โรงพยาบาลตะลึง หนุ่มโผล่เข้าห้องฉุกเฉิน พร้อมกับงูจงอาง เผยโดนงูกัด แต่งูรัดแน่นไม่ยอมปล่อย เลยรีบมาหาหมอ พร้อมหอบงูมาด้วย
ภาพจาก Kien Thuc
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 เว็บไซต์เอ็นแอลดี รายงานว่า เจ้าหน้าที่
แพทย์และพยาบาลประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศเวียดนาม
ต่างตกตะลึงพรึงเพริดไปตาม ๆ กัน
หลังจากพวกเขาพบคนไข้หนุ่มโผล่พรวดเข้ามาในห้องฉุกเฉิน พร้อมกับงูจงอาง
(King Cobra) ที่รัดอยู่บนแขนของเขา ทั้งคนกับงูต่างปล้ำสู้กัน
จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องรีบเข้ามาแยก
คนไข้ชายคนดังกล่าวทราบชื่อคือ นายที (ชื่อย่อ) โดยในช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ นายทีออกจากบ้านเข้าไปในสวนน้อยหน่า ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านส่วยด๋า อ.ซวงมินห์เจ่า จ.เต็ยนิญ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเวียดนาม
ในระหว่างนั้นเอง นายทีพบเห็นงูจงอางขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจวิ่งไล่ตามจับมัน จนสามารถตะครุบได้ในที่สุด แต่ฝ่ายงูก็สู้กลับและกัดเข้าที่ต้นขาขวาของเขา
นายทีมีสติมากพอที่จะหาเทปมาพันหัวงูเอาไว้ เพื่อไม่ให้แว้งกัดเขาได้อีก และหาผ้ามาพันแผลบริเวณที่โดนกัด ก่อนจะรีบวิ่งออกไปที่ถนน ตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแถวนั้น จนกระทั่งพลเมืองดีคนหนึ่งช่วยพาเขาไปส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทั้งคนทั้งงู
ตอนอยู่ในห้องฉุกเฉิน นายทีปล้ำอยู่กับงูที่รัดแน่นอยู่กับแขนของเขา ไม่สามารถแงะออกได้ เพราะงูตัวใหญ่มาก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถนำงูออกมาได้ในที่สุด โดยพบว่างูจงอางตัวนี้ มีความยาว 2.5 เมตร และมีน้ำหนักตัว 4.5 กิโลกรัม
ส่วนนายทีก็เริ่มแสดงอาการอ่อนแรง เนื่องจากพิษงูออกฤทธิ์ แพทย์จึงตัดสินใจใส่เครื่องช่วยหายใจและนำตัวส่งโรงพยาบาลโช่ส่าย ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใหญ่
เมื่อไปถึง อาการของนายทีก็รุนแรงมากแล้ว แขนขาเป็นอัมพาต รูม่านตาขยาย และสูญเสียการมองเห็น ส่วนงูจงอางตัวดังกล่าว ครอบครัวของนายทีเอาใส่กระสอบกลับบ้านไป
ภาพจาก Kien Thuc
แพทย์ได้รักษาหลายอย่าง ทั้งฉีดเซรุ่ม ให้ยาแก้ปวด ยาระงับประสาท และฟอกเลือด จนกระทั่งนายทีฟื้นคืนสติ สามารถรับรู้ได้ ฟังรู้เรื่อง พ้นขีดอันตรายแล้ว นับว่าเขาอึดเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตาม นายทียังคงอ่อนแรง จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและต้องนอนรักษาตัวในห้องไอซียู ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ต่อไป
ด้าน ไซง่อนเนียร์ รายงานว่า หลังจากเรื่องราวของนายทีปรากฏเป็นข่าว ก็มีผู้ใจบุญทั่วประเทศร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลให้กับเขา โดยยอดบริจาคในขณะนี้ทะลุเกิน 300 ล้านดอง หรือกว่า 407,000 บาท
ภาพจาก Kien Thuc