ไซซะนะ แก้วพิมพา พ่อค้ายาชาวลาวรายใหญ่ ถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิต
แต่ให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุกตลอดชีวิต หลังโดนจับจากคดีอื้อฉาว
นำเข้ายาบ้านับล้านเม็ด
- นายไซซะนะ แก้วพิมพา อายุ 42 ปี (XAY SANA KEOPIMPHA) สัญชาติลาว,
- นายชุมพร พนมไพร อายุ 45 ปี
- กิมเล้ง นายรัชพล รัฐสพลพกรณ์ อายุ 33 ปี
เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน ร่วมกันสมคบกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและมียาบ้า ซึ่งเป็นเมทแอมเฟตามีน ยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา
โดยศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2561 ให้ประหารชีวิต นายไซซะนะและนายชุมพร แต่คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายรัชพล พิพากษายกฟ้อง
สืบเนื่องจาก ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม - 16 กันยายน 2558 จำเลยที่ 1-2 กับพวกอีกหลายคน ที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง สมคบกันกับพวกที่อยู่ใน สปป.ลาว จัดหายาบ้าและเงิน เพื่อใช้ลักลอบขนส่งยาเสพติดจำนวน 2,381,400 เม็ด ไปส่งให้กับเครือข่ายทางภาคใต้ของไทยและมาเลเซีย และระหว่างวันที่ 17- 22 สิงหาคม 2559 ทั้ง 3 คน ยังร่วมกันลักลอบส่งยาบ้าอีก 1 ล้านเม็ด ให้เครือข่ายทางภาคใต้ โดยติดต่อกับ นายไซนุเด็ง มะ ที่ประเทศมาเลเซีย และรับโอนเงินค่ายาเสพติดจากนายไซนุเด็งหลายครั้งรวม จำนวน 144 ล้านบาท ไปส่งมอบให้เพื่อนของจำเลยที่ 1 ที่ สปป.ลาว
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวน ปรึกษากันแล้วพิพากษาแก้ว่า นายไซซะนะ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานสมคบกันค้ายาเสพติดเพิ่มอีก 1 ฐานความผิดด้วยแต่ยังคงโทษประหารชีวิต คำให้การจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์อยู่บ้างในชั้นสอบสวนลดโทษให้ 1ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต
ส่วนจำเลยที่ 2 ยังจำคุกตลอดชีวิตตามศาลชั้นต้น ขณะที่จำเลยที่ 3 พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่เพียงพอที่จะพิพากษาลงโทษได้ ให้ยกฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
สำหรับ นายไซซะนะ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาคดี อย.1642/2560 ให้ประหารชีวิต นายไซซะนะ ฐานนำเข้ายาบ้า จำนวน 1.2 ล้านเม็ด เข้ามาในราชอาณาจักรไทยเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตอีกคดีด้วย
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
โดยศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2561 ให้ประหารชีวิต นายไซซะนะและนายชุมพร แต่คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายรัชพล พิพากษายกฟ้อง
สืบเนื่องจาก ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม - 16 กันยายน 2558 จำเลยที่ 1-2 กับพวกอีกหลายคน ที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง สมคบกันกับพวกที่อยู่ใน สปป.ลาว จัดหายาบ้าและเงิน เพื่อใช้ลักลอบขนส่งยาเสพติดจำนวน 2,381,400 เม็ด ไปส่งให้กับเครือข่ายทางภาคใต้ของไทยและมาเลเซีย และระหว่างวันที่ 17- 22 สิงหาคม 2559 ทั้ง 3 คน ยังร่วมกันลักลอบส่งยาบ้าอีก 1 ล้านเม็ด ให้เครือข่ายทางภาคใต้ โดยติดต่อกับ นายไซนุเด็ง มะ ที่ประเทศมาเลเซีย และรับโอนเงินค่ายาเสพติดจากนายไซนุเด็งหลายครั้งรวม จำนวน 144 ล้านบาท ไปส่งมอบให้เพื่อนของจำเลยที่ 1 ที่ สปป.ลาว
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวน ปรึกษากันแล้วพิพากษาแก้ว่า นายไซซะนะ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานสมคบกันค้ายาเสพติดเพิ่มอีก 1 ฐานความผิดด้วยแต่ยังคงโทษประหารชีวิต คำให้การจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์อยู่บ้างในชั้นสอบสวนลดโทษให้ 1ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต
ส่วนจำเลยที่ 2 ยังจำคุกตลอดชีวิตตามศาลชั้นต้น ขณะที่จำเลยที่ 3 พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่เพียงพอที่จะพิพากษาลงโทษได้ ให้ยกฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
สำหรับ นายไซซะนะ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาคดี อย.1642/2560 ให้ประหารชีวิต นายไซซะนะ ฐานนำเข้ายาบ้า จำนวน 1.2 ล้านเม็ด เข้ามาในราชอาณาจักรไทยเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตอีกคดีด้วย
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN