คดี น้องชมพู่ ผู้การแต้ม แย้ง อัจฉริยะ ไม่เชื่อ น้องช็อกตาย เพราะถูก ตีด้วยก้านมะยม

อัจฉริยะ ชี้ น้องชมพู่ ถูกทรมานจนช็อกตาย ก่อนถูกอุ้มศพทิ้ง ด้าน ผู้การแต้ม ไม่เชื่อน้องช็อกตาย เพราะถูกตีด้วยก้านมะยม ด้าน ลุงพล งานงอก ถูกโยงกระท่อมชายป่าอยู่ใกล้บ้าน

รายการ โหนกระแส วันที่ 20 กรกฎาคม 2563 เปิดใจสัมภาษณ์ พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าของฉายา มือปราบหูดำ และ รศ. นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มศว กรณีปริศนาการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ ที่ถึงวันนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายได้ ล่าสุดมีเรื่องกระท่อมชายป่าโผล่ขึ้นมา เพราะคิดว่าเป็นจุดพักร่างน้อง อยู่ไม่ไกลจากบ้านลุงพล ขณะที่มีประธานชมรมคนดัง ออกมาเผยข้อมูลว่าน้องถูกตีด้วยก้านมะยมจนช็อกตาย

คิดว่าน้องขึ้นไปเองได้ไหม ?

พล.ต.ต. วิชัย : ผมเคยออกรายการหลายครั้ง ผมก็วิเคราะห์ว่าเด็ก 3 ขวบ สูงไม่ถึงเมตร จะก้าวขึ้นไปได้ไหม ซึ่งถามนักข่าว เขาขึ้นยากมาก ถ้าถามผม ผมไม่เชื่อว่าน้องขึ้นไปเอง อีกอันหนึ่ง พ่อแม่บอกว่าน้องสวมเสื้อผ้า แล้วทำไมต้องถอดเสื้อผ้า รองเท้าไปดูที่พื้นสิ ถ้าเดินไปรองเท้าต้องเลอะเทอะเปรอะเปื้อน มีไหม มีเศษโคลนเศษดินไหม สอง กางเกงถอดแล้วทำไมอยู่ ถามว่าเสื้อถอดก็ต้องตกอยู่แถวนั้น ทีนี้ต้องย้อนกลับไปดูที่นิติวิทยาศาสตร์ว่าบอกอะไรเราได้บ้าง พยานบุคคลหายาก เพราะไม่มีใครเห็น พยานบุคคลมีน้อย เราก็ต้องมาพึ่งนิติวิทยาศาสตร์ ร่องรอยที่น้องชมพู่มีอะไรบ้าง สาเหตุการตายมีอะไรบ้าง ตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าสาเหตุการตายของน้องชมพู่คืออะไร

มีการระบุออกมาว่าไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้เพราะศพเน่า ?

พล.ต.ต. วิชัย : จริง ๆ ผมเคยทำคดีมา แพทย์ลงความเห็นค่อนข้างมาก อย่างเช่น หัวใจวาย มีของอะไรทำให้ตาย มันต้องมี ถ้าขาดอาหารก็ต้องบอก ถ้าบอกว่าอยู่ดี ๆ ไม่ทราบสาเหตุการตาย ผมว่าทำให้การสืบสวนมันยาก แต่ถ้ามีสาเหตุการตาย มันสามารถสรุปได้ เช่น 1. บอกว่าชมพู่ตายเอง 1, 2, 3 คดีความที่สงสัยคนอื่นมันก็จะตัดไป แต่ถ้าบอกไม่ได้คนมันยังสงสัยอยู่ แล้วคุณจะไปลบความสงสัยของคนไม่ได้ ถ้าคุณไม่มีเหตุผลว่าตายเพราะอะไร อย่างมีทนายคนหนึ่งบอกว่ามีตี ผมถามว่าร่องรอยการตี ลายขูดข่วนใบหญ้ามันเหมือนกันไหม

คุณอัจฉริยะ มีการออกมาไลฟ์ว่าไปดูเรื่องการเสียชีวิตน้อง แกตามมาตลอด ระบุว่าน้องชมพู่น่าจะถูกทรมาน ถูกตี และไม่เชื่อว่าน้องหิวจนเสียชีวิต โดยบาดแผลพบว่าน้องถูกตีที่ก้น ขา และแขน ศพเบิกตาค้าง เกร็งมือทั้งสองข้าง นอนตายเลือดต้องตกที่แผ่นหลัง แต่เลือดไปตกที่ปลายขา แสดงว่าเสียชีวิตไปนาน มีการอุ้มไปอำพรางบนเขา ?

