อาชีวะช่วยชาติ นัดรวมตัวประกาศจุดยืน ต่อต้านกระบวนการใช้เยาวชนออกหน้าหมิ่นเบื้องสูง ชี้ไม่ติดใจชุมนุมไล่รัฐบาล เพราะเป็นสิทธิ์ตามประชาธิปไตย แต่เหตุใดต้องจาบจ้วงสถาบันฯ เบื้องต้นอาจยังไม่ชุมนุมเพราะสถานการณ์โควิด 19 แต่หากอีกฝ่ายยังไม่หยุด คงต้องดูอีกที
ภาพจาก INN
วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 เมื่อเวลา 14.00 น.
ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ
ได้รวมตัวกันจัดกิจกรรมแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน
ซึ่งมีกลุ่มนักเรียน นักศึกษาช่างกล - อาชีวะ
รวมถึงศิษย์เก่าจากหลายสถาบัน เข้าร่วมหลายสิบคน โดยแต่งกายด้วยเสื้อสถาบัน
บางส่วนสวมชุดสีเหลือง ร้องตะโกนทรงพระเจริญ พร้อมพากันกางธงชาติผืนใหญ่
ชูป้ายเขียนข้อความ "หยุดคุกคามสถาบัน"
ตัวแทนกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ อ่านแถลงการณ์ "เพื่อประชาธิปไตยด้วยใจจงรักภักดี" ระบุว่า จากกรณีที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก และสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา แห่งประเทศไทย หรือ สนท. จัดกิจกรรมทางการเมืองขึ้น ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ซึ่งต่อมาได้มีการจัดกิจกรรมในลักษณะเช่นเดียวกันนี้หลายพื้นที่ทั่วประเทศ
แม้กิจกรรมดังกล่าวจะเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกและยุบสภา แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แต่จากหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏกลับพบว่ามีการแสดงออกเพื่อต้องการท้าทาย ต่อต้าน หรือล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งยังมีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือเฟกนิวส์ เพื่อปลุกระดมให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ด้วยเหตุนี้ ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ จึงขอแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น และจะเคลื่อนไหวโดยดำเนินกิจกรรมให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเจตนาที่แท้จริงของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือในการต่อต้านล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อประชาธิปไตยและใจที่จงรักภักดี
นายทศพล มนูญญรัตน์ แกนนำกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าแอดมินเพจเคยเป็นแนวร่วมคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ว่า กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ก่อตั้งเมื่อปี 2556 แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนแอดมินเพจเป็นตนเองแล้ว ยืนยันว่าแอดมินคนเดิมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเพจแล้ว ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านมองว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มมีรัฐบาลอยู่เบื้องหลังนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีเพียงตนและเพื่อนอีก 2 คน ที่ร่วมกันคิดและดำเนินการจัดกิจกรรมขึ้น
ส่วนจะมีการเรียกร้องให้ใช้มาตรา 112 กับคนที่ถือป้ายข้อความไม่เหมาะสมหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องของกฎหมาย ทางกลุ่มมีหน้าที่อย่างเดียวคือปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
สำหรับข้อเรียกร้องของ "กลุ่มเยาวชนปลดแอก" ทั้ง 3 ข้อนั้น ฝ่ายตนไม่มีปัญหาอะไร เพราะเข้าใจหลักสิทธิมนุษยชนตามหลักประชาธิปไตย แต่ขอฝากถึงกระทรวงที่ดูแลด้านการใช้โซเชียลมีเดีย ให้ดำเนินการตรวจสอบบุคคลที่ใช้โซเชียลเผยแพร่ข้อมูลจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมฝากถึงผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของนักศึกษา ว่าให้หยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม