โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ยกมือไหว้ยอมรับผิด หลังสลับศพทารกไปเผา ทั้งที่ครอบครัวตั้งใจส่งผ่าชันสูตร ยันไม่มีเจตนา สั่งสอบเจ้าหน้าที่ดูแลศพ ชี้โทษสูงสุดคือไล่ออก
จากกรณีที่ นางสาวกฤษณา ขวัญศรี อายุ 23 ปี เผยเรื่องราวใจสลาย หลังไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท ซึ่งเธอสามารถเบ่งคลอดได้ แต่แพทย์ไม่ให้คลอด เพราะปากมดลูกเปิดเพียง 2 เซนติเมตร กระทั่งลูกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่รู้สึกติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงจะทำเรื่องส่งผ่าพิสูจน์ และยืนยันว่าจะไม่เผาศพลูกจนกว่าจะรู้สาเหตุ หากพบว่าเกิดจากความประมาทจะดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ทว่าเมื่อไปขอรับศพลูก กลับได้รับแจ้งว่าเกิดความผิดพลาดนำศพไปเผาแล้ว
อ่านข่าว : แม่ใจสลาย ลูกชายตายตอนคลอดปริศนา ช็อกซ้ำ รพ. สลับศพเอาไปเผา ทั้งที่บอกห้ามเผา
วันที่ 3 สิงหาคม 2563 ข่าวช่องวัน รายงานว่า แพทย์หญิงณัฐภร ประกอบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร พร้อมด้วย นายแพทย์พิริยะ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร, นายแพทย์ถาวร สายสวรรค์ รองผู้อำนวยการด้านการบริการปฐมภูมิ, นายแพทย์ทนงศักดิ์ หอมทรัพย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ และนายแพทย์ประพนธ์ สุนทรีกุลพงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสูตินรีเวชกรรม ออกมายกมือไหว้ขอโทษ พร้อมยอมรับผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดย แพทย์หญิงณัฐภร กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจและขอโทษกับครอบครัวคุณกฤษณา ขอน้อมรับข้อผิดพลาดที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ ซึ่งไม่มีเจตนาให้เกิดขึ้น โดยทีมผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้พูดคุยชี้แจงข้อเท็จจริงกับคุณกฤษณา และสามี ได้แสดงความเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว รวมถึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขปรับปรุงการทำงานป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ และจะนำมาเป็นบทเรียน
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ขณะที่คุณกฤษณาเจ็บครรภ์ เวลาประมาณ 07.50 น. และคลอดในเวลา 11.49 น. พบว่าทารกเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอด ทีมแพทย์ช่วยกู้ชีพอย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตอย่างกะทันหันและไม่คาดคิด ทางโรงพยาบาลได้ส่งตรวจชันสูตรพลิกศพ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงแล้วที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ในวันเดียวกัน และรับกลับมาไว้ที่ห้องรักษาศพของโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม โดยจะทราบผลใน 1-2 สัปดาห์
และในวันที่ 28 กรกฎาคม มีบุตรของผู้ปกครองอีก 1 ราย เสียชีวิต ทางโรงพยาบาลจึงให้ความสะดวกในการฌาปนกิจ ซึ่งได้นัดให้มารับศพในวันที่ 1 สิงหาคม เวลา 10.30 น. แล้วในวันเดียวกัน ตำรวจได้ส่งหนังสือที่โรงพยาบาลเวลาประมาณ 11.30 น. เพื่อขอรับศพบุตรคุณกฤษณาไปชันสูตรซ้ำที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้มารับศพในเวลาประมาณ 15.00 น. เมื่อโรงพยาบาลตรวจสอบจึงพบว่ามีการส่งมอบศพทารกผิด
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าผลน่าจะออกมาเร็ว ๆ นี้ หากพบว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นจากส่วนใดก็จะดำเนินการลงโทษตามวินัย โดยหนักสุดถึงขั้นไล่ออก เบื้องต้นจากการตรวจสอบอาจจะมีความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เวรที่ดูแลศพ เพราะในขณะที่มีการรับศพได้มีการเปลี่ยนเวร แต่ทุกศพจะมีการแยกห้องเย็นกัน และจะมีรายชื่อติดอยู่ ดังนั้น จึงต้องสอบเรื่องนี้ให้ละเอียดอีกครั้ง และทางโรงพยาบาลพร้อมที่จะเยียวยาครอบครัวคุณกฤษณาตามกฎหมาย
