เพจดังเผย หลุยส์ วิตตอง เปิดบริษัทในประเทศไทย เพื่อทำการตามจับคนขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ พบเริ่มทยอยจับกุมแล้วทั้งแบบร้านค้าและขายออนไลน์ เหตุผลที่ช่วงนี้ของก๊อบปี้โดนกวาดเป็นซาก
จากกรณี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 Police News Varieties รายงานว่า พ.ต.อ. พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.1 บก.ปอศ. นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาขายสินค้าแบรนด์เนมปลอม จำนวน 3 แห่ง โดยแห่งแรกเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในพื้นที่ ต.คลองน้ำไหล อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ทำการจับกุมตัว นางสาวสุกัญญา อายุ 33 ปี และนายสิทธิชัย อายุ 36 ปี
แห่งที่ 2 เป็นร้านค้าตั้งอยู่บนถนนเจริญธรรม ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ทำการจับกุมตัว นางสาวจุฑามาศ อายุ 30 ปี และนายไพสิฐ อายุ 29 ปี
แห่งที่ 3 เป็นโกดังและร้านค้าตั้งอยู่ภายในซอยร่องฟอง ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมืองแพร่ ทำการจับกุมตัว นางสาวมยุรา อายุ 34 ปี และนางสาวกมลรัตน์ อายุ 37 ปี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผลการสืบสวนทราบว่า ทั้ง 3 แห่งเปิดร้านขายผ้ามัดย้อม แต่แอบลักลอบซุกซ่อนเก็บสินค้า เพื่อรอจำหน่ายสินค้าประเภทเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และสินค้าอื่น ๆ เลียนแบบยี่ห้อ Gucci, Louis Vuitton, Chanel, Mc Jeans, Nike, Adidas ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2563 กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ ปอศ. และนายจันดี งามอินทร์ ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท หลุยส์ วิตตอง แบรนด์เนมชื่อดัง ได้บุกทลายโกดังสินค้าแบรนด์เนมปลอม ที่ตั้งอยู่ในย่านบางพลี สมุทรปราการ ซึ่งคลังดังกล่าวกลายมาเป็นที่เก็บสินค้าแบรนด์เนมปลอม ทั้ง Hermes, Armani, Chanel, Louis Vuitton มีสินค้ามากมายทั้งแว่นตา กระเป๋า เครื่องประดับ กว่า 45,988 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 130 ล้านบาท ซึ่งสินค้าดังกล่าว ได้มีการขายผ่านออนไลน์ด้วย และจะมีการเรียกเจ้าของแพลตฟอร์มมาสอบสวนว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (26 สิงหาคม 2563) เพจเฟซบุ๊ก ทำไมถึงเจ๊ง ได้มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องที่มีการกวาดล้างของก๊อบปี้แบบมโหฬาร ระบุว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมการลักลอบขายสินค้าเลียนแบบได้จำนวนมากในปัจจุบัน ทั้งที่เป็นข่าว และไม่ได้เป็นข่าว สืบเนื่องจากบริษัท หลุยส์ วิตตอง ประเทศไทย ได้ทำการเปิดที่กิจการที่ไทยแล้ว ซึ่งการเปิดกิจการนั้นไม่ได้เน้นการขาย แต่เน้นเรื่องการตามจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และเบื้องต้นได้ดำเนินการจับกุมแล้วหลายราย
ขอบคุณข้อมูลจาก Police News Varieties, เฟซบุ๊ก ทำไมถึงเจ๊ง
จากกรณี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 Police News Varieties รายงานว่า พ.ต.อ. พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.1 บก.ปอศ. นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาขายสินค้าแบรนด์เนมปลอม จำนวน 3 แห่ง โดยแห่งแรกเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในพื้นที่ ต.คลองน้ำไหล อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ทำการจับกุมตัว นางสาวสุกัญญา อายุ 33 ปี และนายสิทธิชัย อายุ 36 ปี
แห่งที่ 2 เป็นร้านค้าตั้งอยู่บนถนนเจริญธรรม ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ทำการจับกุมตัว นางสาวจุฑามาศ อายุ 30 ปี และนายไพสิฐ อายุ 29 ปี
แห่งที่ 3 เป็นโกดังและร้านค้าตั้งอยู่ภายในซอยร่องฟอง ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมืองแพร่ ทำการจับกุมตัว นางสาวมยุรา อายุ 34 ปี และนางสาวกมลรัตน์ อายุ 37 ปี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผลการสืบสวนทราบว่า ทั้ง 3 แห่งเปิดร้านขายผ้ามัดย้อม แต่แอบลักลอบซุกซ่อนเก็บสินค้า เพื่อรอจำหน่ายสินค้าประเภทเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และสินค้าอื่น ๆ เลียนแบบยี่ห้อ Gucci, Louis Vuitton, Chanel, Mc Jeans, Nike, Adidas ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2563 กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ ปอศ. และนายจันดี งามอินทร์ ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท หลุยส์ วิตตอง แบรนด์เนมชื่อดัง ได้บุกทลายโกดังสินค้าแบรนด์เนมปลอม ที่ตั้งอยู่ในย่านบางพลี สมุทรปราการ ซึ่งคลังดังกล่าวกลายมาเป็นที่เก็บสินค้าแบรนด์เนมปลอม ทั้ง Hermes, Armani, Chanel, Louis Vuitton มีสินค้ามากมายทั้งแว่นตา กระเป๋า เครื่องประดับ กว่า 45,988 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 130 ล้านบาท ซึ่งสินค้าดังกล่าว ได้มีการขายผ่านออนไลน์ด้วย และจะมีการเรียกเจ้าของแพลตฟอร์มมาสอบสวนว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (26 สิงหาคม 2563) เพจเฟซบุ๊ก ทำไมถึงเจ๊ง ได้มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องที่มีการกวาดล้างของก๊อบปี้แบบมโหฬาร ระบุว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมการลักลอบขายสินค้าเลียนแบบได้จำนวนมากในปัจจุบัน ทั้งที่เป็นข่าว และไม่ได้เป็นข่าว สืบเนื่องจากบริษัท หลุยส์ วิตตอง ประเทศไทย ได้ทำการเปิดที่กิจการที่ไทยแล้ว ซึ่งการเปิดกิจการนั้นไม่ได้เน้นการขาย แต่เน้นเรื่องการตามจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และเบื้องต้นได้ดำเนินการจับกุมแล้วหลายราย
ขอบคุณข้อมูลจาก Police News Varieties, เฟซบุ๊ก ทำไมถึงเจ๊ง
