เผยสาเหตุ ครอบครัวบอส จ่ายชดเชย 3 ล้านจากที่เรียก 8 ล้าน - ญาติสิ้นหวัง หมดทางรื้อคดี

            ญาติดาบวิเชียร ออกทีวีแล้ว พูดที่โหนกระแสที่เดียว ชี้เรียกร้องไป 8 ล้าน โดนต่อรองเหลือ 3 ล้าน เพราะไม่ใช่ญาติสืบสันดานโดยตรง สุดท้ายเอามาหารกันได้ไม่ถึงล้าน แถมเซ็นสัญญาว่าจะไม่มีการฟ้องร้องกัน ด้านพี่สะใภ้ชี้ เคยพูดใส่หน้าพ่อแม่บอสชัด ๆ ว่าคุณเลี้ยงลูกไม่มีจิตสำนึก ชนคนแล้วหนีแทนที่จะลงมาช่วย พ่อแม่บอสได้แต่เงียบ


           วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 รายการโหนกระแส ยังเกาะติดคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชน ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต หลังจากโดนข้อหาประมาทร่วม วันนี้กลายเป็นประมาทคนเดียว ญาติรู้สึกไม่สบายใจเรื่องเงิน 30 ล้านได้จริงหรือเปล่า และกระแสสังคมที่เรียกร้องอยากให้ครอบครัวดาบลุกขึ้นมาฟ้องเอง โดยวันนี้ ได้มีการเปิดใจสัมภาษณ์ อ.ณัฐนันท์ กลั่นประเสริฐ พี่สะใภ้ดาบวิเชียร ซึ่งเป็นคนดูแลเรื่องนี้ตั้งแต่แรก มาพร้อม ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์
 
สนิทกับดาบวิเชียรไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : สนิทมากค่ะ น้องคนนี้ไม่ค่อยพูดกับพี่ชายเขาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เวลาไปหาหลานหรือพี่ชาย เขามีอะไรมักปรับทุกข์กับพี่

ดาบมีพี่น้องทั้งหมดกี่คน ?

           อ.ณัฐนันท์ : 5 คนค่ะ ดาบเป็นคนที่ 4

สามีพี่ พี่ชายของดาบ เป็นคนที่ ?

           อ.ณัฐนันท์ : คนโตค่ะ ชื่อพี่ชาติค่ะ

ย้อนหลังกลับไปวันเกิดเหตุ วันที่ 3 กันยายน 2555 ทางครอบครัวทราบเรื่องได้ยังไง ?

           อ.ณัฐนันท์ : บอกตรง ๆ เลยว่าทราบเรื่องตอนไปถึงที่ทำงานแล้ว แล้วข่าวออก พี่ ๆ โทร. มาบอกว่าอาของหลานเสียชีวิตแล้ว ประมาณ 05.30 น. เกือบ 06.00 น. แต่ก็ยังไม่เชื่อ ก็เลยโทร. ไปหาสามีว่าทราบหรือยังว่าน้องตัวเองเสียแล้ว เขาก็บอกว่ายังเลย ตอนนั้นคุณสรยุทธกำลังออกข่าวเลย ก็เลยตกใจ จนพี่ชายเขาไม่สามารถขับรถไป สน.ทองหล่อ ได้ ก็เลยบอกว่าคุณรออยู่ที่บริษัทนะ เดี๋ยวเราจะนั่งแท็กซี่ไปสถานีตำรวจด้วยกัน นี่คือที่เราทราบข่าว เมื่อเราไปถึงสถานีตำรวจแล้ว ตอนนั้นเรายังไม่ได้ไปที่เกิดเหตุ และยังไม่ได้ไปโรงพยาบาล เราไปโรงพยาบาลตอนบ่ายเพื่อรับศพ


หลังจากนั้นทราบไหมว่าใครเป็นคนชน ?

