รัฐบาล แจงใช้งบประมาณปี 64 จัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ คุ้มค่า ประเทศมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนให้พอ อีกทั้งที่มีอยู่เก่าแล้ว ชี้ต้องใช้ในภารกิจป้องกันตามชายแดน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ภาพจาก Valentino Snap / Shutterstock.com
วันที่ 7 กรกฎาคม 2563 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำงบประมาณปี 2564 ของกระทรวงกลาโหม สำหรับซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ไปกู้วิกฤตเศรษฐกิจ ว่า พล.อ. ประยุทธ์ ได้ชี้แจงชัดเจนถึงเหตุผลความจำเป็นไปแล้ว และมีการตรวจสอบกับสำนักงบประมาณ ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ทุกประการ โดยเป็นงบฯ ผูกพันข้ามปี สำหรับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการผลิตและการแบ่งชำระ
ขณะนี้ประเทศมีความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้มีความเพียงพอ เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการสนับสนุนงบให้มีการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ ทำให้ปัจจุบันมีอาวุธยุทโธปกรณ์เก่าประมาณร้อยละ 80 และเพื่อทดแทนไม่ให้ต้องเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุง ขณะเดียวกันที่ผ่านมา ภารกิจป้องกันตามชายแดนต้องใช้กำลังพลจำนวนหลายหมื่นคนในการดูแลพื้นที่ ทำให้การแก้ปัญหาชายแดนสามารถยุติได้ระดับหนึ่งจากภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ระบุด้วยว่า
ต้องขอขอบคุณฝ่ายค้านที่แสดงความเป็นห่วงถึงการใช้งบประมาณของปี 2564
ในครั้งนี้ แต่ขอให้มีความเข้าใจและห่วงใยถึงลูกหลานที่เป็นทหาร
จำเป็นจะต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียด้วย
ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจได้ว่านายกรัฐมนตรีจะดูแลการดำเนินการทุกอย่างอย่างดีที่สุด
และใช้งบประมาณให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด
สำหรับในส่วนของงบประมาณที่นำมาให้ความช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูประเทศนั้นอยู่ในงบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท
ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ภาพจาก Valentino Snap / Shutterstock.com
ขณะนี้ประเทศมีความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้มีความเพียงพอ เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการสนับสนุนงบให้มีการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ ทำให้ปัจจุบันมีอาวุธยุทโธปกรณ์เก่าประมาณร้อยละ 80 และเพื่อทดแทนไม่ให้ต้องเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุง ขณะเดียวกันที่ผ่านมา ภารกิจป้องกันตามชายแดนต้องใช้กำลังพลจำนวนหลายหมื่นคนในการดูแลพื้นที่ ทำให้การแก้ปัญหาชายแดนสามารถยุติได้ระดับหนึ่งจากภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN