แม่น้ำยมทะลักท่วมสุโขทัย หลังพนังกั้นน้ำขาด 200 ครัวเรือนจมบาดาล เร่งระบายน้ำ

          แม่น้ำยมสูงต่อเนื่อง กัดเซาะพนังกั้นน้ำที่กำลังก่อสร้างขาด น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน - เสาไฟฟ้าล้ม พื้นที่การเกษตร เสียหายกว่า 1,500 ไร่ ด้านพิษณุโลกแจ้งเตือนพื้นที่ต่ำ เตรียมรับมือน้ำหลาก




          จากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำยม ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

          ล่าสุด (23 สิงหาคม 2563) พื้นที่ ม.1 และ ม.7 ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย จุดที่กำลังมีการก่อสร้างพนังกั้นน้ำยมแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ความเร็วและแรงของน้ำกัดเซาะผิวดินทำให้พนังกั้นน้ำขาด ระยะทาง 200 เมตร ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของประชาชนได้รับความเสียหาย เบื้องต้น 200 หลังเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 400 คน เสาไฟฟ้าล้ม 20 ต้น ส่วนพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเบื้องต้นเสียหาย 1,500 ไร่


          ทั้งนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย วัดได้ 7.03 เมตร โดยจุดนี้สามารถรับน้ำได้สูงสุดที่ 7.40 เมตร ซึ่งยังคงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และมีสถานที่ราชการอยู่เป็นจำนวนมาก โดยทางจังหวัดได้บริหารจัดการน้ำในแม่น้ำยม บริเวณเหนือประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ด้วยการผันน้ำเข้าสู่คลองหกบาทในอัตรา 250 - 350 ลบ.ม. /วินาที พร้อมกับควบคุมปริมาณน้ำผ่านประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ไม่เกิน 650 - 710 ลบ.ม./วินาที เพื่อให้ปริมาณน้ำผ่านตัวเมืองสุโขทัย ไม่เกิน 550 ลบ.ม./วินาที
        
          อย่างไรก็ตาม ข่าวช่องวัน รายงานว่า พื้นที่ในเขต จ.พิษณุโลก ในแม่น้ำยมสายหลัก (ไหลผ่าน อ.บางระกำ) ได้ดำเนินการเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในแม่น้ำยมไม่ให้เกิดผลกระทบ จากภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ได้แก่ ประตูระบายน้ำวังสะตือ, คลองผันน้ำแม่น้ำยม-แม่น้ำน่าน

          ขณะที่โครงการชลประทานพิษณุโลก แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และให้หน่วยงานชลประทานในพื้นที่คอยเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำไว้คอยช่วยเหลือประชาชน
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN, ข่าวช่องวัน