แม่น้องชมพู่พ้อ ไขคดีนาน ถ้าคนร้ายดูอยู่คงหัวเราะเยาะ ตอบข้อสงสัยปมวัวกินเสื้อ ด้านอัยการซัด สื่อปั่นจนคดียุ่งเหยิง ยัน ไม่มีทางที่น้องชมพู่จะขึ้นไปตายเอง
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
จากกรณีข่าว น้องชมพู่ ที่ผ่านมา 2 เดือนแล้ว แต่เรื่องราวยังไม่จบ โดยทางนิติเวช 2 แห่ง เผยชันสูตรไม่พบร่องรอยการข่มขืน การทำร้ายร่างกาย ต่อมามีการคาดคะเนว่า น้องชมพู่เดินขึ้นไปเสียชีวิตเองหรือไหม่ แต่หลายคนที่เคยไปภูเหล็กไฟบอกว่าเป็นไปไม่ได้ รวมทั้งเรื่องกางเกงน้องชมพู่ ที่ไม่มีร่องรอยปัสสาวะ อุจจาระ เป็นไปได้หรือไม่ และยังมีอีกหลายประเด็นค้างคาใจนั้น
อ่านขาว : วิเคราะห์คดี น้องชมพู่ ดับปริศนาบนภูเหล็กไฟ ฆาตกรรม หรือตายเอง ?
ล่าสุด วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 รายการโหนกระแส โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจ อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี และวิดีโอคอลหา สาวิตรี แม่น้องชมพู่ ซึ่งอยู่กับ ออย วิภาดา นิ่มทอง ผู้สื่อข่าวที่อยู่ในพื้นที่
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
คุณออยลงพื้นที่เป็นไงบ้าง ?
วิภาดา : ลงพื้นที่รอบที่ 3 บรรยากาศในหมู่บ้านตอนกลางวันเงียบเหงา ชาวบ้านเริ่มไปดำนา ใช้ชีวิตตามปกติ กลางวันไปนา ตอนเย็นถึงกลับมา บรรยากาศชาวบ้านไม่ได้มีความสงสัยกัน หรือขัดแย้งกันเหมือนข่าวที่ออกไป ชาวบ้านยังรักกันเหมือนเดิม เมื่อวานจะเห็นภาพการดำนาสมานฉันท์ จะเห็นลุงพลกับป้าแต๋นไปร่วมงาน แต่คุณแม่ไม่ได้ไปร่วมดำนาด้วย เพราะติดดำนาที่ของคุณตาคุณยาย แต่ประเด็นการสืบสวนสอบสวนต่าง ๆ ตำรวจยังทำงานต่อเนื่อง ยังลงพื้นที่อยู่ แต่สิ่งที่เกิดพิรุธข้อสงสัย มีการตั้งข้อสันนิษฐาน กรณีเรื่องการเกง เป็นไปได้ไหมน้องจะถอดฉี่เอง แล้วที่สำคัญมีรายงานว่าการตรวจกางเกง มีคราบขาว ๆ อยู่ในกางเกง ซึ่งต้องไปฟังจากหมอ
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ เรื่องการตั้งข้อสันนิษฐานว่าจุดที่น้องเสียชีวิต อาจมีการถอดเสื้อทิ้งไว้ ถ้าน้องไปเอง บนภูเหล็กไฟเขามีการเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย เป็นไปได้ไหมวัวควายกินเสื้อ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ตั้งข้อสันนิษฐานเหมือนกัน และอีกเรื่องมีชาวบ้านเล่าให้ทีมข่าวฟัง ได้ยินเสียงหมาเห่าในคืนวันที่ 11 วันที่น้องหายตัวไป เป็นแถว ๆ ป่าสวนยาง ตรงนั้นทะลุออกมาถึงถนนใหญ่ และทะลุไปถึงบ้านลุงพลได้
เราไปถึงจุดวัวกินเสื้อกันแล้วเหรอ ?
วิภาดา : มันเป็นข้อสันนิษฐานที่อาจเป็นไปได้ แล้วไปคุยกับคุณหมอสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง เขาบอกว่าวัวกินเสื้อได้ แต่มันจะไม่กิน แต่เรื่องนี้แม่เคยเห็นพฤติกรรมวัว นี่เป็นข้อสันนิษฐาน
สาวิตรี : แม่เคยเห็นวัวเคี้ยวเสื้อได้ แต่ไม่ได้กินไปหมดทั้งตัว
วิภาดา : คุณแม่ไม่ได้เลี้ยงวัว เคยเห็นวัวกินเสื้อ
สาวิตรี : เคยเห็นวัวเคี้ยว ๆ แล้วคายออกมา ตอนนั้นเสื้อตัวใหญ่ มีเนินในหมู่บ้านที่เขาเลี้ยงเป็นสนามหญ้าใกล้ ๆ บ้าน
วิภาดา : บนเขาจุดที่น้องเจอเสื้อ เขาเลี้ยงวัวเลี้ยงควายไหม
สาวิตรี : คิดว่ายังไม่เลี้ยง เพราะตอนนั้นหญ้ายังไม่ขึ้นเลย
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
กรณีน้องเดินขึ้นไปเอง แม่ไม่เชื่อเลย ?
