พนักงานร้านเบเกอรี่ถูกไล่ออก แม้ทำงานที่ร้านมานานร่วม 44 ปี เหตุใช้บัตรเครดิตตัวเอง รูดจ่ายค่าสินค้าแทนลูกค้า ลั่นทนดูลูกค้าผิดหวังไม่ได้ หลังทางร้านมีนโยบายไม่รับเงินสด
![เบเกอรี่]( "เบเกอรี่")
ด้วยเหตุผลด้านสุขอนามัย ทำให้มีร้านค้าหลายร้านในอังกฤษ ประกาศขอความร่วมมือจากลูกค้าในการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเท่านั้น โดยไม่รับเงินสดอีก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ที่อาจปนเปื้อนอยู่บนธนบัตรและเหรียญ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 แต่ถึงอย่างนั้นนโยบายดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ที่อาจไม่มีบัตรเครดิตไว้ใช้จ่าย
และนั่นทำให้ เมแกน พนักงานร้านเบเกอรี่ วัย 60 ปี รู้สึกทนดูไม่ได้เมื่อต้องเห็นเหล่าลูกค้าสูงวัยเดินออกจากร้านมือเปล่าด้วยความผิดหวัง เพราะพวกเขาไม่สามารถซื้อสินค้าในร้านได้ เธอจึงตัดสินใจรับเงินสดจากลูกค้าไว้เอง และใช้บัตรเครดิตของเธอรูดจ่ายค่าสินค้าให้ แต่เธอไม่คิดเลยว่าความหวังดีของตัวเอง จะกลายเป็นความผิดที่ทำให้เธอถูกไล่ออก
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Unilad เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เปิดเผยว่า เมแกนทำงานอยู่ที่ร้านเบเกอรี่ Birds
Bakery ในนอตทิงแฮมเชอร์ ของอังกฤษ มาเป็นเวลาถึง 44 ปีแล้ว
และเธอก็หัวเสียหนักที่อยู่ ๆ ถูกไล่ออก
เมื่อทางร้านจับได้ว่าเธอแอบใช้บัตรเครดิตของตัวเองมารูดจ่ายเงินให้ลูกค้า
เมแกน ชี้แจงว่า เธอรู้ดีว่าสิ่งที่ทำไปนั้นขัดต่อนโยบายบริษัท แต่ลูกค้าเหล่านี้หยิบของมาแล้ว พร้อมที่จะจ่ายเงินซื้อแล้ว เธอไม่มีทางปล่อยให้ชายหรือหญิงสูงวัยเหล่านั้นต้องเดินจากไป ด้วยการเดินเข้าไปบอกว่าพวกเขาซื้อของไม่ได้ เพราะไม่มีบัตรเครดิต คนเหล่านี้หยิบของจากสต็อกออกมาแล้ว ฉะนั้นสินค้าเหล่านี้จำเป็นต้องโยนทิ้งไป หรือมีการทำความสะอาดใหม่
โดยเธอรับเงินสดมาประมาณ 180 ปอนด์ (ราว 7,300 บาท) และนำเงินใส่กระเป๋าสตางค์ของเธอเอง ก่อนจะใช้การ์ดของเธอรูดจ่าย โชว์ใบเสร็จให้ลูกค้าและเก็บไว้เอง
ทั้งนี้ พบว่าหลังจากทางร้านล่วงรู้ถึงพฤติกรรมของเมแกน ที่รับเงินสดจากลูกค้าแล้วใช้บัตรเครดิตของตัวเองจ่ายเงินให้ ก็ได้มีการสั่งพักงานเธอโดยยังจ่ายค่าจ้างให้ เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนจะทำการสอบสวนทางวินัย และตัดสินใจไล่เธอออกจากงาน
ทางร้าน Birds Bakery ยังชี้ว่า พวกเขาเสียใจเช่นกันที่ต้องปล่อยพนักงานที่อยู่กับร้านมานานไป ขณะที่ เลสลีย์ เบิร์ด ซีอีโอของร้าน เผยว่า ร้านเบเกอรี่แห่งนี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานอย่างจริงจัง เนื่องจากลูกค้าส่วนมากเป็นคนสูงวัย ซึ่งมีความเปราะบาง จึงเป็นความรับผิดชอบของทางร้านที่จะต้องดูแลความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน เช่นเดียวกับร้านอาหารอื่น ๆ โดยในช่วงที่มีการระบาด ทางร้านขอให้ลูกค้าจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเท่านั้น เพราะธนบัตรกับเหรียญนั้นไม่สะอาด อาจทำให้พนักงานที่ต้องดูแลเงินเกิดความเสี่ยงไปด้วย
