เทสโก้ โลตัส ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ลุยแคมเปญ "ราคามหาชน" ลดราคาสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันสูงสุด 50% นานกว่า 3 เดือน รวมถึงอาหารพร้อมรับประทานราคาพิเศษ 25 บาท

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่กินระยะเวลามายาวนาน ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อพี่น้องชาวไทย โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของลูกค้าเทสโก้ โลตัส พบว่า ลูกค้ายังคงมีความกังวลอย่างสูงในด้านรายจ่าย ค่าครองชีพ และความมั่นคงของหน้าที่การงาน อีกทั้งมาตรการเยียวยาและความช่วยเหลือจากทางภาครัฐต่าง ๆ ส่วนมากได้สิ้นสุดลงตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาแล้ว อำนาจการจับจ่ายจึงลดลง การจะซื้อสินค้าสักหนึ่งชิ้นจึงจำเป็นต้องคิดอย่างรอบคอบมากขึ้น


ด้วยเหตุนี้เอง ทางเทสโก้ โลตัส จึงอยากช่วยเหลือคนไทย ลดภาระรายจ่ายให้น้อยลง ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท จัดแคมเปญ “ราคามหาชน” ตัดและตรึงราคาสินค้าครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปี โดยเน้นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในทุกหมวดหมู่และเป็นที่นิยมของลูกค้าที่อิงมาจากผลสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ และข้อมูลของฐานสมาชิกบัตรคลับการ์ดกว่า 15 ล้านคน ซึ่งสินค้าราคามหาชนเหล่านี้จะถูกตัดราคาให้ถูกลง สูงสุดถึง 50% เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำดื่ม เครื่องปรุงอาหาร ผงซักฟอก เป็นต้น รวมถึงอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานและเมนูภายในศูนย์อาหารราคาพิเศษ ลดเหลือเพียง 25 บาท เท่านั้น โดยตรึงระยะนานกว่า 3 เดือน ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 พฤศจิกายน 2563



นางวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ประธานกรรมการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า “เทสโก้ โลตัส ได้ปรับกลยุทธ์และแผนธุรกิจของเราให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของลูกค้า แคมเปญ “ราคามหาชน” ถูกจัดขึ้นเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้าและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ด้วยการลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นสูงสุด 50% รวมถึงตัดราคาอาหารพร้อมรับประทานและเมนูในศูนย์อาหารให้มีราคาเพียง 25 บาท ยกระดับความคุ้มค่า เพื่อความสุข เพื่อความอิ่มท้อง ของมหาชนชาวไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด 19 ไปด้วยกัน”

นางวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ประธานกรรมการฝ่ายการตลาด เทสโก้
สำหรับแคมเปญ “ราคามหาชน” ถือเป็นส่วนหนึ่งในการมอบความสุขให้กับประชาชนคนไทย ในช่วงที่ต้องเผชิญกับวิฤตโควิด 19 ทั้งนี้ สามารถจับจ่ายซื้อของที่คุ้มค่าในราคาที่ถูกลง ได้ที่เทสโก้ โลตัส ทุกสาขากว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงในช่องทางช้อปออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 พฤศจิกายน 2563