พล.ต.ต. วิชัย : ผมไปดูผลชันสูตรของแพทย์ ไม่รู้แพทย์เขาพูดยังไง แต่ผมไม่เชื่อในฐานะทำงานสืบสวน ไม่เชื่อว่าก้านมะยมมาตี แล้วทำให้เด็กตาย ทำให้เด็กช็อก นิติวิทยาศาสตร์ผมไม่เชื่อ

ทางนิติเวชมองยังไง ก้านมะยมหรือเปล่า ?

รศ. นพ.วีระศักดิ์ : จริง ๆ ผมเรียนก่อน เอกสารที่เผยแพร่ตามสื่อ เป็นผลชันสูตรซึ่งเขียนว่าเป็นรอยถลอก ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นใบหญ้าคาหรืออะไร โดยปกตินิติเวชจะบอกเป็นชิ้นของบาดแผล ส่วนจะบอกว่าเกิดจากอะไร ตำรวจอาจไปเจอวัตถุบางอย่าง แล้วบอกว่าเป็นอย่างนี้ได้ไหม มันเป็นการพูดคุยกัน ยังไม่ฟันธงหรอกครับว่าเป็นอะไร

ถ้าตามข้อมูลที่บอก มีการพูดถึงว่ามีการใช้ก้านมะยมตีได้หรือไม่ คือก้านมะยมก็เป็นแท่ง เอาหลักการทางนิติเวชเลย เวลาตีตรงกลางจะเป็นขอบขาว ข้าง ๆ จะเป็นขอบแดง จะเป็นริ้วเหมือนที่เราเห็น โดยปกติเรียกเป็นทางรถไฟ จะเห็นเป็นลักษณะริ้ว ๆ ตี ถ้าส่งมาให้เราตรวจ เราก็จะเห็นแล้วว่าการตีด้วยไม้แบบนี้ไม่ใช่ถูกขีดข่วน สำหรับผมประเด็นนี้ถึงอย่างไรก็ตาม ข้อมูลไม่ได้มีความแตกต่างกันเพราะมีบาดแผลทั้งคู่ ทางหมอที่ตรวจก็ไม่ได้บอกว่ามีบาดแผล

ขณะเดียวกัน บาดแผลอื่น ๆ ต้องเรียนว่าพอหลังตาย เลือดตกลงสู่เบื้องต่ำ สีบางครั้งก็คล้ายกับบาดแผลฟกช้ำได้ ลักษณะศพเริ่มเน่าก็มีลักษณะความเขียว ถ้าดูด้วยสายตาปกติก็อาจสงสัยได้ แต่การชันสูตร สามารถกรีดลงดูบาดแผล ดูเรื่องเนื้อเยื่อข้างในว่าถูกกระแทกให้เกิดการฟกช้ำ พิสูจน์ได้

ถ้ามองแค่ตาเปล่าจินตนาการได้หมด ?

รศ. นพ.วีระศักดิ์ : ใช่ครับ ถ้าตีด้วยก้านมะยม จะเห็นเส้นขาวตรงกลาง เส้นแดงขนาบสองข้าง ถ้าก้านมะยมทำให้ถลอกก็มีเลือดซิบออกมา แต่พอหลังตาย ศพเริ่มเน่า ผิวหนังเริ่มหลุดลอก โอกาสการดูให้ชัดเจนเหมือนตอนมีชีวิตก็น้อยลง แต่มันก็พอจะบอกได้ในบางอย่าง แต่ก็ไม่เท่ากับตอนที่ยังมีชีวิตอยู่แล้ว

เขาไปเจอกระท่อม อยู่บริเวณชายป่า ซึ่งสามารถเชื่อมต่อเดินขึ้นเขาไปได้เหมือนกัน เป็นไปได้ไหมอาจมีการเอาร่างน้องมาไว้ตรงนี้ก่อน ?