สาวิตรี : ค่ะ น้องไม่มีนิสัยชอบเดินเข้าป่า ต่อให้ถ้าเดินไปเองจริง ๆ ก็ต้องอยู่ข้างล่าง ไม่น่าเดินไปถึงตรงนั้นพร้อมรองเท้าทั้ง 2 ข้าง และไปอยู่ในสภาพนั้น
ฉี่กับคราบอุจจาระไม่พบที่กางเกงน้อง มองยังไง ?
สาวิตรี : ถ้าตามข่าวน้องเสียชีวิตตอนออกจากบ้านได้ 2 วัน ต้องมีฉี่บ้าง น้องฉี่แล้วใส่กางเกงเอง เป็นไปไม่ได้
ตอนนี้คนสงสัยน้าแต น้องชายแม่ ว่าอาจเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย แม่มองยังไง ?
สาวิตรี : พวกเราโดนตำรวจสอบกันทุกคนค่ะ แม่ว่าให้น้องคุยกับตำรวจแค่นั้นก็พอค่ะ
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
กรณีน้าแต เรื่องมีรอยบาดแผลที่หลังน้อง มีตัวเหล็กที่เลี้ยงหนู ไปตรงกับรูบนตัวน้อง ?
สาวิตรี : น้าแตไม่มีค่ะ ตำรวจได้ตรวจสอบน้าแตแล้ว คนในสังคมสงสัยก็ไม่เป็นไร เพราะเราให้ปากคำตำรวจไปหมดแล้ว
กรณีที่เกิดทั้งหมด ถ้าตำรวจพักคดีจะทำยังไง ?
สาวิตรี : แม่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จริง ๆ ห่วงความปลอดภัยของเรามาก คดีมันนาน ถ้าผู้ร้ายดูอยู่ก็คงหัวเราะเยาะ
ทำไมไม่ไปเจอลุงพล ตอนเขาดำนา ?
สาวิตรี : แม่ไปดำนาตายายค่ะ คือตายายดำนาอยู่ 2 คน แล้วที่นั่นคนเยอะแล้ว ตายายเป็นคนแก่ 2 ผัวเมีย ที่ลูกต้องไปช่วย
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
ล่าสุดผลคราบที่เจอที่กางเกงน้องเป็นคราบขาว ๆ ไม่ใช่คราบอสุจิ แต่เป็นคราบคาร์โบไฮเดรต แล้วตรวจที่กางเกงแล้ว ไม่มีร่องรอยปัสสาวะ อุจจาระของน้องแต่อย่างใด น้องถอดกางเกงฉี่เองไหม ?
สาวิตรี : เคยเห็นถอดเองครั้งสองครั้ง บางครั้งถอดไม่ทันก็ราดใส่กางเกงเลย
มุมรองเท้าที่น้องใส่ ครั้งแรกที่เห็นก็เริ่มจะเป๋ ๆ รองเท้าน้องใส่ใหญ่เหลือเกิน เป็นของน้องเองเหรอ ?
สาวิตรี : ของน้องค่ะ น้องใส่จนชินแล้วค่ะ ใส่ทุกวันไม่ล้มค่ะ แล้วน้องไม่ใช่คนชอบเดินมากหรือวิ่งมากเกินไป
ใส่คู่นี้เดินขึ้นเขาเป็นไปได้ไหม ?
สาวิตรี : เป็นไปไม่ได้ ถ้าขึ้นเขาจริง ๆ นิ้วน้องต้องพอง เพราะนิ้วล้นออกมา
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
น้องสูงเท่าไหร่ ?
สาวิตรี : ประมาณ 90 ซม. ค่ะ
หินข้างบนเมตรกว่า คิดว่าจะปีนไหวไหม ?
สาวิตรี : แค่ให้น้องเล่นก็ปีนไม่ได้ ถ้าไม่มีเก้าอี้ให้เหยียบขึ้น
วิภาดา : บันไดบ้านถ้าจะขึ้นชั้น 2 ต้องมีม้านั่งให้น้องปีนขึ้น
สาวิตรี : จูงขึ้นยังไม่ยอม น้องกลัวค่ะ ต่อให้พยายามจูงน้องหัดเดินขึ้นบันไดน้องก็ไม่เอา
มีคนกังวลใจว่ามีคนพาน้องไปขึ้นข้างบนหรือเปล่า ?
สาวิตรี : ก็อาจเป็นไปได้ค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าน้องขึ้นไปได้ยังไง
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
มีคนบอกว่าน้องเกเร เลยทำโทษเอาน้องไปทิ้งข้างบน ?
สาวิตรี : ไม่ค่ะ น้องไม่ใช่เด็กเกเร ไม่ด่า ไม่พูดคำหยาบ
คิดว่าแรงจูงใจที่พาน้องขึ้นไป ?
สาวิตรี : แม่ไม่รู้เรื่องแรงจูงใจอะไรเลย
เรื่องผมน้องที่ถูกตัดออกไป ในพื้นที่ของแม่ มีความเชื่ออะไรไหม อย่างตัดผมสะกดวิญญาณมีไหม ?
สาวิตรี : ไม่มีค่ะ แบบนี้ไม่เคยมีเลย
ก่อนหน้านี้ล่ะ คนที่ชื่นชอบเรื่องวิญญาณ ไสยศาสตร์ เพราะผมสยายไปบนดิน แล้วเอามีดหั่นไปบนดิน ?
สาวิตรี : แม่ไม่ค่อยรู้เรื่องไสยศาสตร์ ไม่มีความรู้เรื่องนี้ ไม่รู้เหมือนกันเขาตัดผมน้องไปทำไม
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
มีใครเล่นวิชาอาคมไหมที่นั่น ?
สาวิตรี : ไม่มีค่ะ
สายสิญจน์น้องที่มีรอยกระชาก ?
สาวิตรี : อันนี้เพิ่งรู้ค่ะ
ตอนนี้ลุงพลอยู่ที่ไหน ?
วิภาดา : เห็นว่าเข้าไป จ.มุกดาหาร เห็นว่าเดินทางไปตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วค่ะ เดี๋ยวจะเข้าไปคุยกับลุงพล อีกประเด็นที่มีการตั้งข้อสันนิษฐาน มีรายงานว่านายพรานคนหนึ่งได้ยินเสียงร้องไห้ ออยกำลังจะไปตามนายพรานคนนี้ ว่าได้ยินจริงไหม หรือเป็นการร่ำลือเล่าอ้างของชาวบ้าน ออยกับทีมงานขึ้นไปบนภูก็สุดยอด
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
คิดว่าเด็กขึ้นได้ไหม ?
วิภาดา : ออยปีนค่ะ มันสูงมาก ต้องตะกาย ถ้าไม่ชำนาญอาจหงายเงิบ ทั้งสูงและชัน ซึ่งถ้าถามความเห็นส่วนตัว ออยว่าเป็นไปได้ยากที่น้องจะขึ้นมา ออยไปหลายทางด้วยนะ ทาง 1.7 กิโลเมตร นี่ง่ายสุด สะดวกสุด
แม่ยืนยันว่าวัวกินเสื้อได้ ?
สาวิตรี : แม่เคยเห็นมันเคี้ยว ยังไม่เคยเห็นมันกลืนลงไป เคยเห็นมันเคี้ยวแล้วคาย เห็นแค่นั้น คนอื่นอาจเคยเห็นกลืนก็ได้ แต่แม่ไม่เคยเห็น
วิภาดา : ออยถามหมอ สัตวแพทย์ ถามว่าทำไมวัวกินเสื้อได้ เขาบอกว่าในเสื้อมีกลิ่นเหงื่อ มีความเค็ม วัวต้องกินคล้าย ๆ เกลือ เป็นอาหารเสริม ถ้าได้กลิ่นเหงื่อ กลิ่นเค็มก็จะกิน แต่พอกินไปแล้ว และรู้ว่าไม่ได้ฉีกขาดเหมือนหญ้า มันจะขย้อนออก
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
ตกลงเรื่องนี้ยังไง อาจารย์บอกกุญแจสำคัญคือสาเหตุการตาย ?
ปรเมศวร์ : สาเหตุการตาย รายงานชันสูตรพลิกศพ ต้องเข้าใจว่ากรณีน้องเสียชีวิตเป็นการตายผิดธรรมชาติ ต้องมีการชันสูตรพลิกศพ ถ้าเป็นความผิดทางอาญาจึงจะเกิดสำนวนคดีอาญา ณ วันนี้ที่ทำกันมาเป็นสำนวนชันสูตรพลิกศพ คือพิสูจน์ให้ได้ว่าตายเพราะอะไร ผู้ตายชื่ออะไร ใครทำให้ตาย ขณะนี้สาเหตุการตายบอด ไม่รู้ ใครทำให้ตายไม่ต้องพูดถึง ทีนี้การทำสำนวนชันสูตรพลิกศพต้องทำให้เสร็จภายใน 7 วัน ถ้า 7 วันไม่เสร็จก็ขยายไป 2 ครั้ง รวม 60 วัน เพราะฉะนั้น วันนี้ถึง 67 วันหรือยัง ถ้าถึง 67 วัน สำนวนชันสูตรพลิกศพต้องเสร็จ ถ้าการตายไม่เกิดจากการกระทำความผิดทางอาญา พนักงานสอบสวนต้องส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ
กรณีตำรวจสงสัยคนคนหนึ่ง ตำรวจบอกว่าชัวร์ แต่หลักฐานนิติเวชเชื่อมไปไม่ถึง อันนี้จะออกหมายไม่ได้ ?
ปรเมศวร์ : ไม่ได้ ต้องมีพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิด แต่ที่ดูกันมาตั้งแต่ต้นจนวันนี้ เป็นกระบวนการแรกก่อน เพื่อสอบสวนให้ได้ความว่าการตายของน้องเป็นการฆาตกรรม 1. ฆ่า 2. ทำร้ายจนเป็นเหตุตาย 3. ประมาทให้ตาย 4. พาเด็กไปทอดทิ้งให้ตาย ตอนนี้ไม่ได้ข้อมูลสักอัน คนพาไปก็ไม่มี ปกติถ้าจะเป็นคดีอาญาต้องมีต้นน้ำ มีพยานอื่นประกอบกับชันสูตรพลิกศพไหม อันนี้ชันสูตรพลิกศพบอกไม่ได้จริง แต่ถ้ามีคนอื่นที่เกี่ยวข้องก็เป็นคดีอาญาได้ ขณะนี้ไม่ถือว่าเป็นคดีอาญา วันนี้ตำรวจเองก็พยายามเต็มที่ เอามาเข้าสำนวน 60 กว่าคน เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ หรือเป็นการกระทำความผิดทางอาญาหรือไม่
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
นิติเวชบอกว่าไม่มีร่องรอยล่วงละเมิดทางเพศ เอาไปประกอบหรือจำเป็นไหม ?
ปรเมศวร์ : อันนี้เป็นตัวหลัก แต่ต้องมีตัวอย่างอื่นประกอบ สมมติมีพยานเห็นว่ามีคนเห็นคนนี้อุ้มเด็กคนนี้ไป อันนั้นอาจประกอบได้ เพราะการพบศพก็ดี สภาพศพก็ดี สภาพภูมิศาสตร์เด็กไม่น่าเดินขึ้นไปเอง
ตำรวจบอกว่าเขาค่อนข้างชัวร์สำหรับบางคน แต่หลักนิติวิทยาศาสตร์บอกน้องตายเอง ไม่มีคนกระทำ มันค้านกันไหม ?
ปรเมศวร์ : สำนวนชันสูตรพลิกศพไม่ได้บอกว่าน้องตายเอง แต่บอกว่าไม่ทราบสาเหตุการตาย สำนวนชันสูตรพลิกศพต้องบอกให้ได้ว่าสาเหตุการตายคืออะไร แต่เมื่อกฎหมายกำหนดว่า 67 วันต้องจบ ตอนนี้ 66 วันแล้ว ยังไม่มีพยานหลักฐานชี้ว่าเป็นผลจากการกระทำความผิดทางอาญา ส่วนจะเป็นสำนวนคดีอาญาหรือไม่ ถ้าเขาสอบสวนต่อไป แล้วมีคนนั้น เขาก็ตั้งเป็นคดีอาญา อยากให้แยกก่อนว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้คือสำนวนชันสูตรพลิกศพ สำนวนคดีอาญาใครเป็นผู้ต้องสงสัยยังไม่เกิด
คนให้ปากคำตำรวจเรียบร้อย แต่มาพูดข้างนอกเป็นอีกแบบหนึ่ง ผิดไหม ?
ปรเมศวร์ : ไม่ผิดหรอก แต่ผมว่าตำรวจกำลังจ้องจับอยู่ว่าใครมีพิรุธที่สุด
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
พยานที่เคยให้ปากคำในคดี อยู่ดี ๆ ถูกสื่อกดดันแล้วพูดไปเลอะเทอะ พูดอีกเรื่องหนึ่งแล้วนำมาเสนอข่าวกันอีกเรื่องหนึ่งเลย แบบนี้ถือว่ากลับคำให้การไหม ?
ปรเมศวร์ : ไม่ ๆ ในการสอบชันสูตรพลิกศพเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่เป็นผลของคดีอาญา แต่ตำรวจแม้จะจบสำนวนชันสูตรพลิกศพ แต่ก็ไม่จบเรื่องการสืบสวนว่าน้องตายเพราะอะไร แล้วถ้ารู้ว่าตายเพราะการกระทำความผิดทางอาญาก็โอเค ตอนนี้สภาพศพเรายังไม่รู้ว่าน้องตายนอนหงายนอนคว่ำ เพราะร่องรอยหลักฐานเสียหายไปเยอะ ที่บอกว่าเด็กมีรอยขีดข่วน ถ้าเด็กเจอกิ่งไม้ขีดข่วน ผมถามว่าเด็กจะถอยหรือเดินต่อ เด็กต้องถอยกลับ แต่ถ้ามีคนอุ้มเด็กไปล่ะ ถ้าอุ้มเด็กร้องแล้วไม่อยากให้ร้องก็ปิดปาก โอกาสหมดลมหายใจมีไหม มี ผมก็คิดว่าอุ้มเด็กไปแล้วปิดปากเด็กจนสลบไปหรือเปล่า เพราะไม่มีคำอธิบาย เสื้อผ้าถอดยังไง รอยเท้าถอดยังไง ตรงนี้เป็นสิ่งที่สังคมสงสัย และคิดว่าตำรวจคงสงสัย แต่ไม่พูด
จะมีโอกาสพักคดีไหม ?
ปรเมศวร์ : คงไม่พักหรอก คงสืบต่อไป แต่สำนวนชันสูตรพลิกศพจบแล้วว่าได้แค่นี้ แต่เชื่อเถอะตำรวจเขาทำต่อแต่เขาอาจไม่พูด เขาก็อยากให้เราหยุดพูดบ้างก็ได้ไหม
สื่อทำให้คดียุ่งเหยิงไหม ?
ปรเมศวร์ : มีผลมาก ก็มีอิทธิพลพอสมควร
คิดว่าน้องเดินขึ้นไปเองไหม ?
ปรเมศวร์ : ไม่มีทาง
วัวกินเสื้อไหม ?
ปรเมศวร์ : ไม่เชื่อ
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
![ภาพข่าว แม่น้องชมพู่]( "ภาพข่าว แม่น้องชมพู่")
จากกรณีข่าว น้องชมพู่ ที่ผ่านมา 2 เดือนแล้ว แต่เรื่องราวยังไม่จบ โดยทางนิติเวช 2 แห่ง เผยชันสูตรไม่พบร่องรอยการข่มขืน การทำร้ายร่างกาย ต่อมามีการคาดคะเนว่า น้องชมพู่เดินขึ้นไปเสียชีวิตเองหรือไหม่ แต่หลายคนที่เคยไปภูเหล็กไฟบอกว่าเป็นไปไม่ได้ รวมทั้งเรื่องกางเกงน้องชมพู่ ที่ไม่มีร่องรอยปัสสาวะ อุจจาระ เป็นไปได้หรือไม่ และยังมีอีกหลายประเด็นค้างคาใจนั้น
อ่านขาว : วิเคราะห์คดี น้องชมพู่ ดับปริศนาบนภูเหล็กไฟ ฆาตกรรม หรือตายเอง ?
ล่าสุด วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 รายการโหนกระแส โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจ อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี และวิดีโอคอลหา สาวิตรี แม่น้องชมพู่ ซึ่งอยู่กับ ออย วิภาดา นิ่มทอง ผู้สื่อข่าวที่อยู่ในพื้นที่
คุณออยลงพื้นที่เป็นไงบ้าง ?
วิภาดา : ลงพื้นที่รอบที่ 3 บรรยากาศในหมู่บ้านตอนกลางวันเงียบเหงา ชาวบ้านเริ่มไปดำนา ใช้ชีวิตตามปกติ กลางวันไปนา ตอนเย็นถึงกลับมา บรรยากาศชาวบ้านไม่ได้มีความสงสัยกัน หรือขัดแย้งกันเหมือนข่าวที่ออกไป ชาวบ้านยังรักกันเหมือนเดิม เมื่อวานจะเห็นภาพการดำนาสมานฉันท์ จะเห็นลุงพลกับป้าแต๋นไปร่วมงาน แต่คุณแม่ไม่ได้ไปร่วมดำนาด้วย เพราะติดดำนาที่ของคุณตาคุณยาย แต่ประเด็นการสืบสวนสอบสวนต่าง ๆ ตำรวจยังทำงานต่อเนื่อง ยังลงพื้นที่อยู่ แต่สิ่งที่เกิดพิรุธข้อสงสัย มีการตั้งข้อสันนิษฐาน กรณีเรื่องการเกง เป็นไปได้ไหมน้องจะถอดฉี่เอง แล้วที่สำคัญมีรายงานว่าการตรวจกางเกง มีคราบขาว ๆ อยู่ในกางเกง ซึ่งต้องไปฟังจากหมอ
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ เรื่องการตั้งข้อสันนิษฐานว่าจุดที่น้องเสียชีวิต อาจมีการถอดเสื้อทิ้งไว้ ถ้าน้องไปเอง บนภูเหล็กไฟเขามีการเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย เป็นไปได้ไหมวัวควายกินเสื้อ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ตั้งข้อสันนิษฐานเหมือนกัน และอีกเรื่องมีชาวบ้านเล่าให้ทีมข่าวฟัง ได้ยินเสียงหมาเห่าในคืนวันที่ 11 วันที่น้องหายตัวไป เป็นแถว ๆ ป่าสวนยาง ตรงนั้นทะลุออกมาถึงถนนใหญ่ และทะลุไปถึงบ้านลุงพลได้
เราไปถึงจุดวัวกินเสื้อกันแล้วเหรอ ?
วิภาดา : มันเป็นข้อสันนิษฐานที่อาจเป็นไปได้ แล้วไปคุยกับคุณหมอสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง เขาบอกว่าวัวกินเสื้อได้ แต่มันจะไม่กิน แต่เรื่องนี้แม่เคยเห็นพฤติกรรมวัว นี่เป็นข้อสันนิษฐาน
สาวิตรี : แม่เคยเห็นวัวเคี้ยวเสื้อได้ แต่ไม่ได้กินไปหมดทั้งตัว
วิภาดา : คุณแม่ไม่ได้เลี้ยงวัว เคยเห็นวัวกินเสื้อ
สาวิตรี : เคยเห็นวัวเคี้ยว ๆ แล้วคายออกมา ตอนนั้นเสื้อตัวใหญ่ มีเนินในหมู่บ้านที่เขาเลี้ยงเป็นสนามหญ้าใกล้ ๆ บ้าน
วิภาดา : บนเขาจุดที่น้องเจอเสื้อ เขาเลี้ยงวัวเลี้ยงควายไหม
สาวิตรี : คิดว่ายังไม่เลี้ยง เพราะตอนนั้นหญ้ายังไม่ขึ้นเลย
กรณีน้องเดินขึ้นไปเอง แม่ไม่เชื่อเลย ?
