ๆ ?
"หมายถึงถ้าเจ้าหน้าที่จะปิดคดี อยากให้เจ้าหน้าที่คิดให้ดี ๆ ก่อนออกหมายจับใครสักคนในหมู่บ้าน ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน"
ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย
ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด
ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33
แสดงความคิดเห็นเรื่องไม่ไหวแล้ว ! ลุงพล แตกหัก แฉยับพิรุธ แม่น้องชมพู่ ลูกตายแต่ไม่ยอมล้างหน้าศพลูก