พล.ต.ต. วิชัย : ต้องคิดงี้ก่อน น้องหายไปวันที่ 11 ไปเจอวันที่ 14 เท่ากับ 3 วัน หมอลงความเห็นว่าก่อนพบศพน้องเสียชีวิต 2 วัน

ล่าสุดที่มีโอกาสคุยทางลึก ทั้งหมอที่พิสูจน์กับตำรวจ มีการคุยกันแล้ว มั่นใจว่าน้องตายวันที่ 12 อาจเป็นช่วงเช้าด้วยซ้ำ ?

พล.ต.ต. วิชัย : แสดงว่าแค่วันเดียว มีคนบอกว่าในกระเพาะไม่มีอาหาร ผมถามว่าวันหนึ่งทำให้เด็กตายได้ไหม ถ้าคนขาดอาหารอย่างน้อย 30 วัน ขาดน้ำ 7 วัน เป็นเด็กก็ทอนลงมา เป็นไปได้ไหม น้องชมพู่วันเดียวจะเสียชีวิต ดังนั้น มันเป็นไม่ได้ที่เด็กจะหายไปและเสียชีวิตวันเดียว ทีนี้เรามาวิเคราะห์ว่าถ้ามีกระท่อม

พล.ต.ต. วิชัย : เราก็มาดูสิว่าน้องอาจเสียชีวิตที่อื่นแล้วเอาไปวางได้ไหม จุดนี้มันเป็นไปได้ แต่ตำรวจต้องหาจิ๊กซอว์ให้เห็นว่ามีนิติวิทยาศาสตร์อะไรไหมที่บ่งบอกว่าเด็กเคยมาพักตรงนี้ มาพักโดยไม่ตายหรือเสียชีวิตมันต้องมี ถ้าตรงนี้มีหลักฐาน มีจิ๊กซอว์มาต่อจากศพน้อง มันก็น่าเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้อง ตำรวจต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีดีเอ็นเอไหม ถ้าอย่างนี้มันไปได้เร็วเลย และต่อจากตรงนี้ไปจุดนั้นใช้เวลานานเท่าไหร่ ก็มาวิเคราะห์กัน แล้วจะรู้เวลาตายได้ ว่าตายจากตรงนี้หรือข้างบน แต่อะไรก็แล้วแต่ นิติวิทยาศาสตร์ต้องมีให้หลงเหลือบ้าง

คุณออย วิภาดา นิ่มทอง อยู่ที่บ้านกกกอก คุณออยไปดูกระท่อมมาหรือยัง ?

วิภาดา : ไปดูมาแล้วค่ะ ทางนี้จะอ้อมหน่อย เดินสบาย ดูมาแล้วค่ะ

น้องเดินไปเองได้ไหม ?

วิภาดา : จุดนั้นต้องเดินจากบ้านกกกอกไปเกือบ 1 กิโล แต่พอออกจากบ้านต้องถามก่อนว่าใครจะพาน้องออกจากบ้านไปจุดที่ขึ้นได้ง่าย ๆ เพราะมันเป็นเหมือนทางเกวียน นายพรานเล่าให้ฟังว่ามันเลยเดินได้สบาย ไม่ได้ชันเหมือนทางหลังบ้านน้อง แต่ต้องห่างจากตรงนั้นไปกิโลนึง ถ้าน้องเดินขึ้นเขาจากตรงนี้ก็สบายกว่า แต่ทางนี้สามารถลงมาแล้วทะลุตรงสวนยางตรงกระท่อมตรงนี้

ตรงสวนยาง พอเชื่อมต่อเป็นถนน ตรงนั้นเป็นบ้านใคร ?

วิภาดา : 100 เมตรก็บ้านลุงพลค่ะ

งานเข้าลุงอีกหรือเปล่าไม่รู้ กระต๊อบดันไปอยู่หน้าบ้านลุง กังวลใจไหม ?