สาวิตรี : ค่ะ น้องไม่มีนิสัยชอบเดินเข้าป่า ต่อให้ถ้าเดินไปเองจริง ๆ ก็ต้องอยู่ข้างล่าง ไม่น่าเดินไปถึงตรงนั้นพร้อมรองเท้าทั้ง 2 ข้าง และไปอยู่ในสภาพนั้น
ฉี่กับคราบอุจจาระไม่พบที่กางเกงน้อง มองยังไง ?
สาวิตรี : ถ้าตามข่าวน้องเสียชีวิตตอนออกจากบ้านได้ 2 วัน ต้องมีฉี่บ้าง น้องฉี่แล้วใส่กางเกงเอง เป็นไปไม่ได้
ตอนนี้คนสงสัยน้าแต น้องชายแม่ ว่าอาจเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย แม่มองยังไง ?
สาวิตรี : พวกเราโดนตำรวจสอบกันทุกคนค่ะ แม่ว่าให้น้องคุยกับตำรวจแค่นั้นก็พอค่ะ
กรณีน้าแต เรื่องมีรอยบาดแผลที่หลังน้อง มีตัวเหล็กที่เลี้ยงหนู ไปตรงกับรูบนตัวน้อง ?
สาวิตรี : น้าแตไม่มีค่ะ ตำรวจได้ตรวจสอบน้าแตแล้ว คนในสังคมสงสัยก็ไม่เป็นไร เพราะเราให้ปากคำตำรวจไปหมดแล้ว
กรณีที่เกิดทั้งหมด ถ้าตำรวจพักคดีจะทำยังไง ?
สาวิตรี : แม่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จริง ๆ ห่วงความปลอดภัยของเรามาก คดีมันนาน ถ้าผู้ร้ายดูอยู่ก็คงหัวเราะเยาะ
ทำไมไม่ไปเจอลุงพล ตอนเขาดำนา ?
สาวิตรี : แม่ไปดำนาตายายค่ะ คือตายายดำนาอยู่ 2 คน แล้วที่นั่นคนเยอะแล้ว ตายายเป็นคนแก่ 2 ผัวเมีย ที่ลูกต้องไปช่วย
ล่าสุดผลคราบที่เจอที่กางเกงน้องเป็นคราบขาว ๆ ไม่ใช่คราบอสุจิ แต่เป็นคราบคาร์โบไฮเดรต แล้วตรวจที่กางเกงแล้ว ไม่มีร่องรอยปัสสาวะ อุจจาระของน้องแต่อย่างใด น้องถอดกางเกงฉี่เองไหม ?
สาวิตรี : เคยเห็นถอดเองครั้งสองครั้ง บางครั้งถอดไม่ทันก็ราดใส่กางเกงเลย
มุมรองเท้าที่น้องใส่ ครั้งแรกที่เห็นก็เริ่มจะเป๋ ๆ รองเท้าน้องใส่ใหญ่เหลือเกิน เป็นของน้องเองเหรอ ?
สาวิตรี : ของน้องค่ะ น้องใส่จนชินแล้วค่ะ ใส่ทุกวันไม่ล้มค่ะ แล้วน้องไม่ใช่คนชอบเดินมากหรือวิ่งมากเกินไป
ใส่คู่นี้เดินขึ้นเขาเป็นไปได้ไหม ?
สาวิตรี : เป็นไปไม่ได้ ถ้าขึ้นเขาจริง ๆ นิ้วน้องต้องพอง เพราะนิ้วล้นออกมา
น้องสูงเท่าไหร่ ?
สาวิตรี : ประมาณ 90 ซม. ค่ะ
หินข้างบนเมตรกว่า คิดว่าจะปีนไหวไหม ?
สาวิตรี : แค่ให้น้องเล่นก็ปีนไม่ได้ ถ้าไม่มีเก้าอี้ให้เหยียบขึ้น
วิภาดา : บันไดบ้านถ้าจะขึ้นชั้น 2 ต้องมีม้านั่งให้น้องปีนขึ้น
สาวิตรี : จูงขึ้นยังไม่ยอม น้องกลัวค่ะ ต่อให้พยายามจูงน้องหัดเดินขึ้นบันไดน้องก็ไม่เอา
มีคนกังวลใจว่ามีคนพาน้องไปขึ้นข้างบนหรือเปล่า ?
สาวิตรี : ก็อาจเป็นไปได้ค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าน้องขึ้นไปได้ยังไง
มีคนบอกว่าน้องเกเร เลยทำโทษเอาน้องไปทิ้งข้างบน ?
สาวิตรี : ไม่ค่ะ น้องไม่ใช่เด็กเกเร ไม่ด่า ไม่พูดคำหยาบ
คิดว่าแรงจูงใจที่พาน้องขึ้นไป ?
สาวิตรี : แม่ไม่รู้เรื่องแรงจูงใจอะไรเลย
เรื่องผมน้องที่ถูกตัดออกไป ในพื้นที่ของแม่ มีความเชื่ออะไรไหม อย่างตัดผมสะกดวิญญาณมีไหม ?
สาวิตรี : ไม่มีค่ะ แบบนี้ไม่เคยมีเลย
ก่อนหน้านี้ล่ะ คนที่ชื่นชอบเรื่องวิญญาณ ไสยศาสตร์ เพราะผมสยายไปบนดิน แล้วเอามีดหั่นไปบนดิน ?
สาวิตรี : แม่ไม่ค่อยรู้เรื่องไสยศาสตร์ ไม่มีความรู้เรื่องนี้ ไม่รู้เหมือนกันเขาตัดผมน้องไปทำไม
มีใครเล่นวิชาอาคมไหมที่นั่น ?
สาวิตรี : ไม่มีค่ะ
สายสิญจน์น้องที่มีรอยกระชาก ?
สาวิตรี : อันนี้เพิ่งรู้ค่ะ
ตอนนี้ลุงพลอยู่ที่ไหน ?
วิภาดา : เห็นว่าเข้าไป จ.มุกดาหาร เห็นว่าเดินทางไปตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วค่ะ เดี๋ยวจะเข้าไปคุยกับลุงพล อีกประเด็นที่มีการตั้งข้อสันนิษฐาน มีรายงานว่านายพรานคนหนึ่งได้ยินเสียงร้องไห้ ออยกำลังจะไปตามนายพรานคนนี้ ว่าได้ยินจริงไหม หรือเป็นการร่ำลือเล่าอ้างของชาวบ้าน ออยกับทีมงานขึ้นไปบนภูก็สุดยอด
คิดว่าเด็กขึ้นได้ไหม ?
วิภาดา : ออยปีนค่ะ มันสูงมาก ต้องตะกาย ถ้าไม่ชำนาญอาจหงายเงิบ ทั้งสูงและชัน ซึ่งถ้าถามความเห็นส่วนตัว ออยว่าเป็นไปได้ยากที่น้องจะขึ้นมา ออยไปหลายทางด้วยนะ ทาง 1.7 กิโลเมตร นี่ง่ายสุด สะดวกสุด
แม่ยืนยันว่าวัวกินเสื้อได้ ?
สาวิตรี : แม่เคยเห็นมันเคี้ยว ยังไม่เคยเห็นมันกลืนลงไป เคยเห็นมันเคี้ยวแล้วคาย เห็นแค่นั้น คนอื่นอาจเคยเห็นกลืนก็ได้ แต่แม่ไม่เคยเห็น
วิภาดา : ออยถามหมอ สัตวแพทย์ ถามว่าทำไมวัวกินเสื้อได้ เขาบอกว่าในเสื้อมีกลิ่นเหงื่อ มีความเค็ม วัวต้องกินคล้าย ๆ เกลือ เป็นอาหารเสริม ถ้าได้กลิ่นเหงื่อ กลิ่นเค็มก็จะกิน แต่พอกินไปแล้ว และรู้ว่าไม่ได้ฉีกขาดเหมือนหญ้า มันจะขย้อนออก
ตกลงเรื่องนี้ยังไง อาจารย์บอกกุญแจสำคัญคือสาเหตุการตาย ?
ปรเมศวร์ : สาเหตุการตาย รายงานชันสูตรพลิกศพ ต้องเข้าใจว่ากรณีน้องเสียชีวิตเป็นการตายผิดธรรมชาติ ต้องมีการชันสูตรพลิกศพ ถ้าเป็นความผิดทางอาญาจึงจะเกิดสำนวนคดีอาญา ณ วันนี้ที่ทำกันมาเป็นสำนวนชันสูตรพลิกศพ คือพิสูจน์ให้ได้ว่าตายเพราะอะไร ผู้ตายชื่ออะไร ใครทำให้ตาย ขณะนี้สาเหตุการตายบอด ไม่รู้ ใครทำให้ตายไม่ต้องพูดถึง ทีนี้การทำสำนวนชันสูตรพลิกศพต้องทำให้เสร็จภายใน 7 วัน ถ้า 7 วันไม่เสร็จก็ขยายไป 2 ครั้ง รวม 60 วัน เพราะฉะนั้น วันนี้ถึง 67 วันหรือยัง ถ้าถึง 67 วัน สำนวนชันสูตรพลิกศพต้องเสร็จ ถ้าการตายไม่เกิดจากการกระทำความผิดทางอาญา พนักงานสอบสวนต้องส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ
กรณีตำรวจสงสัยคนคนหนึ่ง ตำรวจบอกว่าชัวร์ แต่หลักฐานนิติเวชเชื่อมไปไม่ถึง อันนี้จะออกหมายไม่ได้ ?
ปรเมศวร์ : ไม่ได้ ต้องมีพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิด แต่ที่ดูกันมาตั้งแต่ต้นจนวันนี้ เป็นกระบวนการแรกก่อน เพื่อสอบสวนให้ได้ความว่าการตายของน้องเป็นการฆาตกรรม 1. ฆ่า 2. ทำร้ายจนเป็นเหตุตาย 3. ประมาทให้ตาย 4. พาเด็กไปทอดทิ้งให้ตาย ตอนนี้ไม่ได้ข้อมูลสักอัน คนพาไปก็ไม่มี ปกติถ้าจะเป็นคดีอาญาต้องมีต้นน้ำ มีพยานอื่นประกอบกับชันสูตรพลิกศพไหม อันนี้ชันสูตรพลิกศพบอกไม่ได้จริง แต่ถ้ามีคนอื่นที่เกี่ยวข้องก็เป็นคดีอาญาได้ ขณะนี้ไม่ถือว่าเป็นคดีอาญา วันนี้ตำรวจเองก็พยายามเต็มที่ เอามาเข้าสำนวน 60 กว่าคน เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ หรือเป็นการกระทำความผิดทางอาญาหรือไม่
นิติเวชบอกว่าไม่มีร่องรอยล่วงละเมิดทางเพศ เอาไปประกอบหรือจำเป็นไหม ?