ขณะที่ นายแพทย์ประพนธ์ ระบุว่า ตั้งแต่คุณกฤษณามาคลอด ทางโรงพยาบาลได้ดูแลเป็นอย่างดี และกำหนดให้คลอดตามธรรมชาติ ไม่ได้มีเจตนาอะไร แต่เมื่อเด็กเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ทางโรงพยาบาลที่เป็นผู้ยืนยันที่จะให้ไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุของการตาย เพราะฉะนั้นการสลับศพเด็กจึงไม่ใช่เพื่อนำไปทำลายหลักฐาน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีที่ นางสาวกฤษณา ขวัญศรี อายุ 23 ปี เผยเรื่องราวใจสลาย หลังไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท ซึ่งเธอสามารถเบ่งคลอดได้ แต่แพทย์ไม่ให้คลอด เพราะปากมดลูกเปิดเพียง 2 เซนติเมตร กระทั่งลูกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่รู้สึกติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงจะทำเรื่องส่งผ่าพิสูจน์ และยืนยันว่าจะไม่เผาศพลูกจนกว่าจะรู้สาเหตุ หากพบว่าเกิดจากความประมาทจะดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ทว่าเมื่อไปขอรับศพลูก กลับได้รับแจ้งว่าเกิดความผิดพลาดนำศพไปเผาแล้ว
อ่านข่าว : แม่ใจสลาย ลูกชายตายตอนคลอดปริศนา ช็อกซ้ำ รพ. สลับศพเอาไปเผา ทั้งที่บอกห้ามเผา
วันที่ 3 สิงหาคม 2563 ข่าวช่องวัน รายงานว่า แพทย์หญิงณัฐภร ประกอบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร พร้อมด้วย นายแพทย์พิริยะ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร, นายแพทย์ถาวร สายสวรรค์ รองผู้อำนวยการด้านการบริการปฐมภูมิ, นายแพทย์ทนงศักดิ์ หอมทรัพย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ และนายแพทย์ประพนธ์ สุนทรีกุลพงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสูตินรีเวชกรรม ออกมายกมือไหว้ขอโทษ พร้อมยอมรับผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดย แพทย์หญิงณัฐภร กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจและขอโทษกับครอบครัวคุณกฤษณา ขอน้อมรับข้อผิดพลาดที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ ซึ่งไม่มีเจตนาให้เกิดขึ้น โดยทีมผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้พูดคุยชี้แจงข้อเท็จจริงกับคุณกฤษณา และสามี ได้แสดงความเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว รวมถึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขปรับปรุงการทำงานป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ และจะนำมาเป็นบทเรียน
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ขณะที่คุณกฤษณาเจ็บครรภ์ เวลาประมาณ 07.50 น. และคลอดในเวลา 11.49 น. พบว่าทารกเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอด ทีมแพทย์ช่วยกู้ชีพอย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตอย่างกะทันหันและไม่คาดคิด ทางโรงพยาบาลได้ส่งตรวจชันสูตรพลิกศพ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงแล้วที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ในวันเดียวกัน และรับกลับมาไว้ที่ห้องรักษาศพของโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม โดยจะทราบผลใน 1-2 สัปดาห์
และในวันที่ 28 กรกฎาคม มีบุตรของผู้ปกครองอีก 1 ราย เสียชีวิต ทางโรงพยาบาลจึงให้ความสะดวกในการฌาปนกิจ ซึ่งได้นัดให้มารับศพในวันที่ 1 สิงหาคม เวลา 10.30 น. แล้วในวันเดียวกัน ตำรวจได้ส่งหนังสือที่โรงพยาบาลเวลาประมาณ 11.30 น. เพื่อขอรับศพบุตรคุณกฤษณาไปชันสูตรซ้ำที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้มารับศพในเวลาประมาณ 15.00 น. เมื่อโรงพยาบาลตรวจสอบจึงพบว่ามีการส่งมอบศพทารกผิด
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าผลน่าจะออกมาเร็ว ๆ นี้ หากพบว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นจากส่วนใดก็จะดำเนินการลงโทษตามวินัย โดยหนักสุดถึงขั้นไล่ออก เบื้องต้นจากการตรวจสอบอาจจะมีความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เวรที่ดูแลศพ เพราะในขณะที่มีการรับศพได้มีการเปลี่ยนเวร แต่ทุกศพจะมีการแยกห้องเย็นกัน และจะมีรายชื่อติดอยู่ ดังนั้น จึงต้องสอบเรื่องนี้ให้ละเอียดอีกครั้ง และทางโรงพยาบาลพร้อมที่จะเยียวยาครอบครัวคุณกฤษณาตามกฎหมาย
ขณะที่ นายแพทย์ประพนธ์ ระบุว่า ตั้งแต่คุณกฤษณามาคลอด ทางโรงพยาบาลได้ดูแลเป็นอย่างดี และกำหนดให้คลอดตามธรรมชาติ ไม่ได้มีเจตนาอะไร แต่เมื่อเด็กเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ทางโรงพยาบาลที่เป็นผู้ยืนยันที่จะให้ไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุของการตาย เพราะฉะนั้นการสลับศพเด็กจึงไม่ใช่เพื่อนำไปทำลายหลักฐาน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
