ลุงพล ป้าแต๋น เปิดใจกรณีฟ้อง อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปมพูดไม่จริงเรื่องหนี้ ปัดรับเงินจบเรื่องขอแค่คำขอโทษ ช้ำคำพูด น้องชมพู่ คงตายฟรี
วันที่ 19 กันยายน 2563 รายการ ถามสุดซอย ได้สัมภาษณ์เปิดใจ ลุงพล และป้าแต๋น เซเลบบ้านกกกอก ซึ่งมีเรื่องฟ้องร้องกับ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมชื่อดัง
อัจฉริยะไลฟ์มีการพูดถึงเรื่องหนี้ คือหนี้อะไร ?
ลุงพล : มันจะมีค่างวดรถซึ่งเป็นของบริษัทไฟแนนซ์ เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. อันนั้นเป็นการใช้หนี้ประจำเดือน ของ ธ.ก.ส. เป็นการพักชำระหนี้ของเกษตรกร
เขาทราบเรื่องหนี้เราได้ยังไง ?
ลุงพล : ไม่ทราบเหมือนกันครับ สิ่งที่ท่านได้พูดออกไปจะมีประโยคแรก ๆ ที่ท่านไลฟ์แล้วบอกว่าวันแรก ๆ ที่น้องชมพู่หาย บริษัทไฟแนนซ์และ ธ.ก.ส. มาทวงหนี้ลุงที่บ้าน มันไม่มีมูลความจริง
ลุงมองว่าเป็นการประจานไหม ?
ลุงพล : ผมมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่น่าเอามาเปิดเผย และไม่มีความจริง
พอคุยกับป้าแต๋น เราจะทำยังไงเรียกความรู้สึกตรงนี้กลับมา เพราะที่ผ่านมา
3-4 เดือนเราก็รู้สึกแย่อยู่แล้ว กับเรื่องที่เราเจอกันในบ้านกกกอก
ตอนนี้ลุงพลอยากให้อัจฉริยะออกมาขอโทษ โดยไลฟ์ผ่านเพจเขาหรือเปล่า ?
ลุงพล : ทางครอบครัวอยากให้ท่านออกมารับผิดชอบคำพูดที่ท่านไลฟ์ผ่านช่องทางที่ท่านได้ไลฟ์ไป ซึ่งผมกับป้าแต๋นอยากให้ท่านออกมาขอโทษครอบครัว ผ่านสื่อมวลชนที่หน้าศาลอาญา หรือไม่ท่านก็ไปไลฟ์ช่องทางที่ท่านเคยไลฟ์ เพื่อคนที่ติดตามท่านจะได้รู้ว่าท่านออกมายอมรับผิดแล้วนะ ลุงพลกับป้าแต๋นก็ยกโทษให้ ประมาณนี้
บางคนบอกว่าลุงพลกับป้าแต๋นจะให้เขามาขอขมา ?
ลุงพล : ไม่ใช่ครับ คำว่าขอขมาจะหนักไป ถ้าเป็นคนอีสานบ้านเรา คำว่าขอขมาถึงขั้นนั่งคุกเข่า อันนั้นไม่ใชวัตถุประสงค์ที่ต้องการ แค่ต้องการให้ออกมาขอโทษ เราก็เคารพนับถือท่านอยู่แล้ว เราเคยเห็นผลงานท่านอยู่แล้ว ก็มีทั้งส่วนดีและไม่ดี ผมแยกแยะออกว่าตรงไหนดีไม่ดี เราติดตามท่านอยู่ ท่านต้องทำงานเพื่อประชาชนไปเรื่อย ๆ
ชื่นชอบด้วย ?
ลุงพล : ผมติดตามท่านอัจฉริยะมานานแล้ว รู้จักชื่อเสียงท่านมาพอสมควร แต่พอเจอกรณีของเรา ท่านไม่น่าเอามาพูดผ่านสื่อ ถ้าเป็นเรื่องมีมูลความจริงเราจะเฉย ๆ ควรเป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ที่ควรออกมาพูดมากกว่าที่ท่านจะออกมาพูด ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้แล้วแหละ เราต้องปรึกษาผู้ใหญ่เพื่อให้ความรู้สึกที่ผมเคยนับถือท่านกลับมาดีเหมือนเดิม ผมก็ไม่อยากมองด้านลบ
น้อยใจมากกว่า ?
ลุงพล : น้อยใจครับ สิ่งที่ท่านพูด ท่านไม่ได้แคร์ว่าตัวลุงจะคิดยังไง ในเมื่อสิ่งที่ท่านพูดออกไปไม่ใช่ความจริง
ป้าแต๋นรู้สึกยังไง ?
