คืบอีกขั้น คดีโทโมโกะ คาวาชิตะ เสียชีวิตในไทยปี 2550 พบดีเอ็นเอที่ติดอยู่ที่กางเกง เอาไปสำรวจเรื่องชาติพันธุ์ พบไม่ใช่คนไทย เตรียมประสานญี่ปุ่นตามหาคนร้ายต่อ

ภาพจาก สำนักข่าว INN
ล่าสุด วันที่ 23 กรกฎาคม 2563 new18 รายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงถึงความคืบหน้าว่า ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็พยายามสืบสวนมานาน ส่วนการตรวจดีเอ็นเอที่ติดขอบกางเกงด้านหลังขวา เป็นดีเอ็นเอผู้ชาย และที่เกิดเหตุก็พบขวดน้ำที่ผลิตในท้องถิ่น เราจึงเรียกสอบชาวบ้านและเจ้าหน้าที่แถวนั้นกว่า 202 ราย กระทั่งวันที่ 24 กรกฎาคม 2552 ตำรวจก็งดการสอบสวน เพราะไม่พบผู้กระทำผิด
ต่อมาปี 2556 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร้องขอดีเอสไอให้รับเป็นคดีพิเศษ เพราะส่งผลต่อการรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และ จ.สุโขทัย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นหายหมด ดังนั้น ดีเอสไอจึงรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ และตรวจดีเอ็นเออีก 161 ราย มีผู้ถูกกล่าวหาเสียชีวิต 4 ราย ซึ่งก็ต้องตรวจดีเอ็นเอจากทายาทแทน แต่ก็ยังไม่พบเบาะแส จนต้องงดการสอบสวนชั่วคราวปี 2559
ตอนนี้เราได้เปลี่ยนแนวการสืบสวนใหม่ เพราะเก็บดีเอ็นเอหมดแล้ว จึงต้องนำดีเอ็นเอที่ขอบกางเกงมาปรึกษากับนักพันธุศาสตร์

ภาพจาก สำนักข่าว INN
พ.ต.ท. กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า หลังจากนี้คงต้องประสานไปต่างประเทศ เช่น ตำรวจสากล ส่วนเรื่องหลายสายพันธุ์อาจจะประสานไปยังญี่ปุ่น และมอบให้หน่วยงานอื่นสานต่อ เพราะมีฐานข้อมูลเก็บไว้ ส่วนหลังเกิดเหตุมีชาวญี่ปุ่น 1 ราย ที่กลับประเทศ ต้องประสานทางนั้นอีกครั้ง
ส่วน นายโทโมยูกิ ฟูจิยามา ตัวแทนตำรวจญี่ปุ่น กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนจากญี่ปุ่น ขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องที่ให้ความสำคัญของการสอบสวนคดี น่าเสียดายที่ยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการสอบสวนต่อไป ทางญี่ปุ่นยินดีที่จะประสานกับไทย เพื่อทำให้คดีนี้เป็นที่กระจ่าง
ขอบคุณข้อมูลจาก new18