           อ.ณัฐนันท์ : ทราบแล้วค่ะ

ตอนนั้นมีพยานยืนยันไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : ไม่มีเลยค่ะ ได้คุยกับตำรวจ ก็ไม่มีอะไรเลยค่ะ ไม่มีพยานอะไรเลย

คุณบอสติดต่อมาไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : ไม่มีค่ะ

ทนายติดต่อมาไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : ไม่มีเลยค่ะ มีแต่ช่วงที่ว่าตอนงานศพ คุณพ่อ คุณแม่ คุณบอส และเครือญาติทั้งหลาย ไปขอโทษหมดเลย ก็เจอกัน แต่ก็ปกติค่ะ เลยพูดไป 2-3 คำกับคุณพ่อ เรายืนในฐานะเจ้าภาพ เขาขึ้นมาก็ยกมือไหว้ขอโทษ ๆ เราไม่ได้ว่าอะไรเขา แต่เราพูดไปคำหนึ่งว่า คุณเลี้ยงลูกขาดจิตสำนึก ดิฉันพูดจริง ๆ ค่ะ ตอนนั้นเลย ถ้าคุณให้ลูกคุณมีจิตสำนึก ชนคนลงมาดู แล้วไปส่งโรงพยาบาล จบเลยค่ะ


เราจะไม่ติดใจ ?

           อ.ณัฐนันท์ : ไม่ติดใจ แต่นี่คุณชนแล้วหนีเข้าบ้าน ให้พ่อบ้านออกมารับ แล้วตอนนั้นท่านคำรณวิทย์ไปล้อมบ้านเอาตัวผู้ก่อเหตุออกมา แต่ก่อนนั้นคนออกมารับแทนคือพ่อบ้าน หลังจากที่เราเจอ เราพูดตรงนั้นนิดเดียว ว่าคุณเลี้ยงลูกไม่มีจิตสำนึก ดิฉันเป็นครูบาอาจารย์ ยังสอนเด็กนักเรียนให้มีจิตสำนึก การอยู่ร่วมกันในสังคม เขาก็ยกมือขอโทษ แล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันเลย แต่ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ ยอมรับว่าตระกูลอยู่วิทยา คุณพ่อคุณแม่คุณบอสเป็นคนดำเนินการให้

ตอนนั้นยืนยันว่าไม่มีพยาน ดูในสำนวน ไม่มีพยาน ?

           อ.ณัฐนันท์ : ขอโทษนะคะ สำนวนไม่เคยเห็นเลยค่ะ ด้วยความสัตย์จริงค่ะ

ได้เหรอ ?

           ทนาย : จริง ๆ  ต้องแจ้งความคืบหน้าให้ญาติเขาทราบ

           อ.ณัฐนันท์ : ไม่เคยเลยค่ะ หลังผ่านวันที่นัดก็ห่างไปเกือบเดือน ก็มีคนโทร. บอกว่าให้มาที่ สน.ทองหล่อ มาตกลงกันเรื่องเยียวยา เราไปกัน 5 คน พี่น้องไปกันหมดเลย เราไปนั่งกันตรงนั้น ตำรวจเต็มเลยห้องประชุม เขาถามว่าจะเรียกเท่าไหร่


ทนายเขาถาม ?

           อ.ณัฐนันท์ : ถูกต้องค่ะ จำไม่ได้แล้ว เขาถามว่าจะเรียกค่าเยียวยาเท่าไร เราบอกว่าให้เท่าไรล่ะ พี่เป็นคนพูดเอง จำได้แม่น เขาบอกว่าพี่ก็เรียกมาสิ เสร็จแล้วพี่ชาติ พี่ชายผู้ตาย ก็บอกว่าเอางี้ ขอคำนวณ อายุการทำงานราชการ ตั้งแต่วันที่น้องตาย จะคำนวณจนเกษียณอายุ เบี้ยรายทางนิด ๆ หน่อย ๆ ตำแหน่งขึ้นนิด ๆ หน่อย ๆ เขาคำนวณได้ 7-8 ล้าน ตีไปสัก 8 ล้าน พี่ชาติบอกว่าขอ 8 ล้าน เขาบอกว่าไม่ให้ พี่ชาติบอกว่า งั้นขอ 6 ล้าน เขาก็ไม่ให้ เขาบอกให้ได้เต็มที่คือ 2 ล้าน ดิฉันก็บอกว่าชีวิตคนตีมูลค่าได้แค่ 2 ล้านเหรอคะ ถ้าเป็นลูกคุณ คุณตีได้แค่ 2 ล้านเหรอคะ เขาก็นิ่ง

           อ.ณัฐนันท์ : เราก็เลยรู้สึกว่าเราไม่ได้หิวเงินหรืออยากได้เงิน เรามีศักดิ์ศรีของเรา เราก็บอกว่างั้นเราขอแค่ 3 ล้านละกัน ทนายบอกว่าขอคุยกับนายก่อน แล้วเดินออกจากห้องไป หยิบโทรศัพท์มาคุยแล้วบอกว่า นายอนุญาตให้ 3 ล้าน แล้วเขาก็มีหนังสือมาเลยว่า ถ้ารับเงินเยียวยา 3 ล้าน คุณไม่มีสิทธิ์ฟ้องทางแพ่งและอาญา เราก็จบตั้งแต่วันนั้นเลย ต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน เขาไม่ได้ให้เงินวันนั้น เขาให้อีกอาทิตย์หรือ 2 อาทิตย์ไม่ทราบ อาจจะจำผิดพลาดเพราะนานแล้ว คนไปรับคือพี่ชาติ ไปรับคนเดียว

3 ล้าน แบ่งกับพี่น้อง 4 คน ?

           อ.ณัฐนันท์ : ถูกต้องค่ะ เฉลี่ยแล้วได้คนละ 7.5 แสนบาท


สัญญาฉบับนั้นมีผลไหม จะไม่ฟ้องแพ่ง-อาญา ?

           ทนาย : มีผล ทางแพ่งฟ้องไม่ได้อยู่แล้ว เหลือทางอาญา ซึ่งทางอาญา ถ้าดูเนื้อหามีการเจรจากันที่โรงพักทองหล่อ เขามีการพูดคุยกันแล้วนะ มันมีเหตุผลว่าทำไมต้องรับแค่ 3 ล้าน

ทำไม ?

           อ.ณัฐนันท์ : เขาบอกคุณเป็นใคร คุณไม่ใช่คนสืบสันดานโดยตรง เมียก็ไม่ใช่ ภรรยาก็ไม่ใช่ พ่อแม่ก็ไม่ใช่ คุณเป็นเพียงแค่พี่ งั้นคุณไปฟ้องร้องเอา ถ้าอยากได้มากกว่านี้ เขาพูดแบบนี้เลย เราเลยจำเป็นต้องเอาแค่ 3 ล้านค่ะ

เป็นไปตามนั้นไหม ?

           ทนาย : คือทางกฎหมาย คนมีสิทธิ์เรียกค่าเสียหายจากผู้ตายได้ต้องเป็นผู้เสียหายทางนิตินัย ที่กฎหมายกำหนดไว้คือ ต้องเป็นพ่อแม่ ลูก คู่สมรส หรือเมีย


พ่อแม่ ?

           อ.ณัฐนันท์ : เสียหมดแล้วค่ะ

ตอนแรกมีข่าวว่าแม่ดาบยังอยู่ ?

           อ.ณัฐนันท์ : อันนี้ขอแก้ข่าวค่ะ พ่อแม่เสียประมาณ 3-4 ปี ก่อนดาบจะเสีย เสียชีวิตไปก่อนแล้ว

ภรรยา ?
           อ.ณัฐนันท์ : ไม่มีค่ะ แต่ถามว่าเคยมีไหม มี แต่หลังจากดาบเสียชีวิต ดาบอยู่กับภรรยาคนที่แต่งได้ไม่ถึงปี ดาบเลิกกัน ต่างคนต่างอยู่ และดาบก็ใช้ชีวิตโสดมา 3-4 ปี ถือว่าเป็นภรรยาอยู่ไหมคะ เขาเลิกกัน ไม่ได้จดทะเบียนกัน

เมียดาบคนแรกแยกย้ายกันไปก่อนดาบจะตาย หลังจากนั้นดาบมีเมียอีกไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : หลังจากนั้นดาบมาบอกว่า พี่ ๆ ผมมีแฟน เช่าบ้านอยู่แถวทองหล่อ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าคิดว่าเป็นความสุขก็เรื่องของเขา แต่เขามีแฟนอีกคนหนึ่ง ไม่ขอเอ่ยชื่อ เราก็ยินดี เรารู้แต่ไม่เคยเห็นหน้าตา รู้ว่าชื่อนี้ ๆ แต่ไม่เคยเห็น


หลังจากดาบเสียชีวิต ทางแฟนดาบก็แยกย้ายกันไป ไม่เกี่ยวข้องกัน ?