ลุงพล : ไม่ครับ เพราะบ้านนั้นเขาเข้า ๆ ออก ๆ ตลอด ผมไม่รู้เขาเข้ามาหรือเปล่า

มุมที่เขาคิดกันว่าจุดนี้อาจเป็นจุดพักร่างน้องชมพู่ มองอย่างนั้นไหม ?

ลุงพล : ผมว่าชาวบ้านเขาออกตามหากันทุกวัน กระท่อมที่เป็นข่าว ผมเชื่อว่าชาวบ้านน่าจะค้นหาบ้างแล้ว ทั้งกลางวัน-กลางคืนเขาก็หากัน

จุดนี้จากบ้านลุงพล เดินไปได้กี่เมตร ?

ลุงพล : ประมาณ 100 เมตร เดินข้ามถนนไปก็ถึงแล้ว

จากจุดกระท่อมเดินขึ้นเขาง่าย ๆ ?

ลุงพล : มันก็ไม่ง่าย เดินผ่านก็มีป่า มีลานหิน เดินลำบากครับ

เคยไปกระต๊อบนี้มาก่อนไหม ?

ลุงพล : ไม่ครับ เพราะเขามีเจ้าของ เราก็ไม่กล้าเข้าไปครับ

ตรงกระต๊อบจุดนี้เป็นจุดเดียวที่วัชรินทร์เจอลุงพลอยู่แถวนี้ในวันที่เขาเห็น ?

ลุงพล : ไม่ใช่ครับ นายวัชรินทร์เจอผมอยู่ข้าง ๆ บ้านที่เขาสร้างใหม่ ไม่ได้อยู่ใกล้กระต๊อบ ห่างไปอีกร้อยกว่าเมตร

ก็ไม่ถือว่าไกลมาก ?

ลุงพล : ก็มองเห็นกันอยู่ครับ

กล่องนมเปรี้ยว น้องชอบยี่ห้อนั้น เอาไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว ลุงทราบไหมว่าตรวจไม่ได้ ?

ลุงพล : ผมไม่ทราบว่ากระต๊อบที่ว่าเขาพาใครเข้ามาบ้าง ส่วนใหญ่นมเปรี้ยวตามร้านค้าเขาก็กินกันทั่วไป

บ้านกกกอกที่อยู่ มีบ้านใครปลูกต้นมะยม ?

ลุงพล : ก็มีเยอะอยู่นะครับ เป็นต้นมหานิยม บ้านผมก็มีต้นหนึ่ง บ้านยายก็มี

พ่อแม่มีไหม ?

ลุงพล : พ่อแม่ชมพู่ไม่แน่ใจว่ามีหรือเปล่า

บ้านตายายอยู่ใกล้ ๆ บ้านพ่อแม่ ?

ลุงพล : ก็จากบ้านยายไปบ้านชมพู่ ร้อยกว่าเมตร

ตอนนี้คุณอัจฉริยะบอกว่าเด็กน่าจะถูกเฆี่ยน รอยเฆี่ยนมาจากไม้มะยม ลุงเชื่อไหม ?

ลุงพล : ผมว่าสถาบันนิติเวชน่าจะตอบได้ดีที่สุด ผมไม่ทราบครับ ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้

คิดว่าหลานถูกตีไหม ?

ลุงพล : ถ้าตามที่รู้จัก คนบ้านกกกอกไม่ค่อยตีลูกตีหลาน เลี้ยงง่าย ๆ แค่ดุเฉย ๆ ไม่ค่อยตี

มีประเด็นข่าว คืนวันที่ 12 วัชรินทร์ได้ยินเสียงหมาเห่า ลุงทราบไหม ?

ลุงพล : วันที่ 12 ตอนหัวค่ำ ผมขึ้นหลังภูเหล็กไฟกับนายสัตตยา ลงมาประมาณ 3 ทุ่ม ลงมาชาวบ้านเขาหากันอยู่ในหมู่บ้านถึงเที่ยงคืน ตี 1 นั่นแหละ เขาถึงได้เลิกหากัน

ตอนไปพบน้อง เห็นรองเท้า ไม่ได้วางคู่กัน กระจัดกระจาย แต่มีคนหยิบมาวางคู่กัน ?

