พ่อน้องชมพู่ อ้างมีพยานเห็นอยู่นาถึง 4 คน แต่หนึ่งในนั้นยันไม่รู้จัก อีกรายชี้ไม่ได้เจอที่นาแต่เจอบนถนน ฝากถึงคนร้าย หยุดเล่นละคร
กรณี ข่าวน้องชมพู่ ซึ่ง นายอนามัย พ่อของน้องชมพู่ เผยว่า มี 4 คนพร้อมเป็นพยานว่าเห็นตัวเองอยู่ที่นา ประกอบด้วย นายธนกฤต (สามีผู้ใหญ่บ้าน), นางมิน (แฟนช่างวา), นายแสงโต (สามีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน) และป้าปาน ที่อยู่บ้านกกกอก นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า นายแสงโต สามีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านขัวสูง เปิดใจว่า ตนไม่แน่ใจว่าเห็นพ่อน้องชมพู่หรือไม่ เพราะไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว หรือพ่อน้องชมพู่อาจจะเห็นตน แต่ตนไม่ได้มอง ดังนั้น จึงไม่กล้าที่จะเป็นพยานให้
ด้าน นายธนกฤต สามีผู้ใหญ่บ้านขัวสูง ลูกพี่ลูกน้องกับแม่น้องชมพู่ ยืนยันว่า เห็นพ่อน้องชมพู่ในวันเกิดเหตุจริง โดยวันนั้นตนออกจากบ้านเวลา 08.30 น. แล้วแวะซื้อน้ำแข็งที่ร้านค้า จากนั้นออกจากร้านค้าเวลา 08.37 น. เดินทางมุ่งหน้าบ้านกกกอก แต่ระหว่างทาง เวลาประมาณ 09.20 น. ตนได้ขับรถสวนทางกับพ่อน้องชมพู่ ซึ่งพ่อน้องชมพู่ขับรถไถสีส้ม สวนมาจากหมู่บ้านกกกอก ก็ได้มีการพยักหน้าทักทายกัน ยืนยันว่าเห็นเวลาดังกล่าวจริง และตอนนั้นพ่อน้องชมพู่ยังขับรถไม่ถึงนา
นายธนกฤต เผยอีกว่า รู้สึกสงสารลุงพล มั่นใจว่าลุงพลไม่ใช่ผู้ก่อเหตุแน่นอน ขณะเดียวกันก็สงสัยพ่อน้องชมพู่ กรณีอ้างว่าออกจากบ้าน 07.30 น. ซึ่งควรจะถึงนาไม่เกิน 07.37-07.40 น. แต่เหตุใดกลับมาขับรถไถสวนกับตนหลัง 09.00 น. อีกทั้งยังคาใจที่ตอนพบศพน้องชมพู่ กลับไม่ขึ้นไปดูลูก สุดท้ายอยากฝากถึงคนร้ายตัวจริงว่า ออกมารับสารภาพกับสิ่งที่ทำ อย่าปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน เพราะชาวบ้านเดือดร้อน "อย่ามัวแสดงละคร"
ขณะที่ น.ส.ชญานันท์ แม่ค้าขายอาหาร ใกล้ปากซอยทางเข้าบ้านน้องชมพู่ บอกว่า เห็นรถไถพ่อน้องชมพู่ในวันดังกล่าวจริง ไม่มั่นใจเวลา แต่เชื่อว่าเป็นช่วงหลัง 08.00 น. แน่นอน เพราะตอนที่เห็นพ่อน้องชมพู่ หลายบ้านได้ออกไปนากันเกือบหมดแล้ว ส่วนเรื่องการแต่งกายจำไม่ได้ เพราะผ่านมาหลายวันแล้ว
ทั้งนี้ จากการทดสอบขับรถไถ ขนาด 47 แรงม้า ซึ่งใหญ่กว่ารถของพ่อน้องชมพู่เล็กน้อย จากบ้านวิ่งไปนาเฉลี่ยพบว่ามีความเร็วที่ราว 8-10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจากบ้านถึงจุดที่สวนทางกับนายธนกฤต ใช้เวลาราว 10 นาที จากนั้นขับต่อไปจนถึงที่นาของยายอุ่น ซึ่งอยู่ริมถนน ห่างจากบ้านราว 2 กิโลเมตร ใช้เวลารวม 15.36 นาที ขณะที่พ่อน้องชมพู่ อ้างเวลาที่ใช้ไถนา 3 ชั่วโมง 22 นาทีต่อไร่ ซึ่งใช้เวลานานกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไป ที่ใช้เวลาแค่เพียง 1 ชั่วโมง 30 นาทีต่อไร่
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
(นายแสงโต) - ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน นายธนกฤต สามีผู้ใหญ่บ้านขัวสูง ลูกพี่ลูกน้องกับแม่น้องชมพู่ ยืนยันว่า เห็นพ่อน้องชมพู่ในวันเกิดเหตุจริง โดยวันนั้นตนออกจากบ้านเวลา 08.30 น. แล้วแวะซื้อน้ำแข็งที่ร้านค้า จากนั้นออกจากร้านค้าเวลา 08.37 น. เดินทางมุ่งหน้าบ้านกกกอก แต่ระหว่างทาง เวลาประมาณ 09.20 น. ตนได้ขับรถสวนทางกับพ่อน้องชมพู่ ซึ่งพ่อน้องชมพู่ขับรถไถสีส้ม สวนมาจากหมู่บ้านกกกอก ก็ได้มีการพยักหน้าทักทายกัน ยืนยันว่าเห็นเวลาดังกล่าวจริง และตอนนั้นพ่อน้องชมพู่ยังขับรถไม่ถึงนา
ขณะที่ น.ส.ชญานันท์ แม่ค้าขายอาหาร ใกล้ปากซอยทางเข้าบ้านน้องชมพู่ บอกว่า เห็นรถไถพ่อน้องชมพู่ในวันดังกล่าวจริง ไม่มั่นใจเวลา แต่เชื่อว่าเป็นช่วงหลัง 08.00 น. แน่นอน เพราะตอนที่เห็นพ่อน้องชมพู่ หลายบ้านได้ออกไปนากันเกือบหมดแล้ว ส่วนเรื่องการแต่งกายจำไม่ได้ เพราะผ่านมาหลายวันแล้ว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว