เปิดคดีฆาตกรรมสะพรึง นักศึกษารวมหัวเพื่อน หั่นร่าง อ.เคมี แช่ถังกรด อำพรางคดี หลังปล้นเงินแต่พลาดทำตาย คาดได้ไอเดียจากซีรีส์ พบคนร้ายเป็น นศ. คนสนิทของผู้ตาย
วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานเหตุฆาตกรรมชวนสะพรึง ที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของนักศึกษาชาวรัสเซีย หลังจากที่เจ้าตัวกับเพื่อนได้พลาดทำอาจารย์สอนวิชาเคมีเสียชีวิต ระหว่างการปล้นทรัพย์ จึงตัดสินใจกำจัดศพให้สิ้นซาก ด้วยการหั่นศพเหยื่อไปแช่สารเคมี แต่สุดท้ายก็ไม่อาจหนีความผิดได้พ้น
รายงานเผยว่า เหยื่อคือ ศาสตราจารย์ วลาดิสลาฟ คูซเนตซอฟ วัย 58 ปี ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี ที่มหาวิทยาลัยรัฐโวโรเนซ ของรัสเซีย เขาเป็นคนสูงวัยที่อาศัยอยู่คนเดียว และมักติดต่อไปหาญาติทุกวัน จนกระทั่งวันที่ 5 มีนาคม 2563 พบว่าเขาไม่ได้มาที่มหาวิทยาลัย และน้องสาวของเขาก็ไม่สามารถติดต่อพี่ชายได้ เธอจึงได้แจ้งตำรวจให้ทราบเรื่องการหายตัวไปของเขา
กระทั่งเวลาผ่านไปนานหลายเดือน ในที่สุดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ทางตำรวจก็สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย คือ ดิมิทรี บีคอฟสกี นักศึกษาปริญญาโท วัย 33 ปี และเพื่อนของเขาคือ อเล็กซานเดอร์ คาร์ลามอฟ วัย 30 ปี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอที แถมยังเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการก่อเหตุครั้งนี้
ทางตำรวจเผยว่า ที่แท้ผู้ต้องสงสัยคือ ดิมิทรี เป็นนักศึกษาที่สนิทกับศาสตราจารย์ ดังนั้นในตอนที่เขากับเพื่อนโผล่ไปหาศาสตราจารย์ถึงห้องพักที่แฟลต ชายสูงวัยจึงเปิดประตูต้อนรับพวกเขา โดยไม่คาดคิดว่าจะถูกทั้งคู่ทำร้ายด้วยการใช้ผ้าชุบสารเคมี ทำให้เขาหมดสติไป
จากนั้น ดมิทรีกับอเล็กซานเดอร์ ก็ได้ทำการเจาะข้อมูลเข้าไปยังบัญชีธนาคารของศาสตราจารย์ และขโมยเงินไปร่วม 17,000 ปอนด์ หรือกว่า 670,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่พวกเขารู้ตัวว่าศาสตราจารย์ไม่หายใจแล้ว ทั้งคู่ก็ตัดสินใจอำพรางคดีด้วยการหิ้วศพของเหยื่อไปยังแฟลตที่อเล็กซานเดอร์เช่าไว้ จัดการหั่นร่างของเหยื่อเป็นชิ้น ๆ นำมาแช่ใส่ถังที่บรรจุกรด 2 ชนิด เพื่อจะกำจัดศพ
พวกเขาทิ้งถังที่แช่ศพในกรดไว้ที่ระเบียงห้องเป็นเวลานานถึง 3 เดือน กระทั่งตำรวจตามรอยมาเจอ และถูกจับกุมในที่สุด
ทางด้านเจ้าหน้าที่นักสืบ เผยว่า
อเล็กซานเดอร์เป็นฝ่ายยอมรับสารภาพในสิ่งที่เกิดขึ้น
โดยเจ้าตัวยังได้เผยกับนักข่าวระหว่างการพิจารณาคดีในศาลว่า
ตัวเองได้ทำในสิ่งที่เลวร้ายและต้องได้รับการลงโทษ
เขาได้ใคร่ครวญคิดถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมานานมาก ๆ
และเขาไม่ควรทำแบบนั้นเลย
"ผมอยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกหลังการหย่า แต่...ขอโทษ ที่มันกลายมาเป็นแบบนี้" อเล็กซานเดอร์ กล่าว
ขณะที่ดิมิทรียังปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดถึงอะไรเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม รวมถึงไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องที่มีคนตั้งข้อสังเกต ว่าเขาได้ไอเดียในการกำจัดศพมาจากซีรีส์ดัง เรื่อง Breaking Bad ที่ตัวละครในเรื่องมีการนำกรดมาใช้ในการกำจัดศพ
รายงานเผยว่า เหยื่อคือ ศาสตราจารย์ วลาดิสลาฟ คูซเนตซอฟ วัย 58 ปี ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี ที่มหาวิทยาลัยรัฐโวโรเนซ ของรัสเซีย เขาเป็นคนสูงวัยที่อาศัยอยู่คนเดียว และมักติดต่อไปหาญาติทุกวัน จนกระทั่งวันที่ 5 มีนาคม 2563 พบว่าเขาไม่ได้มาที่มหาวิทยาลัย และน้องสาวของเขาก็ไม่สามารถติดต่อพี่ชายได้ เธอจึงได้แจ้งตำรวจให้ทราบเรื่องการหายตัวไปของเขา
กระทั่งเวลาผ่านไปนานหลายเดือน ในที่สุดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ทางตำรวจก็สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย คือ ดิมิทรี บีคอฟสกี นักศึกษาปริญญาโท วัย 33 ปี และเพื่อนของเขาคือ อเล็กซานเดอร์ คาร์ลามอฟ วัย 30 ปี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอที แถมยังเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการก่อเหตุครั้งนี้
จากนั้น ดมิทรีกับอเล็กซานเดอร์ ก็ได้ทำการเจาะข้อมูลเข้าไปยังบัญชีธนาคารของศาสตราจารย์ และขโมยเงินไปร่วม 17,000 ปอนด์ หรือกว่า 670,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่พวกเขารู้ตัวว่าศาสตราจารย์ไม่หายใจแล้ว ทั้งคู่ก็ตัดสินใจอำพรางคดีด้วยการหิ้วศพของเหยื่อไปยังแฟลตที่อเล็กซานเดอร์เช่าไว้ จัดการหั่นร่างของเหยื่อเป็นชิ้น ๆ นำมาแช่ใส่ถังที่บรรจุกรด 2 ชนิด เพื่อจะกำจัดศพ
พวกเขาทิ้งถังที่แช่ศพในกรดไว้ที่ระเบียงห้องเป็นเวลานานถึง 3 เดือน กระทั่งตำรวจตามรอยมาเจอ และถูกจับกุมในที่สุด
ดิมิทรี บีคอฟสกี - ภาพจาก vk.com
"ผมอยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกหลังการหย่า แต่...ขอโทษ ที่มันกลายมาเป็นแบบนี้" อเล็กซานเดอร์ กล่าว
ขณะที่ดิมิทรียังปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดถึงอะไรเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม รวมถึงไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องที่มีคนตั้งข้อสังเกต ว่าเขาได้ไอเดียในการกำจัดศพมาจากซีรีส์ดัง เรื่อง Breaking Bad ที่ตัวละครในเรื่องมีการนำกรดมาใช้ในการกำจัดศพ
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่เมล, vestivrn.ru