ปรเมศวร์ : อันนี้เป็นตัวหลัก แต่ต้องมีตัวอย่างอื่นประกอบ สมมติมีพยานเห็นว่ามีคนเห็นคนนี้อุ้มเด็กคนนี้ไป อันนั้นอาจประกอบได้ เพราะการพบศพก็ดี สภาพศพก็ดี สภาพภูมิศาสตร์เด็กไม่น่าเดินขึ้นไปเอง
ตำรวจบอกว่าเขาค่อนข้างชัวร์สำหรับบางคน แต่หลักนิติวิทยาศาสตร์บอกน้องตายเอง ไม่มีคนกระทำ มันค้านกันไหม ?
ปรเมศวร์ : สำนวนชันสูตรพลิกศพไม่ได้บอกว่าน้องตายเอง แต่บอกว่าไม่ทราบสาเหตุการตาย สำนวนชันสูตรพลิกศพต้องบอกให้ได้ว่าสาเหตุการตายคืออะไร แต่เมื่อกฎหมายกำหนดว่า 67 วันต้องจบ ตอนนี้ 66 วันแล้ว ยังไม่มีพยานหลักฐานชี้ว่าเป็นผลจากการกระทำความผิดทางอาญา ส่วนจะเป็นสำนวนคดีอาญาหรือไม่ ถ้าเขาสอบสวนต่อไป แล้วมีคนนั้น เขาก็ตั้งเป็นคดีอาญา อยากให้แยกก่อนว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้คือสำนวนชันสูตรพลิกศพ สำนวนคดีอาญาใครเป็นผู้ต้องสงสัยยังไม่เกิด
คนให้ปากคำตำรวจเรียบร้อย แต่มาพูดข้างนอกเป็นอีกแบบหนึ่ง ผิดไหม ?
ปรเมศวร์ : ไม่ผิดหรอก แต่ผมว่าตำรวจกำลังจ้องจับอยู่ว่าใครมีพิรุธที่สุด
พยานที่เคยให้ปากคำในคดี อยู่ดี ๆ ถูกสื่อกดดันแล้วพูดไปเลอะเทอะ พูดอีกเรื่องหนึ่งแล้วนำมาเสนอข่าวกันอีกเรื่องหนึ่งเลย แบบนี้ถือว่ากลับคำให้การไหม ?
ปรเมศวร์ : ไม่ ๆ ในการสอบชันสูตรพลิกศพเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่เป็นผลของคดีอาญา แต่ตำรวจแม้จะจบสำนวนชันสูตรพลิกศพ แต่ก็ไม่จบเรื่องการสืบสวนว่าน้องตายเพราะอะไร แล้วถ้ารู้ว่าตายเพราะการกระทำความผิดทางอาญาก็โอเค ตอนนี้สภาพศพเรายังไม่รู้ว่าน้องตายนอนหงายนอนคว่ำ เพราะร่องรอยหลักฐานเสียหายไปเยอะ ที่บอกว่าเด็กมีรอยขีดข่วน ถ้าเด็กเจอกิ่งไม้ขีดข่วน ผมถามว่าเด็กจะถอยหรือเดินต่อ เด็กต้องถอยกลับ แต่ถ้ามีคนอุ้มเด็กไปล่ะ ถ้าอุ้มเด็กร้องแล้วไม่อยากให้ร้องก็ปิดปาก โอกาสหมดลมหายใจมีไหม มี ผมก็คิดว่าอุ้มเด็กไปแล้วปิดปากเด็กจนสลบไปหรือเปล่า เพราะไม่มีคำอธิบาย เสื้อผ้าถอดยังไง รอยเท้าถอดยังไง ตรงนี้เป็นสิ่งที่สังคมสงสัย และคิดว่าตำรวจคงสงสัย แต่ไม่พูด
จะมีโอกาสพักคดีไหม ?
ปรเมศวร์ : คงไม่พักหรอก คงสืบต่อไป แต่สำนวนชันสูตรพลิกศพจบแล้วว่าได้แค่นี้ แต่เชื่อเถอะตำรวจเขาทำต่อแต่เขาอาจไม่พูด เขาก็อยากให้เราหยุดพูดบ้างก็ได้ไหม
สื่อทำให้คดียุ่งเหยิงไหม ?
ปรเมศวร์ : มีผลมาก ก็มีอิทธิพลพอสมควร
คิดว่าน้องเดินขึ้นไปเองไหม ?
ปรเมศวร์ : ไม่มีทาง
วัวกินเสื้อไหม ?
ปรเมศวร์ : ไม่เชื่อ
