ย้อนคลิป แม่น้องชมพู่ บอก อำพล อุ้มลูกไป เหมือนบอกเป็นนัย-แจงโดนร่างทรงสั่งให้ทำ

          แม่น้องชมพู่ เผยว่า เมื่อวานได้พาน้องสะดิ้ง ไปพบอัยการและสหวิชาชีพเป็นครั้งที่ 3 โดยให้ข้อมูลว่า

          1. ในวันเกิดเหตุน้องสะดิ้งไม่ได้หลับ

          2. น้องสะดิ้งเล่นแอปฯ TikTok อยู่บนแคร่หน้าบ้าน ถึงเวลาประมาณ 09.45 น. 

          3. คาดว่าเวลาที่น้องชมพู่หายตัวไป น่าจะประมาณ 08.00-09.00 น.
          ส่วนกรณีคลิปที่พ่อกับแม่น้องชมพู่ได้จุดธูปวอนขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์นำลูกสาวมาคืน โดยได้กล่าวตามความเชื่อว่า "ผู้ชาย 2 คนเอาไป ผู้หญิงผมขาว มาส่งข่าวไว ๆ เด้อ" แม่น้องชมพู่ เผยว่า คลิปดังกล่าวน่าจะเป็นช่วงวันที่ 12 หรือ 13 พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกสาวหายตัวไป เป็นการพูดตามที่ร่างทรงได้บอกมา โดยช่วงนั้นมีคนที่อ้างตัวว่าเป็นร่างทรงและโทรศัพท์มาบอกให้ทำพิธีเป็นจำนวนมาก ตนก็ยอมทำตามทุกวิถีทาง เพราะอยากได้ลูกสาวกลับคืนมา

          จากการสำรวจที่บ้านกกตูม ไม่มีคนชื่ออำพล แต่มีคนที่ชื่อเกี่ยวข้องกับคำว่า พล จำนวน 2 คน คือ 1. นายจุมพล รักษ์บำรุง (ชาวบ้านกกตูม) และนายพล เชื้อคมตา อดีตครูใหญ่

          ด้าน นายจุมพล รักษ์บำรุง เผยว่า ตนอยู่ที่บ้านกกตูมได้กว่า 20 ปีแล้ว ส่วนตัวก็ไม่รู้จักกับครอบครัวน้องชมพู่ ตนเคยเจอน้องชมพู่และแม่บางครั้ง ตอนที่มากินข้าวที่ร้าน และวันที่ 11 พฤษภาคม ตนก็ไม่ได้ไปแถวบ้านน้องชมพู่ มารู้ว่าน้องชมพู่หายตัวไปในช่วงบ่าย และภรรยาตนก็ได้ไปช่วยออกตามหาน้องชมพู่เช่นกัน
          ขณะที่ นายพล เชื้อคมตา อดีตครูใหญ่บ้านกกตูม ให้สัมภาษณ์ว่า หมู่บ้านกกตูมไม่มีคนชื่ออำพล สำหรับตนเป็นครูใหญ่ที่เกษียณอายุราชการกว่า 10 ปีแล้ว ตนไม่รู้จักครอบครัวน้องชมพู่เป็นการส่วนตัว รู้จักแต่ตากับปู่ของน้องชมพู่ ยืนยันว่าไม่เคยไปบ้านน้องชมพู่ สำหรับวันที่ 11 พฤษภาคม ตนก็อยู่บ้านที่บ้านกกตูมทั้งวัน

          ต่อมา นายรัตนพล (สงวนนามสกุล) หนึ่งในชาวบ้านกกกอก เผยว่า หมู่บ้านของตนไม่มีคนชื่ออำพล แต่คนที่ชื่อติดคำว่า พล นั้น ก็มีลุงพล และตน จึงมีเพียง 2 คนเท่านั้น วันเกิดเหตุตนไปทำงานส่งวัสดุก่อสร้างที่ อ.เต่างอย มีเพื่อนร่วมงานเป็นพยานยืนยันได้ ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักครอบครัวน้องชมพู่ แค่เคยขับรถผ่านแถวบ้านตอนไปทำงาน

ขอบคุณข้อมูลจาก ทุบโต๊ะข่าว