ลุงพล : ใช่ครับ อย่างที่ยายตุ่นบอกว่ารองเท้ากระจายกันอยู่ ที่เป็นข่าวแกหยิบมาวางบนโขดหินครับ

ท่านรองมีอะไรจะถามไหม ?

พล.ต.ต. วิชัย : ผมก็คิดว่าตำรวจถามไปหมดแล้ว แต่ดูจากสภาพน้อง ผมไม่เชื่อว่าน้องเดินไป น้องเดินไปไม่ได้

มีคลิปหนึ่งที่ลุงไปเจอศพน้อง ลุงบอกว่าคนต้องสงสัยเป็นคนติดยา และเดินอยู่ในหมู่บ้าน ตอนนั้นยังอยู่ไหม ?

พล.ต.ต. วิชัย : สิ่งนี้ลุงพลรู้ได้ไง ทำไมพูดแบบนี้ และรู้ได้ยังไง คนที่คิดว่ามี มีตัวตนไหม

เขามีตัวตนไหมลุง บางส่วนเขาสงสัย ?

ลุงพล : ก็วันที่ผมพูดออกไป คือก่อนหน้าวันที่จะเจอน้อง ผมได้มีโอกาสปรึกษากับพ่อแม่เขาว่าสงสัยใครในหมู่บ้านบ้าง พ่อแม่เขาก็มีคนสงสัยในหมู่บ้านแต่ไม่ขอเอ่ยชื่อ ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นคนคนนั้นไหมที่ผมพูดออกไป ลักษณะคือเราได้คุยกันก่อนหน้านั้นครับ

ทำไมลุงพลเห็นสภาพน้อง ถึงไม่ฉุกคิดว่าหลานถูกข่มขืนหรือเปล่า เพราะสภาพน้องนอน ลักษณะกายภาพนอนผิดวิสัย แต่ลุงบอกน้องน่าจะขาดสารอาหารตาย ?

ลุงพล : ผมคิดว่าคนบ้านกกกอกไม่น่ามีคนทำพฤติกรรมแบบนั้น ในลักษณะข่มขืน ผมก็เลยไม่ได้สงสัย ก็เลยพูดไปแบบนั้น ไม่ได้คิดเรื่องนั้นครับ

ท่านรองมองยังไง ?

พล.ต.ต. วิชัย : สิ่งที่จะสรุปให้ประชาชนหายสงสัย คือนิติวิทยาศาสตร์ต้องบอกให้ชัดเจนว่าน้องเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด ไม่งั้นคนก็จะหยิบเป็นประเด็นแบบนี้ เหมือนนายคนหนึ่งหยิบประเด็นไปให้คนสงสัยไปเรื่อยโดยไม่มีหลักฐาน หรือหลักการที่มาเชื่อมโยงหรือทำให้หายสงสยได้ ดังนั้น ตำรวจต้องชี้แจงตรงนี้ให้ได้ เช่น บอกมาเลยว่าตายยังไง สังคมจะไม่เชื่อถือ คุณต้องบอกสิว่าเป็นไปได้ไหมว่าขาดน้ำแล้วตาย สรุปมาเลย แต่ถ้าคุณยังสรุปไม่ได้ ยังทิ้งประเด็นอื่นไม่ได้ เพราะยังมีข้อสงสัยเรื่องเด็กไปตายตรงนั้น แล้วดูสภาพจุดเกิดเหตุ ไม่ว่าหินหรือป่า เด็กจะไปเองได้ยังไง

สุดท้าย หลายคนมองว่าถูกตีหรือเปล่า ?

รศ. นพ.วีระศักดิ์ : ไม่หรอกครับ มันจะมีโรคหนึ่งมีชื่อว่าโรคหัวใจสลาย มีลักษณะคนหวีดกลัว อาการตกใจรุนแรง ทำให้เสียชีวิตได้ ถามว่าจะเอามาโยงกับเรื่องนี้ โดนตีหรืออะไรก็ตามก็ต้องพิสูจน์ ซึ่งการพิสูจน์ยากพอสมควร

ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33

ผู้การแต้ม แย้ง อัจฉริยะ ไม่เชื่อ น้องชมพู่ ช็อกตาย เพราะถูกก้านมะยมตี