คู่แม่ลูกรอดชีวิต หลังติดลิฟต์ 4 วัน ไร้น้ำและอาหาร ต้องดื่มปัสสาวะของกันและกันเอาชีวิตรอด พร้อม ๆ หาทางแงะลิฟต์ เพื่อหาอากาศหายใจ
วันที่ 20 กรกฎาคม 2563 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า หญิงจีนวัย 82 ปี และลูกสาววัย 64 ปี ในมณฑลส่านซี ประเทศจีน เพิ่งจะรอดชีวิตหลังประสบเหตุไม่คาดฝัน ถูกขังอยู่ในลิฟต์ที่บ้านเป็นเวลานานกว่า 4 วัน 3 คืน โดยไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้ ต้องอาศัยการดื่มปัสสาวะของกันและกันเพื่อเอาชีวิตรอด
รายงานเผยว่า แม่ลูกสูงวัยอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านที่มีความสูง 4 ชั้น แต่ในขณะที่พวกเธอขึ้นลิฟต์ที่ติดตั้งไว้ในบ้านเพื่อจะขึ้นไปอาบน้ำที่ชั้น 2 อยู่ ๆ ลิฟต์ก็เกิดค้างกะทันหัน
ด้วยระบบในลิฟต์ที่ชำรุด ทำให้พวกเธอต้องติดแหง็กอยู่เช่นนั้นในสภาพที่ไม่มีทั้งน้ำและอาหาร อากาศหายใจน้อยลงทุกขณะ และไม่สามารถติดต่อคนจากโลกภายนอกได้เพราะไม่มีใครพกโทรศัพท์มือถือติดตัว
ด้าน ดร.อิน แพทย์ที่ทำการรักษาคู่แม่ลูก เปิดเผยว่า หญิงทั้ง 2 คนต้องพยายามเอาชีวิตรอด ด้วยการให้แม่ปีนขึ้นไปบนไหล่ของลูกสาว ก่อนจะใช้กำปั้นต่อยหลอดไฟที่อยู่บนหัวจนแตก จากนั้นก็ดึงเอาลวดเหล็กภายในหลอดไฟออกมา แงะประตูลิฟต์จนเกิดช่องว่างเล็ก ๆ พอที่จะผลัดกันสูดเอาอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกลิฟต์
นอกจากนี้ เพื่อรักษาสภาพร่างกายในยังคงความชุ่มชื้น พวกเธอจำต้องใช้มือรองปัสสาวะของอีกคน เพื่อนำมาดื่มกินประทังชีวิต
ทั้งนี้ หลังจากเวลาผ่านไปนาน 96 ชั่วโมง
ในที่สุดฝ่ายลูกสาวก็สามารถแงะประตูลิฟต์จนมีช่องว่างกว้างกว่าเดิม
และกว้างพอที่เธอจะปีนออกมานอกลิฟต์ เพื่อโทร.
ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้สำเร็จ
ทำให้เจ้าหน้าที่นำกำลังมาช่วยพาตัวคู่แม่ลูกที่อยู่ในสภาพอิดโรยอย่างหนักส่งโรงพยาบาลเกาซิน
ในเมืองซีอาน
ด้าน ดร.อี้ แพทย์อีกรายที่ดูแลคู่แม่ลูก ยอมรับว่าทั้งคู่อาจไม่รอดชีวิต หากไม่ดื่มปัสสาวะในช่วงเวลานั้น โดยชี้ว่าในขณะที่ปัสสาวะอาจจะมีสารพิษบางอย่าง แต่ในปัสสาวะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ที่เราสามารถใช้เพื่อดำรงชีวิตได้ชั่วคราว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่คู่แม่ลูกต้องเอาชีวิตรอดจากการติดลิฟต์เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว เรื่องดังกล่าวเพิ่งปรากฏเป็นข่าว หลังจากที่ทั้งคู่ได้รับการรักษาร่างกายจนหายดี และสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่เมล
รายงานเผยว่า แม่ลูกสูงวัยอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านที่มีความสูง 4 ชั้น แต่ในขณะที่พวกเธอขึ้นลิฟต์ที่ติดตั้งไว้ในบ้านเพื่อจะขึ้นไปอาบน้ำที่ชั้น 2 อยู่ ๆ ลิฟต์ก็เกิดค้างกะทันหัน
ด้วยระบบในลิฟต์ที่ชำรุด ทำให้พวกเธอต้องติดแหง็กอยู่เช่นนั้นในสภาพที่ไม่มีทั้งน้ำและอาหาร อากาศหายใจน้อยลงทุกขณะ และไม่สามารถติดต่อคนจากโลกภายนอกได้เพราะไม่มีใครพกโทรศัพท์มือถือติดตัว
ด้าน ดร.อิน แพทย์ที่ทำการรักษาคู่แม่ลูก เปิดเผยว่า หญิงทั้ง 2 คนต้องพยายามเอาชีวิตรอด ด้วยการให้แม่ปีนขึ้นไปบนไหล่ของลูกสาว ก่อนจะใช้กำปั้นต่อยหลอดไฟที่อยู่บนหัวจนแตก จากนั้นก็ดึงเอาลวดเหล็กภายในหลอดไฟออกมา แงะประตูลิฟต์จนเกิดช่องว่างเล็ก ๆ พอที่จะผลัดกันสูดเอาอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกลิฟต์
นอกจากนี้ เพื่อรักษาสภาพร่างกายในยังคงความชุ่มชื้น พวกเธอจำต้องใช้มือรองปัสสาวะของอีกคน เพื่อนำมาดื่มกินประทังชีวิต
ภาพจาก news.sina
ด้าน ดร.อี้ แพทย์อีกรายที่ดูแลคู่แม่ลูก ยอมรับว่าทั้งคู่อาจไม่รอดชีวิต หากไม่ดื่มปัสสาวะในช่วงเวลานั้น โดยชี้ว่าในขณะที่ปัสสาวะอาจจะมีสารพิษบางอย่าง แต่ในปัสสาวะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ที่เราสามารถใช้เพื่อดำรงชีวิตได้ชั่วคราว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่คู่แม่ลูกต้องเอาชีวิตรอดจากการติดลิฟต์เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว เรื่องดังกล่าวเพิ่งปรากฏเป็นข่าว หลังจากที่ทั้งคู่ได้รับการรักษาร่างกายจนหายดี และสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่เมล