ป้าแต๋น : ฟังแล้วไม่ชอบ เขาบอกว่าลุงยังคิดว่าเป็นลุงอยู่เหรอ เรารู้สึกว่าไม่ค่อยดีกับคำพูดแบบนี้
ลุงพล : เหมือนพยายามเน้นว่าชมพู่ หลานผม เสียชีวิต คงตายฟรีแล้วแหละ
พูดออกมาหลายรอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังทำงานอยู่ เป็นการทำงานที่รอบคอบ
ตรงไปตรงมา เขาทำงานรัดกุม ไม่ได้ออกมาเผยต่อหน้าสื่อ
เจ้าหน้าที่ไม่ได้บ่งบอก
ใครตัดสินใจว่าจะฟ้อง ?
ลุงพล : หลังจากที่ผมเองได้เปิดไลฟ์คุณอัจฉริยะดู ได้คุยกับป้าว่าเยอะไป พยายามทำให้เรื่องทุกเรื่องเป็นเรื่องเดียวกัน ผมก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ถ้าคนติดตามท่านอัจฉริยะจะมองลุงกับป้าแย่ลงไปอีก ผมเลยไปปรึกษาผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านก็บอกว่าลองไปปรึกษาทนายดูว่าจะให้ทำอะไรยังไง หลังไปปรึกษาเสร็จ อีก 2-3 วันเราก็อยากให้ท่านอัจฉริยะติดต่อมา แต่มันไม่มีการติดต่อมาขอโทษ
จริง ๆ ถ้าขอโทษก็จบ ไม่ฟ้องร้อง ?
ลุงพล : ใช่ครับ
ทำไมเลือกทนายตั้ม ทราบไหมว่าทนายตั้มไม่ถูกกับอัจฉริยะ ?
ลุงพล : ผู้ใหญ่ที่ปรึกษาท่านพาไปพบทนายตั้ม ก็ทราบว่าไม่ถูกกัน ผมติดตามผลงานท่านมานานแล้ว เมื่อก่อนท่านเป็นพี่น้องที่รักกัน เคยกอดคอกินข้าวกัน
ทนายตั้มแนะนำยังไงบ้าง ?
ลุงพล : ทนายตั้มก็แนะนำว่ามีข้อนี้ที่พอจะฟ้องได้คือ
อัจฉริยะออกมาไลฟ์ผ่านสื่อโฆษณา ซึ่งทำให้ชื่อเสียงเราเสื่อมเสียได้
ประเด็นนี้ที่อยากให้ท่านขอโทษเท่านั้นเอง
เห็นว่ามีคนติดต่อลุงจะให้เงินจบเรื่องนี้ ?
ลุงพล : อันนี้ไม่ได้ติดต่อผ่านผม อาจติดต่อผ่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ผมก็ไม่ขอเอ่ยชื่อแล้วกัน เรื่องยอดเงินก็ไม่ขอเอ่ยครับ ติดต่อมาจริง จะให้เงินจบเรื่องไม่ต้องฟ้องร้อง ผมก็บอกว่าผมไม่ต้องการเงินส่วนนั้น ผมแค่ต้องการให้ท่านออกมารับผิดชอบคำพูด ขอโทษแค่นั้นเองคือสิ่งที่ผมต้องการ
พอเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นมา มีหลายคนคอมเมนต์ว่าลุงพลเปลี่ยนไป แตะต้องไม่ได้ ?
ลุงพล : อย่างแฮชแท็กแบนลุงพล แบนเรื่องอะไร ผมมีชื่ออะไรถึงจะไปแบนผม ผมไม่มีสินค้าที่จะต้องมาแบน ผมก็ยังเป็นลุงพล ป้าแต๋น เหมือนเดิม การที่บอกว่าดังแล้วแตะไม่ได้ ดังตรงไหน ลุงยังไม่รู้เลยว่าลุงดัง ป้าก็ยังไม่รู้เลยว่าป้าดัง แต่มีคนไปให้กำลังใจที่บ้านเยอะจริง สิ่งที่ออกไปว่าลุงกับป้ามีเงินหลายสิบล้าน จริง ๆ มันไม่มี
ป้าแต๋น : ความเป็นจริงไม่มีอะไร
ลุงพล : ที่บอกว่ามีคนมามอบบิ๊กไบค์ คันละล้านห้า ไม่มีครับ บอกมีเศรษฐีใจดี ซื้อที่ให้ลุงพล ป้าแต๋น นั่นก็ไม่มี เขาดูแล้วก็โทร. มาถามที่บ้านเหมือนกัน แต่มันไม่มี
ถ้ามีคนจะให้ เอาไหม ?
ลุงพล : ท่านจะใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ ซื้อที่ให้ลุงพล
ลุงพล : มีอยู่วันหนึ่งผู้สื่อข่าวถามประเด็นที่บ้าน เขาเห็นว่าเรื่องข่าวมันเงียบ เขาอยากให้พวกเราคลายเครียดบ้าง เขาเลยถามว่าลุงร้องเพลงบ่อยไหม ป้าก็บอกว่าลุงชอบร้องเพลง เลยร้องเพลงหน้าบ้าน เขาบอกเสียงดีนะ น่าจะไปร้องเพลง ก็เป็นที่มาร้องเพลงกับคุณจินตหรา พูนลาภ
แล้วมาร้องเพลงกับจินตหราได้ยังไง ?
