ร้านทองดัง พัทยา โดนแก๊งมิจฉาชีพ ตุ๋นจนเปื่อย นำทองปลอมชุบเงิน เวียนกันมาจำนำ ทองลายเดิม น้ำหนักเดิม แถมคนเดิม ๆ กว่าจะรู้ตัวได้ทองปลอมกว่า 376 บาท เสียหายกว่า 9 ล้าน ล่าสุดจับได้แล้ว 1 คน
วันที่ 17 สิงหาคม 2563 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายกฤษ เทียนใหม่ และนางอนัดดา สองสามีภรรยาเจ้าของห้างทองนิตเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นำทองปลอมน้ำหนักรวมกว่า 376 บาท พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความ สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง ระบุว่า ช่วงที่ราคาทองขึ้นได้มีกลุ่มมิจฉาชีพนำทองปลอมชุบเงินแบบหนา สลับเปลี่ยนกันมาจำนำ เป็นเวลารวม 1 เดือนกว่า เสียหายเป็นเงินกว่า 9 ล้านบาท
เจ้าของร้านทอง เผยว่า มีลูกค้าเอาทองเข้ามาจำนำที่ร้าน ซึ่งเป็นทองชุบไส้เงิน แต่ส่วนตะขอสร้อยทองเป็นทองจริง โดยทำเป็นขบวนการจำนวน 12 คน ทำต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 5 สัปดาห์
โดยพฤติกรรมจะเข้ามาชวนคุย อ้างว่าทำงานรับเหมาก่อสร้าง ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าแรงคนงานก่อน ซึ่งปกติการจำนำทอง ทางร้านไม่สามารถทำการกรีดทองลูกค้าเพื่อดูเนื้อข้างในได้ ตอนแรกเป็นลุงแก่ ๆ เดินเข้ามาจำนำทองเส้นละ 4 บาท บาทละ 24,000 บาท พอจำนำได้ก็จะมีอีกคนเดินเข้ามาจำนำต่อ ๆ กัน มีทั้งคนไทยและคนลาว แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน ซึ่งทุกคนจะมียอดจำนวนตั้งแต่ 72,000 บาท 96,000 บาท และ 120,000 บาท เป็นยอดเดิม ๆ ลายเดิม ๆ น้ำหนักทองเท่าเดิม แบบนี้ตลอด
กระทั่งตนเริ่มจับสังเกตได้วันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบทองเป็นลายเดิม น้ำหนักเดิม และยังเป็นกลุ่มลูกค้าหน้าเดิม ๆ วนเวียนนำทองมาจำนำ จึงได้นำทองออกมากรีดจำนวน 1 เส้น คิดว่าถ้าเป็นทองจริงตนจะยอมชดใช้ให้ แต่พอกรีดออกมากลายเป็นทองหลอมทั้งหมด จึงเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มนี้ทำเป็นขบวนการอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว ก่อนที่มิจฉาชีพกลุ่มนี้จะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับร้านทองอื่น ๆ อีก
ล่าสุด เฟซบุ๊ก เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง3 รายงานความคืบหน้าว่า ตำรวจสามารถจับกุม นายสัน ชายสัญชาติลาว อายุ 43 ปี พร้อมของกลาง สร้อยทองคำปลอมหนัก 2 บาท 1 เส้น ในร้านที่เกิดเหตุ หลังทางร้านเชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการเดียวกัน
นายสัน สารภาพว่า หลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำทองปลอมมาจำนำที่ร้านนี้ 3 ครั้ง โดยมีเพื่อนร่วมขบวนการ 3-4 คน ขับรถยนต์มาจาก กทม. แล้วจอดรถริมถนนให้ตนนำทองปลอมมาจำนำ
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, เฟซบุ๊ก เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง3
วันที่ 17 สิงหาคม 2563 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายกฤษ เทียนใหม่ และนางอนัดดา สองสามีภรรยาเจ้าของห้างทองนิตเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นำทองปลอมน้ำหนักรวมกว่า 376 บาท พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความ สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง ระบุว่า ช่วงที่ราคาทองขึ้นได้มีกลุ่มมิจฉาชีพนำทองปลอมชุบเงินแบบหนา สลับเปลี่ยนกันมาจำนำ เป็นเวลารวม 1 เดือนกว่า เสียหายเป็นเงินกว่า 9 ล้านบาท
เจ้าของร้านทอง เผยว่า มีลูกค้าเอาทองเข้ามาจำนำที่ร้าน ซึ่งเป็นทองชุบไส้เงิน แต่ส่วนตะขอสร้อยทองเป็นทองจริง โดยทำเป็นขบวนการจำนวน 12 คน ทำต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 5 สัปดาห์
โดยพฤติกรรมจะเข้ามาชวนคุย อ้างว่าทำงานรับเหมาก่อสร้าง ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าแรงคนงานก่อน ซึ่งปกติการจำนำทอง ทางร้านไม่สามารถทำการกรีดทองลูกค้าเพื่อดูเนื้อข้างในได้ ตอนแรกเป็นลุงแก่ ๆ เดินเข้ามาจำนำทองเส้นละ 4 บาท บาทละ 24,000 บาท พอจำนำได้ก็จะมีอีกคนเดินเข้ามาจำนำต่อ ๆ กัน มีทั้งคนไทยและคนลาว แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน ซึ่งทุกคนจะมียอดจำนวนตั้งแต่ 72,000 บาท 96,000 บาท และ 120,000 บาท เป็นยอดเดิม ๆ ลายเดิม ๆ น้ำหนักทองเท่าเดิม แบบนี้ตลอด
กระทั่งตนเริ่มจับสังเกตได้วันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบทองเป็นลายเดิม น้ำหนักเดิม และยังเป็นกลุ่มลูกค้าหน้าเดิม ๆ วนเวียนนำทองมาจำนำ จึงได้นำทองออกมากรีดจำนวน 1 เส้น คิดว่าถ้าเป็นทองจริงตนจะยอมชดใช้ให้ แต่พอกรีดออกมากลายเป็นทองหลอมทั้งหมด จึงเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มนี้ทำเป็นขบวนการอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว ก่อนที่มิจฉาชีพกลุ่มนี้จะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับร้านทองอื่น ๆ อีก
ล่าสุด เฟซบุ๊ก เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง3 รายงานความคืบหน้าว่า ตำรวจสามารถจับกุม นายสัน ชายสัญชาติลาว อายุ 43 ปี พร้อมของกลาง สร้อยทองคำปลอมหนัก 2 บาท 1 เส้น ในร้านที่เกิดเหตุ หลังทางร้านเชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการเดียวกัน
นายสัน สารภาพว่า หลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำทองปลอมมาจำนำที่ร้านนี้ 3 ครั้ง โดยมีเพื่อนร่วมขบวนการ 3-4 คน ขับรถยนต์มาจาก กทม. แล้วจอดรถริมถนนให้ตนนำทองปลอมมาจำนำ
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, เฟซบุ๊ก เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง3