เลสลีย์ เบิร์ด ย้ำว่า การกระทำของเมแกนขัดต่อทั้งนโยบายบริษัท และแนวปฏิบัติในการรับมือการระบาดของโควิด 19 แต่ดูเหมือนว่าเมแกนจะยอมรับคำตัดสินนี้ไม่ได้ง่าย ๆ โดยเธอยังอธิบายว่า เธอเพียงแค่พยายามทำในสิ่งที่ถูกเท่านั้น
ทั้งนี พบว่ามีชาวเน็ตบางกลุ่มที่ทราบเรื่อง ได้ออกมาร่วมกันสร้างแบบส่งคำร้องทางโลกออนไลน์ เพื่อขอให้มีการรับตัวเมแกนกลับไปทำงานอีกครั้ง โดยมีคนมาร่วมลงชื่อกันกว่า 3 พันครั้งแล้ว ในระยะเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลจาก Unilad
และนั่นทำให้ เมแกน พนักงานร้านเบเกอรี่ วัย 60 ปี รู้สึกทนดูไม่ได้เมื่อต้องเห็นเหล่าลูกค้าสูงวัยเดินออกจากร้านมือเปล่าด้วยความผิดหวัง เพราะพวกเขาไม่สามารถซื้อสินค้าในร้านได้ เธอจึงตัดสินใจรับเงินสดจากลูกค้าไว้เอง และใช้บัตรเครดิตของเธอรูดจ่ายค่าสินค้าให้ แต่เธอไม่คิดเลยว่าความหวังดีของตัวเอง จะกลายเป็นความผิดที่ทำให้เธอถูกไล่ออก
เมแกน ชี้แจงว่า เธอรู้ดีว่าสิ่งที่ทำไปนั้นขัดต่อนโยบายบริษัท แต่ลูกค้าเหล่านี้หยิบของมาแล้ว พร้อมที่จะจ่ายเงินซื้อแล้ว เธอไม่มีทางปล่อยให้ชายหรือหญิงสูงวัยเหล่านั้นต้องเดินจากไป ด้วยการเดินเข้าไปบอกว่าพวกเขาซื้อของไม่ได้ เพราะไม่มีบัตรเครดิต คนเหล่านี้หยิบของจากสต็อกออกมาแล้ว ฉะนั้นสินค้าเหล่านี้จำเป็นต้องโยนทิ้งไป หรือมีการทำความสะอาดใหม่
โดยเธอรับเงินสดมาประมาณ 180 ปอนด์ (ราว 7,300 บาท) และนำเงินใส่กระเป๋าสตางค์ของเธอเอง ก่อนจะใช้การ์ดของเธอรูดจ่าย โชว์ใบเสร็จให้ลูกค้าและเก็บไว้เอง
ทั้งนี้ พบว่าหลังจากทางร้านล่วงรู้ถึงพฤติกรรมของเมแกน ที่รับเงินสดจากลูกค้าแล้วใช้บัตรเครดิตของตัวเองจ่ายเงินให้ ก็ได้มีการสั่งพักงานเธอโดยยังจ่ายค่าจ้างให้ เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนจะทำการสอบสวนทางวินัย และตัดสินใจไล่เธอออกจากงาน
ทางร้าน Birds Bakery ยังชี้ว่า พวกเขาเสียใจเช่นกันที่ต้องปล่อยพนักงานที่อยู่กับร้านมานานไป ขณะที่ เลสลีย์ เบิร์ด ซีอีโอของร้าน เผยว่า ร้านเบเกอรี่แห่งนี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานอย่างจริงจัง เนื่องจากลูกค้าส่วนมากเป็นคนสูงวัย ซึ่งมีความเปราะบาง จึงเป็นความรับผิดชอบของทางร้านที่จะต้องดูแลความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน เช่นเดียวกับร้านอาหารอื่น ๆ โดยในช่วงที่มีการระบาด ทางร้านขอให้ลูกค้าจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเท่านั้น เพราะธนบัตรกับเหรียญนั้นไม่สะอาด อาจทำให้พนักงานที่ต้องดูแลเงินเกิดความเสี่ยงไปด้วย
เลสลีย์ เบิร์ด ย้ำว่า การกระทำของเมแกนขัดต่อทั้งนโยบายบริษัท และแนวปฏิบัติในการรับมือการระบาดของโควิด 19 แต่ดูเหมือนว่าเมแกนจะยอมรับคำตัดสินนี้ไม่ได้ง่าย ๆ โดยเธอยังอธิบายว่า เธอเพียงแค่พยายามทำในสิ่งที่ถูกเท่านั้น
ทั้งนี พบว่ามีชาวเน็ตบางกลุ่มที่ทราบเรื่อง ได้ออกมาร่วมกันสร้างแบบส่งคำร้องทางโลกออนไลน์ เพื่อขอให้มีการรับตัวเมแกนกลับไปทำงานอีกครั้ง โดยมีคนมาร่วมลงชื่อกันกว่า 3 พันครั้งแล้ว ในระยะเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลจาก Unilad
