เจ้าอาวาสวัดโคศุภราช อ่างทอง ยอมออกจากกรงสุนัข หลังประชดขังตัวเองอยู่ในกรง เพราะถูกร้องเรียนเปิดธรรมะเสียงดัง จนเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง ต้องส่งหนังสือสั่งให้ออกจากกรง หากยังดื้อโดนโทษขั้นเด็ดขาด
จากกรณีพระครูปลัดวิชาญ คมภีรปญโญ เจ้าอาวาสวัดโคศุภราช หมู่ที่ 3 ต.คลองวัว อ.เมืองอ่างทอง ได้ขังตัวเองไว้ในกรงสุนัข ที่ตั้งอยู่บริเวณข้างโบสถ์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังถูกกลั่นแกล้งโดนร้องเรียนถึง 4 วาระ ในเรื่องเปิดเครื่องขยายเสียง ส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้วัด
โดยถูกคาดโทษละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ ซึ่งจะมีการตำหนิโทษ 3 ปี หากภายในระยะเวลา 3 ปี มีอธิกรณ์เกิดขึ้น จะต้องโทษปลดจากเจ้าอาวาส ทำให้พระครูปลัดวิชาญ ตัดสินใจกินและนอนใช้ชีวิตอยู่ภายในกรงสุนัข แต่จะออกมาปฏิบัติกิจของสงฆ์ ในการออกรับบิณฑบาตในตอนเช้า จะทำไปจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม นั้น
ล่าสุด (14 สิงหาคม 2563) เที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า พระครูสุทธิกิจจาทร เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง เผยว่า ตอนนี้ทางเจ้าคณะทราบเรื่องแล้ว พร้อมได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะอำเภอให้สั่งการถึงพระครูปลัดวิชาญ ให้เลิกกระทำพฤติกรรมดังกล่าว หากปัญหาใดไม่ได้รับความยุติธรรม ก็ให้ทำหนังสือยื่นตามกฎหมายของสงฆ์ต่อไป หากยังดื้อดึงไม่ยอมออกมา ก็จะลงโทษขั้นเด็ดขาดต่อไป
ขณะที่ เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานความคืบหน้าว่า ล่าสุด ทางพระครูปลัดวิชาญ ยอมออกจากกรงสุนัขแล้ว และยืนยันว่าจะไม่เข้าไปอยู่ในกรงสุนัขอีกแล้ว หลังได้รับหนังสือจากเจ้าคณะตำบลมหาดไทย เกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมดังกล่าว
โดยทาง พระครูปลัดวิชาญ เผยว่า เรื่องร้องเรียนดังกล่าว เชื่อว่ามาจากกลุ่มคนที่ไม่ได้รักวัด รักศาสนา จึงมีความคิดเห็นต่างออกไป ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อย เพราะกลุ่มคนส่วนใหญ่เกือบ 500 คน ได้ส่งหนังสือมาที่วัด สนับสนุนให้เปิดธรรมะต่อไป
ส่วนเรื่องที่มองว่า กลุ่มคนที่ร้องเรียนมาจากปัญหาขัดแย้งภายในวัดนั้น ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่ เพราะภายในวัดไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร ตลอดที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดแห่งนี้ ได้สร้างคุณประโยชน์พัฒนาวัดมาโดยตลอด สร้างรายได้มอบอาชีพให้กับชาวบ้าน นำมาซึ่งความสมานสามัคคีในชุมชนและในวัดแห่งนี้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์, เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีพระครูปลัดวิชาญ คมภีรปญโญ เจ้าอาวาสวัดโคศุภราช หมู่ที่ 3 ต.คลองวัว อ.เมืองอ่างทอง ได้ขังตัวเองไว้ในกรงสุนัข ที่ตั้งอยู่บริเวณข้างโบสถ์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังถูกกลั่นแกล้งโดนร้องเรียนถึง 4 วาระ ในเรื่องเปิดเครื่องขยายเสียง ส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้วัด
โดยถูกคาดโทษละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ ซึ่งจะมีการตำหนิโทษ 3 ปี หากภายในระยะเวลา 3 ปี มีอธิกรณ์เกิดขึ้น จะต้องโทษปลดจากเจ้าอาวาส ทำให้พระครูปลัดวิชาญ ตัดสินใจกินและนอนใช้ชีวิตอยู่ภายในกรงสุนัข แต่จะออกมาปฏิบัติกิจของสงฆ์ ในการออกรับบิณฑบาตในตอนเช้า จะทำไปจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม นั้น
ล่าสุด (14 สิงหาคม 2563) เที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า พระครูสุทธิกิจจาทร เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง เผยว่า ตอนนี้ทางเจ้าคณะทราบเรื่องแล้ว พร้อมได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะอำเภอให้สั่งการถึงพระครูปลัดวิชาญ ให้เลิกกระทำพฤติกรรมดังกล่าว หากปัญหาใดไม่ได้รับความยุติธรรม ก็ให้ทำหนังสือยื่นตามกฎหมายของสงฆ์ต่อไป หากยังดื้อดึงไม่ยอมออกมา ก็จะลงโทษขั้นเด็ดขาดต่อไป
ขณะที่ เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานความคืบหน้าว่า ล่าสุด ทางพระครูปลัดวิชาญ ยอมออกจากกรงสุนัขแล้ว และยืนยันว่าจะไม่เข้าไปอยู่ในกรงสุนัขอีกแล้ว หลังได้รับหนังสือจากเจ้าคณะตำบลมหาดไทย เกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมดังกล่าว
โดยทาง พระครูปลัดวิชาญ เผยว่า เรื่องร้องเรียนดังกล่าว เชื่อว่ามาจากกลุ่มคนที่ไม่ได้รักวัด รักศาสนา จึงมีความคิดเห็นต่างออกไป ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อย เพราะกลุ่มคนส่วนใหญ่เกือบ 500 คน ได้ส่งหนังสือมาที่วัด สนับสนุนให้เปิดธรรมะต่อไป
ส่วนเรื่องที่มองว่า กลุ่มคนที่ร้องเรียนมาจากปัญหาขัดแย้งภายในวัดนั้น ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่ เพราะภายในวัดไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร ตลอดที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดแห่งนี้ ได้สร้างคุณประโยชน์พัฒนาวัดมาโดยตลอด สร้างรายได้มอบอาชีพให้กับชาวบ้าน นำมาซึ่งความสมานสามัคคีในชุมชนและในวัดแห่งนี้ด้วย
