แพทย์ยังอึ้ง ทำคลอดเจ้าหนูอัศจรรย์ เกิดมาพร้อมสายสะดือพันรอบคอ 6 รอบ ชี้เป็นการคลอดแบบธรรมชาติ โชคดีที่หนูน้อยปลอดภัย แข็งแรงดี ใกล้จะได้กลับบ้านแล้ว
วันที่ 5 สิงหาคม 2563 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า โรงพยาบาลกลางอี้ชาง ในมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน เปิดเผยถึงเรื่องราวการทำคลอดทารกชาย ซึ่งทีมแพทย์เรียกขานกันว่าเป็น ทารกน้อยอัศจรรย์ หลังจากที่เขาเกิดมาพร้อมกันมีสายสะดือพันอยู่รอบคอถึง 6 รอบ แต่แพทย์ก็ได้ช่วยทำคลอดเขาออกมาได้อย่างปลอดภัย และมีสุขภาพแข็งแรงดี
รายงานเผยว่า แม่ของเด็กได้คลอดด้วยวิธีการธรรมชาติ ในวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และเธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้ทราบถึงสภาพของลูก ขณะที่ทีมแพทย์ต่างก็เข้ามารุมดูเด็กน้อยและพยายามนับกันว่า มีสายสะดือพันอยู่รอบคอของเด็กกี่รอบกันแน่
จากภาพที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อ จะเห็นได้ว่าบริเวณรอบคอของทารกมีสายสะดือพันอยู่วนหลายรอบ ตั้งแต่ด้านบนจนถึงด้านล่างของลำคอ โดยทางสูติแพทย์เผยว่า สายสะดือของเด็กคนนี้มีความยาวถึง 90 เซนติเมตร ถือว่ายาวกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปถึง 40 เซนติเมตร
แม้ว่าเด็ก 1 ใน 3 อาจจะคลอดออกมาในสภาพที่มีสายสะดือพันรอบคอ แต่ใช่ว่าจะได้เห็นทารกรายใดมีสายสะดือพันอยู่ถึง 6 รอบเช่นนี้ง่าย ๆ โดยสูติแพทย์รายหนึ่ง ยอมรับกับนักข่าวด้วยว่า เขาทำงานมา 23 ปี ก็เพิ่งจะเจออะไรแบบนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน
ทางด้าน ดร.ลี่ฮวา สูติแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลดังกล่าว ยอมรับว่าเป็นโชคดีที่สายสะดือของเด็กยาวมาก มิเช่นนั้นเขาคงเสี่ยงที่จะถูกสายสะดือรัดคอระหว่างการคลอด นอกจากนี้แรงบีบรัดใด ๆ ที่สายสะดือ อาจจะทำให้เกิดความดันในเด็กซึ่งจะนำมาสู่ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้
อนึ่ง แพทย์พบว่าเด็กทารกถูกสายสะดือพันรอบคอตั้งแต่ช่วง 2 สัปดาห์ก่อนคลอด แต่ตอนนั้นมันพันอยู่แค่รอบเดียวเท่านั้น กระทั่งสัปดาห์ต่อมา สายสะดือก็ได้อยู่ในลักษณะม้วนเป็นวงรอบคอเด็กอีก แต่ ดร.ลี่ฮวา ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะเขามองว่าทั้งแม่และเด็กต่างก็แข็งแรงดี
จนกระทั่งถึงวันคลอดในวันที่ 30 กรกฎาคม ทีมแพทย์ได้ทำสแกนดูสภาพเด็กในครรภ์ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าสายสะดือพันรอบคอเด็กเพิ่ม แต่เนื่องจากสัญญาณชีพของแม่และเด็กยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงตัดสินใจปล่อยให้มีการทำคลอดแบบธรรมชาติต่อ
ทั้งนี้ แม้เจ้าหนูจะมีสายสะดือพันรอบคอเช่นนั้น แต่ก็คลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย แพทย์วัดน้ำหนักแรกเกิดได้ 3 กิโลกรัม ขณะนี้แม่และเด็กต่างก็ปลอดภัย ร่างกายแข็งแรงพอจะกลับบ้านได้แล้ว ขณะที่ทางแม่เด็ก ยอมรับว่าเธอรู้สึกโชคดีสุด ๆ ที่ลูกน้อยไม่มีปัญหาอะไร และเธอยังไม่วายแซวด้วยว่าลูกชายของเธอนั้น ซุกซนเอาเรื่องตั้งแต่อยู่ในท้องทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail
ภาพจาก weibo