กองบังคับการปราบปราม จับกุมผัวเมียเครือข่ายแชร์แม่มณี หลังก่อเหตุชักชวนคนร่วมเล่นแชร์ โดยอาศัยกินเงินส่วนต่าง สุดท้ายเจ๊งหลังแม่มณีถูกจับ พบมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
วันที่ 6 สิงหาคม 2563 มีรายงานว่า กองบังคับการปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการ 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุมตัว นายศุภชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี และนางสาวสุวรรณา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2562 ทั้งคู่ซึ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เมื่องวดวันที่ 16 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ได้นำเงินจำนวน 6 ล้านบาท ไปลงทุนแชร์กับแม่มณี โดยมีการชักชวนกลุ่มเพื่อนมาร่วมลงทุนด้วย แต่เป็นการลงทุนผ่านตัวเอง เพื่อหวังเงินส่วนต่าง โดยมีผู้หลงเชื่อร่วมลงทุนด้วยร่วม 200 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้เสียหายที่ร่วมลงทุน แต่กลับไม่ได้ผลตอบแทน
เมื่อพยายามทวงถามแต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง
บอกว่าให้รอทางเครือข่ายโอนเงินมาให้ จนมีข่าวจับกุมแม่มณี
ทั้งหมดจึงรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ สภ.ทุ่งเบญจา
และมีการอนุมัติหมายจับแล้ว
จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (5 สิงหาคม) ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป. ได้สืบทราบว่าทั้งคู่หลบหนีมาพักที่ อ.เมืองนครปฐม จึงได้เข้าทำการจับกุมตัวดังกล่าว ซึ่งทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้หลอกลวงเอาเงินผู้เสียหาย แต่ยอมรับว่านำเงินไปลงทุนต่ออีกทอดหนึ่งจริง เมื่อเท้าแชร์ถูกจับดำเนินคดีเงินทั้งหมด ก็ถูกยึดไป ทั้งคู่ก็เดือดร้อนเหมือนกัน และตอนนี้อยู่ระหว่างฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากทรัพย์สินที่ยึดมาจากเท้าแชร์อยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก กองบังคับการปราบปราม, เฟซบุ๊ก หนังสือพิมพ์ เฟส ไลน์ นิวส์
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2562 ทั้งคู่ซึ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เมื่องวดวันที่ 16 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ได้นำเงินจำนวน 6 ล้านบาท ไปลงทุนแชร์กับแม่มณี โดยมีการชักชวนกลุ่มเพื่อนมาร่วมลงทุนด้วย แต่เป็นการลงทุนผ่านตัวเอง เพื่อหวังเงินส่วนต่าง โดยมีผู้หลงเชื่อร่วมลงทุนด้วยร่วม 200 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (5 สิงหาคม) ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป. ได้สืบทราบว่าทั้งคู่หลบหนีมาพักที่ อ.เมืองนครปฐม จึงได้เข้าทำการจับกุมตัวดังกล่าว ซึ่งทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้หลอกลวงเอาเงินผู้เสียหาย แต่ยอมรับว่านำเงินไปลงทุนต่ออีกทอดหนึ่งจริง เมื่อเท้าแชร์ถูกจับดำเนินคดีเงินทั้งหมด ก็ถูกยึดไป ทั้งคู่ก็เดือดร้อนเหมือนกัน และตอนนี้อยู่ระหว่างฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากทรัพย์สินที่ยึดมาจากเท้าแชร์อยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก กองบังคับการปราบปราม, เฟซบุ๊ก หนังสือพิมพ์ เฟส ไลน์ นิวส์