           อ.ณัฐนันท์ : คือคนที่ 2 สังเกตในงานศพตั้งแต่ต้นจนจบ มีสาวอยู่คนหนึ่ง มานั่งร้องไห้หน้าศพวันแรก เราก็สงสัยว่าคือใคร จนวันเก็บกระดูกวันสุดท้ายจะเผา พอดีพวกเพื่อน ๆ ของดาบ มาบอกว่าคนนี้คือแฟนของเขา

เขามีส่วนได้ส่วนเสียอะไรไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : พี่ให้เขาเอง 2 แสนบาท ญาติพี่น้องรวมกันให้เอง โดยตกลง พี่ก็บอกว่าอย่างน้อย ๆ เขาอยู่กับน้องเรา เราในฐานะเป็นพี่สะใภ้ เราเข้าใจหัวอกคนเป็นผู้หญิงด้วยกัน ก็เลยให้เขาไป

แต่ข่าวที่ออกมา ไม่ใช่ 3 ล้าน มัน 30-40 ล้าน ?

           อ.ณัฐนันท์ : เอาไปตรงไหนคะ 30-40 พี่ไม่เคยเห็นตัวเงิน เห็นแค่ 3 ล้าน 20 กว่าล้านไปไหน หาคำตอบไม่เจอ จ่ายใครไม่รู้ แต่ไม่ได้จ่ายพี่ แต่บอกเลยญาติพี่น้อง 4 คนไม่มีใครได้เลย ได้แค่ 3 ล้านมาแบ่งกัน เราก็ได้ยินว่าญาติได้ 30-40 ล้านใช่ไหม จึงไม่ออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้อง เพราะมันไปปิดปาก

วันนี้ที่อยากจะพูดคืออยากบอกว่าเปล่าเลย ไม่เคยได้ 30 ล้าน ?

           อ.ณัฐนันท์ : เปล่าเลยค่ะ

มีประเด็นหนึ่งที่เป็นข่าว บอกว่าบ้านบอส เขาจ่ายให้กับญาติคนหนึ่งไปรักษาดวงตา เป็นญาติของดาบ รักษาจนหาย ข้อเท็จจริงมีไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : (หัวเราะ) หัวเราะสิคะ เพราะน้องสาวคนนี้เป็นน้องสาวพี่ชาติ พี่ชาติคนแรก คนนี้คือคนที่สองชื่อพี่ชีพ เป็นผู้หญิง เขาเป็นเนื้องอกที่ดวงตา ปูดออกมา ถามว่าได้รับเงินเยียวยาตรงนี้ไป เขาอยู่ชุมพร เขาติดต่อกับพี่ตลอด พี่ไปมาหาสู่กัน ไม่เคยได้รับเงินสักบาท ลูกชายเขาเป็นคนรักษาอยู่ค่ะตอนนี้


ที่มีข่าวว่าบ้านบอสเขาเป็นคนรักษา ?

           อ.ณัฐนันท์ : อุ๊ย งงจังค่ะคุณหนุ่ม ยืนยันได้เลยว่าไม่มีค่ะ ตอนนี้อาชีพเขาไม่สบายด้วย

สรุปแล้วรักษากันเอง ไม่มีใครเอาเงินมาให้ ?

           อ.ณัฐนันท์ : ไม่เกี่ยวเลยค่ะ

อยู่ ๆ มีพยานเกิดขึ้น 2 คน งงไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : งงค่ะ  ตายละหว่า พยานมาจากไหน ใหม่ ๆ ทำไมไม่มีพยาน อยู่ ๆ ปีที่ 7 มีพยานโผล่มาได้

เขาไม่เคยพูดถึงเหรอ ?

           อ.ณัฐนันท์ : ไม่เคยเลยค่ะ สำนวนก็ไม่เคยเห็นค่ะ สถานีตำรวจไม่เคยเรียกญาติไปดูสำนวนเลย

พยาน 2 คนนี้ มีโอกาสได้คุยกับพี่หรือยัง ?

           อ.ณัฐนันท์ : ยังค่ะ


ต้องคุยไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : ก็ไม่ทราบเหมือนกัน บอกตรง ๆ นะคะ ไม่ทราบเหมือนกัน

ตอนนี้กลายเป็นว่าดาบวิเชียร เป็นผู้ประมาทคนเดียว เลยทำให้เกิดเหตุ กลายเป็นคนผิด ?

           อ.ณัฐนันท์ : ใช่ค่ะ แล้วข่าวบอกว่าญาติต้องออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถเฟอร์รารี่ (หัวเราะ) เพราะดาบผิด ข่าวลงอย่างนั้น

7.5 แสนต้องคืนเขาด้วย ?

           อ.ณัฐนันท์ : สงสัยค่ะ สงสัยตายฟรีแล้วเนี่ย

ทำไมพี่ถอนใจ ?

           ทนาย : (ถอนใจ) มันเป็นสำนวนแปลก พอฟังจากญาติก็รู้สึกว่าแปลกหลาย ๆ อย่าง ถ้าดาบวิเชียรผิดฝ่ายเดียว ก็ต้องไปซ่อมรถให้เขา 3 ล้านไม่พอแล้วมั้ง ถ้าชี้มาว่าดาบผิด แล้วคุณวรยุทธไม่ผิด ก็ต้องเป็นสภาพนั้นตามกฎหมาย เหมือนดาบวิ่งไปชนเขาเอง

พี่ ๆ น้อง ๆ ดาบ ไม่มีสิทธิ์ไปฟ้องตั้งแต่แรก เพราะไม่ได้สืบสันดาน ไม่ได้เป็นพ่อแม่ ภรรยา แต่ถ้าวันนี้ชี้มาว่าดาบผิดจริง พี่น้องต้องซ่อมให้เขาเหรอ ?

           ทนาย : ผู้รับมรดกจากดาบ ต้องซ่อมตามทรัพย์สินที่ยังมีอยู่ ที่รับมรดกมา ก็ต้องรับไปทั้งหนี้ทั้งสิน แต่ไม่ให้รับผิดชอบเกินจากเงินที่ได้ไปจากกองมรดกเท่านั้นเอง

           อ.ณัฐนันท์ : (ถอนใจ)


ลึก ๆ อยากรื้อคดีไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : ถามว่าอยากไหม อยาก แต่ด้วยสิ่งที่เราเซ็นไปแล้วในข้อตกลง เราไม่มีสิทธิ์ฟ้องในทางแพ่งและอาญา เพราะเราไปรับเยียวยา 3 ล้านแล้ว

           ทนาย : ก็เป็นไปตามกฎหมายครับ

รู้สึกยังไงที่เขาคำนวณตัวเลข จากที่เมื่อก่อนขับ 170 กว่า มีการลงพื้นที่ถึง 3 ทีมด้วยกัน มีการวัดเฟรมจากการขับขี่รถ เฟรมต่อเฟรม เอามาบวกลบคูณหารกับวินาทีตัวเลข ทั้งหมดสอดคล้องกันหมด แต่วันนี้เหลือ 76-79 กม./ชม. ?

           อ.ณัฐนันท์ : ขอย้อนถามว่ามันแปลกไหมคะ มันแปลกค่ะ จาก 177 มาเหลือ 79 สงสัยเขาพิมพ์เลข 1 ตกไปค่ะ

เขาแจ้งไหมว่าขับรถเร็วเท่าไร ?

           อ.ณัฐนันท์ : เขาไม่ได้แจ้งว่า 177 แต่เขาบอกเราเพียงว่าขับรถเร็ว


กรณีนี้ทางญาติเขาไม่มีสิทธิ์แล้ว ที่หลายคนบอกว่ามีทางเดียวคือญาติต้องลุกมาฟ้อง ?

           ทนาย : เพราะเขาไม่ทราบไงว่าดาบวิเชียรไม่มีลูกเมีย ไม่มีพ่อแม่ ถ้าเขาทราบจะรู้ว่าทำสัญญาไปแล้วก็น่าจะจบ ได้เงินไปแล้ว 3 ล้าน ก็เหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำรวจ อัยการ ศาลจะจบยังไงเท่านั้นเอง นี่มันจบชั้นอัยการสูงสุดก่อน มันไม่ได้ไปศาล

พี่ไปร้องอะไรมา ?

           ทนาย : ส่วนใหญ่คดีทางอาญาคุณวรยุทธเขาไม่ผิดแล้ว จะบอกว่าเขาบริสุทธิ์ไหม จะบอกอย่างนั้นก็ได้ เพราะเขากลับมาไม่ถูกคุมขังอยู่แล้ว สำหรับในข้อหาเดิม แต่ที่ผมไป ป.ป.ช. วันนี้ เพราะผมและนักกฎหมายหลายคนรู้สึกเป็นห่วงในกระบวนการยุติธรรม เป็นห่วงกระบวนการการใช้ดุลยพินิจของอัยการในการสั่งคดีนี้ เลยอยากให้มีการตรวจสอบและไต่สวนจาก ป.ป.ช. ให้เกิดความโปร่งใส ในประเด็นที่ทุกคนสงสัย จะมีคำชี้แจงในทางวิชาการในทางกฎหมายยังไงบ้าง แล้วกรณีแบบนี้เคยใช้กับกรณีอื่น ๆ ไหม เราจะขอให้ทาง ป.ป.ช. เรียกสำนวนมา

ตอนนี้หลายหน่วยงานมาก ทั้งนายกฯ ทางพี่ ทางศรีสุวรรณ รวมถึงนิสิต นักศึกษาทั้งหลาย ลุกขึ้นมาเพื่อให้รื้อคดี โอกาสมีไหม ?

           ทนาย : ก็ริบหรี่ครับ ริบหรี่มากในทางกฎหมาย ริบหรี่สุด ๆ แต่ถ้าไม่ทำอะไร เราก็ยอมรับความเคลือบแคลงของสังคมแบบนี้ต่อไป


ที่ลุกมาเพราะตามกระแสสังคมหรือเปล่า หรือขายผ้าเอาหน้ารอดหรือเปล่า ?

           ทนาย : เป็นการลดกระแสสังคมส่วนหนึ่ง แต่มุมหนึ่งคนเขาไม่ยอมให้จบแบบนี้ ต้องมีคำอธิบายให้มากกว่านี้ ไม่ใช่สั่งไม่ฟ้อง แล้วไม่อธิบายให้สังคมเข้าใจเลย มันไม่ได้ มันรับไม่ได้ แล้วคนไทยมองภาพคนรวยกับคนจนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมต่างกันอยู่แล้ว พอเจอคดีนี้ ยิ่งสะท้อนความจริงอันนั้นให้กับคนไทย และสะท้อนไปสู่สายตาชาวโลกด้วย ทำไมไม่ทำให้บริสุทธิ์โปร่งใส และกระจ่างว่าที่ไม่ฟ้องเพราะอะไร เหตุผลน่าเชื่อถือยังไงบ้าง เอาง่าย ๆ พยาน 2 ปากที่โผล่มา ถ้าขึ้นสู่กระบวนการศาล ก็ต้องมีการซักถามพยาน แต่พอตัดจบแบบนี้ก็ไม่ต้องพิสูจน์กันแล้ว

ดาบไม่มีลูก ?

           อ.ณัฐนันท์ : ไม่มีค่ะ

พี่รู้สึกยังไงที่วันนี้คนไทยส่วนใหญ่พยายามทวงคืนความยุติธรรมให้ดาบวิเชียร ?

           อ.ณัฐนันท์ : ก็ดีใจส่วนหนึ่งที่คนลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรม แต่ก็เสียใจสำหรับครอบครัวเรา ตรงที่เราฝากความหวังไว้เรื่องความยุติธรรม เรื่องกฎหมาย แต่สุดท้ายผลออกมาสั่งไม่ฟ้อง และสั่งน้องผิดฝ่ายเดียว


ทำไมมาออกรายการ ?

           อ.ณัฐนันท์ : มันเครียด ข่าวที่ออกมาแต่ละรายการ บางข้อมูลเขาไม่รู้เท็จจริง เช่น ได้ 30 ล้าน ภรรยาทำไมไม่ได้ ทำไมญาติเอาไป พ่อแม่ยังอยู่ทำไมไม่ฟ้องร้อง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มันไม่จริง

จะออกไปชี้แจงกับสื่ออีกไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : ก็ขอประทานโทษสื่ออื่น ๆ นะ ขอความกรุณา ออกรายการโหนกระแสเพียงรายการเดียว ถ้าสื่ออื่น ๆ อยากได้ข้อมูลหรือข่าวสารต่าง ๆ ให้มาเอาที่โหนกระแส เพราะพี่คงพูดในลักษณะเดียวกัน ด่าคุณหนุ่มไม่ได้นะคะ แต่ขอโทษตรงนี้ว่าพี่เครียดแล้ว วัน ๆ พี่รับแต่โทรศัพท์ไม่ไหว งานพี่ก็ต้องทำ พี่หากิน ไม่ได้เป็นเศรษฐี พี่เป็นคนจน


ศพดาบตอนนั้นถูกลากไปไหม ?

           อ.ณัฐนันท์ : ถูกลากค่ะ จากซอย 47 ไปถึง 49 ฝากระโปรงเป็นแค่รอยรถ หน้าแข้งกระดูกออกมาเลย คอก็หัก แล้วเครื่องหมายดาบปักอยู่ที่รอยปัดน้ำฝนของรถเฟอร์รารี่

           รายการโหนกระแส วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33