x close

สองผัวเมีย งง ! เจอจดหมายทวงเงินเยียวยา 5 พัน ทั้งที่ไม่เคยได้แม้แต่บาทเดียว

          สองผัวเมีย งง ! เจอจดหมายทวงเงินเยียวยา 5 พัน ทั้งที่ไม่เคยได้แม้แต่บาทเดียว เผย เคยให้ลูกหลานลงทะเบียนให้ แต่ก็ไม่ได้เงิน จึงไม่ได้สนใจ ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปคืน


สองผัวเมีย
ภาพจาก สำนักข่าว INN

          วันที่ 11 กรกฎาคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายเฉลย สถิตชน ผู้ใหญ่บ้าน บ้านเม็ง ม.2 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น พาผู้สื่อข่าวเข้าพบกับนายประวิทย์ แนนเกี้ยง อายุ 54 ปี และนางมะลิวรรณ โมลาเลิศ อายุ 51 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นลูกบ้าน เนื่องจากได้รับจดหมายทวงเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท จากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ที่ระบุใจความ ดังนี้

          "ตามที่กระทรวงการคลังได้มีมาตรการชดเชยรายได้ให้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 หรือมาตรการเยียวยา 5,000 บาท 3 เดือน และท่านได้แสดงความประสงค์สละสิทธิ์การได้รับเงินชดเชยตามมาตรการนั้น เพื่อให้การดำเนินการสละสิทธิ์เป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ให้นายประวิทย์ แนนเกี้ยง ดำเนินการคืนเงินชดเชยรายได้ทั้งหมดให้กระทรวงการคลัง ภายใน 7 วัน จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการคืนเงินชดเชยตามมาตรการด้วยจะขอบคุณยิ่ง"

          นายประวิทย์ กล่าวว่า ข้อความตามจดหมายทวงเงินชดเชยของรัฐบาลฉบับดังกล่าวนั้น น่าจะมาจากที่ตนได้ให้ลูกหลานในหมู่บ้านลงทะเบียนรับเงินเยียวยาเราไม่ทิ้งกัน ตามที่รัฐบาลประกาศช่วยเหลือประชาชนในช่วงโควิด 19 โดยการลงทะเบียนนั้นได้นำบัตรประชาชนของตนและภรรยาไปให้ลูกหลานลงทะเบียนให้เพราะทำไม่เป็น ซึ่งในการลงทะเบียนดังกล่าวลูกหลานได้ใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัวดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งเมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยก็กลับมาพักผ่อน ทำมาหากินรับจ้างตามปกติ

          นายประวิทย์ ระบุอีกว่า ก่อนจะลงทะเบียนได้ไปเปิดบัญชีที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. จำนวน 300 บาท เพื่อนำหมายเลขบัญชีลงในทะเบียนรับเงินเยียวยาดังกล่าว จนเวลาผ่านไปทั้งตนและภรรยาไม่มีใครได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว กระทั่งมีจดหมายมาทวงเงินก็ไม่มีจะคืนให้เพราะไม่ได้รับเงิน ฝากถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลว่า ตนไม่มีไร่นา ไม่มีที่ทำกิน มีบ้านไม้เก่า ๆ หลังเดียว รับจ้างหากินไปวัน ๆ ไม่มีเงินจะคืนให้ เพราะรัฐบาลไม่ได้ให้เงิน

          ขณะที่ นางมะลิวรรณ กล่าวว่า จดหมายทวงเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน ส่งมาถึงที่บ้านตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา จึงนำไปให้ผู้ใหญ่บ้านดู เพื่อให้หาทางช่วยเหลือ เพราะไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว แต่ถูกทวงเงินคืน ซึ่งในช่วงที่รัฐบาลประกาศช่วยเหลือประชาชนให้เงินเยียวยาในช่วงแรก ๆ ครอบครัวได้วานให้ลูกหลานบ้านใกล้กันลงทะเบียนให้ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่เวลาผ่านไปเป็นเดือน มีข้อความภาษาอังกฤษเข้ามาที่มือถือ ตนอ่านไม่ออกจึงกดยกเลิก จากนั้นก็ไม่ได้รับรู้อะไรอีก หรือว่าข้อความดังกล่าวคือข้อความจากโครงการชดเชยเงินของรัฐบาล หรือจะเป็นที่มาตามจดหมายทวงเงินว่าสามียกเลิก ในขณะที่ตนก็ลงทะเบียนเช่นกัน และก็ยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว

          "เรามีลูกชายสองคนทำงานอยู่ต่างจังหวัด จะส่งเงินมาให้พ่อแม่เดือนละ 1,000 บาท ทางบ้านไม่ได้มีฐานะอะไร อาชีพรับจ้างทั่วไป และเมื่อไม่มีคนจ้างงานก็ไปหาหน่อไม้ หาพืชผักขายตามหมู่บ้านชุมชน เพื่อช่วยเหลือตัวเอง และการที่สามีถูกกระทรวงการคลังส่งจดหมายมาทวงเงินคืนในครั้งนี้ เชื่อว่าทวงผิดคน จึงอยากให้มีการแก้ไขและทบทวนความผิดพลาดครั้งนี้ด้วย เพราะไม่เช่นนั้นคนจนจะทุกข์ใจเดือดร้อนเหมือนกับครอบครัวของเรา"

          ด้าน นายเฉลย ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า หลังทราบเรื่องของสองสามีภรรยาซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านที่ตนดูแลอยู่ จึงได้อ่านจดหมายทวงเงิน และสอบถามลูกหลานคนที่ลงทะเบียน ซึ่งลูกหลานก็บอกว่าลงทะเบียนให้ตามขั้นตอนที่ระบุเรียบร้อย ส่วนข้อมูลต่าง ๆ จะเข้าไปที่มือถือของคนที่ลงทะเบียน ซึ่งก็คือสองสามีภรรยาดังกล่าว และจากนั้นก็ไม่มีใครเข้าไปแก้ไขหรือยกเลิกใด ๆ ทั้งสิ้น

          "ผมยังได้พาสองสามีภรรยาไปที่ธนาคารกรุงไทย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามจดหมายที่แจ้งมา แต่ธนาคารไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ให้ได้ มีเพียงการแนะนำให้โทรศัพท์ไปยังหมายเลขที่มีให้ในจดหมาย จึงโทรศัพท์ไปตามหมายเลขดังกล่าว สายว่างและติดตลอด แต่ไม่มีคนรับสาย จึงพาไปที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหนองเรือ เพื่อทำเรื่องเรียนให้ฝ่ายปกครองและฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรับทราบ เพราะชาวบ้านไม่ได้รับเงิน จึงไม่มีเงินที่จะคืนให้รัฐบาลตามที่ถูกทวงมา"

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สองผัวเมีย งง ! เจอจดหมายทวงเงินเยียวยา 5 พัน ทั้งที่ไม่เคยได้แม้แต่บาทเดียว อัปเดตล่าสุด 14 กรกฎาคม 2563 เวลา 18:06:28 19,357 อ่าน
TOP