คดีสลด ผัวขอเงินเมีย 63 บาท จบที่ความตาย ฝ่ายเมียมือเปื้อนเลือด จุดจบที่คุก

          เปิดคดีสลดผัวเมีย ผัวขอเงินเมีย 63 บาท จบลงที่ความตาย ฝ่ายเมียกลายเป็นนักโทษติดคุก ความแค้นและความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จากเงินไม่ถึงร้อย


          เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 เว็บไซต์โคโคนัทจาการ์ตา รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซีย จับกุม นางอาร์ (ชื่อย่อ) หญิงวัย 35 ปี ฐานฆาตกรรม หลังจากมีปากเสียงทะเลาะวิวาท ตบตีกับสามี แล้วคว้ามีดแทงสามีจนเสียชีวิต โดยต้นเหตุเป็นเพราะสามีทำร้ายและข่มขู่ขอเงิน

          เหตุการณ์นองเลือดดังกล่าวเกิดขึ้นที่เขตมังบัง ทางตอนใต้ของกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยในวันเกิดเหตุ นายเอช (ชื่อย่อ) วัย 34 ปี สามี ได้เอ่ยปากขอเงินภรรยาจำนวน 30,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 63 บาท ภรรยาเกิดอารมณ์โกรธขึ้นมาทันที และปฏิเสธไม่ยอมให้เงินเขา

          ตำรวจเผยว่า หลังจากไม่ได้เงินตามที่ต้องการ สามีก็คว้ามีดมาขู่ พร้อมกับทุบเข้าที่ศีรษะภรรยา ฝ่ายภรรยาต่อสู้กลับก่อนจะแย่งมีดมาได้ จากนั้นก็แทงสามีเข้าที่อกจนกระทั่งเขาล้มลง หลังจากนั้นก็วิ่งหนีไปยังบ้านพ่อแม่ที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน แต่สามีลุกขึ้นมาได้และไล่ตามไป

          อย่างไรก็ตาม นายเอชเสียเลือดมาก และได้รับการปฐมพยาบาลอยู่ที่บ้าน แต่อาการทรุดหนักลง จนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา พ่อแม่ได้นำศพของเขาไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้แจ้งตำรวจว่ามีเหตุคนถูกแทงเสียชีวิต ตำรวจจึงเดินทางมายังที่เกิดเหตุ

          รายงานระบุว่า ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สถานภาพทางการเงินของครอบครัวก็ถดถอยลงมาก นายเอชทำงานหลายอย่าง รวมทั้งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าลานจอดรถ ส่วนนางอาร์เคยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่มาตกงาน และปัจจุบันไม่มีงานทำ

          ชาวบ้านเล่าว่า สามีภรรยาคู่นี้มักจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องเงินอยู่เสมอ และนายเอชมักจะตบตีภรรยาเป็นประจำ

          หลังจากสอบพยาน 5 ปาก ที่เห็นเหตุการณ์ และตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ อาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งเลือดที่เปรอะเปื้อนเสื้อผ้าของนางอาร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการจับกุมนางอาร์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

          ทั้งนี้ หากพบว่านางอาร์มีความผิดจริง เธออาจได้รับโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี

ขอบคุณข้อมูลจาก
Coconut Jakarta