ลุงพล : ผู้จัดการคุณจินตหราไปเยี่ยมให้กำลังใจที่บ้าน และให้กำลังใจแม่ชมพู่ด้วย ท่านก็บอกว่ามีงานไหว้สาพญาเต่างอย ร้องเพลงเต่างอยเพลงเดียว ก็เลยตัดสินใจไปร้อง
กับหญิงลีล่ะ ?
ลุงพล : ผมมาสักการะพระศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าใหญ่วัดศรีษะแรด เลยได้ไปพักที่รีสอร์ตหญิงลี หญิงลีบอกว่ามีงานร้องเพลง ไปกับเขาสนใจไหม
งานแรกที่เป็นงานจ้างคืองานอะไร ?
ลุงพล : เป็นเพลงเต่างอยครับ ไปช่วยงานประจำปี ก็ไม่ได้หวังเรื่องค่าตอบแทนอะไร วันนั้นผู้จัดการจินตหราก็มามอบเงินให้ที่บ้าน 1 แสนบาท ตอนนั้น 6 ล้านวิว ท่านเอาเงินไปให้
เงินก้อนแรกในชีวิต รู้สึกยังไง เพราะปกติกรีดยาง ?
ลุงพล : กรีดยางก็ขึ้นอยู่กับราคายาง เดือนนึงตก 3 หมื่น สำหรับลุงได้ 1 แสน ดีใจมาก ไม่เคยได้รับก้อนใหญ่ขนาดนี้
ได้คุยกับจินตหรายังไง ?
ลุงพล : พี่จินก็ให้กำลังใจ สู้ ๆ คุยเรื่องร้องเพลงมากกว่า การถ่ายเอ็มวีก็ผ่านผู้จัดการจินตหราทั้งหมด
ป้าแต๋นไม่ร้องด้วยเหรอ ?
ป้าแต๋น : ร้องไม่ค่อยเก่ง จำเนื้อไม่ค่อยได้ ไปด้วยเป็นกองเชียร์ (หัวเราะ)
เห็นว่าจะมีเพลงลุงพลเองด้วย ?
ลุงพล : มีแล้วครับ เป็นเพลงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดในครอบครัว คุณเพชร สหรัตน์ แต่งให้ ชื่อเพลงความจริงในใจ ลุงพล-ป้าแต๋น ก็เอาลงช่องยูทูบของตัวเอง เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดกับชีวิตลุง
นอกจากเดินแบบ ร้องเพลง มีอะไรอีก ?
ลุงพล : เดินแบบ คุณอุ๊บ วิริยะ ซึ่งท่านเป็นที่ปรึกษา ท่านให้โอกาส
ป้าแต๋น : ไม่คิดว่าห้างแตก คนเยอะเหมือนกัน (หัวเราะ)
รับมือกับกระแสยังไง คนกรี๊ดเราเยอะจากคนธรรมดา ?
ป้าแต๋น : เราเป็นชาวบ้านชาวป่าชาวเขา ไม่คิดว่าจะพลิกขนาดนี้ ก็เหมือนเขาให้กำลังใจเรา เราก็รับตรงนั้นมา ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจเรา
ลุงพล : ทุกคนเขาดูข่าวแล้วคงสงสาร ลุงกับป้าเจอเรื่องร้าย ๆ มาเยอะ
ก็อยากให้กำลังใจ แล้วก็เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ลุงกับป้าก็ดีใจที่ทำความดี
คนเห็นและชื่นชม
ป้าแต๋น : ตอนแรกเรายังไม่รู้เลย เราทำไม่เป็น ก็บอกให้น้อง ๆ เขาถ่ายและลงให้ พอตื่นเช้ามาแค่กินไข่ดาวยอดวิวเยอะมาก เรียกว่ามหัศจรรย์ก็ได้ ชีวิตลุงกับป้า ช่วงหนึ่งที่เจอแต่ความมืดมน อยู่กัน 4 คนกับลูก พอมาเจอแสงตรงนี้ เขาให้โอกาส ก็เป็นอะไรที่ดี
ถ้าพูดถึงรายได้จากการอยู่ในวงการช่วงระยะเวลาสั้น ๆ พอจะบอกรายได้ได้ไหมว่าเท่าไหร่ ?
ลุงพล : มันระบุไม่ได้ ก็จะมีงานที่ผมออกไปร้องเพลงกับจินตหรา แล้วก็หญิงลี และมีงานเป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องดื่มสุขภาพเจ้าหนึ่ง มีแค่ร้องเพลงนี่แหละครับ
ลุงพล : สำหรับคนคิดลบกับเรา ผมก็ไม่รู้จะไปพูดอะไรให้เขา มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล เราก็ไม่ได้สนใจ ส่วนคนให้กำลังใจก็ยินดีด้วย ที่ทุกคนรู้สึกว่าการต่อสู้ครั้งนี้ เรามีกำลังใจจะต่อสู้
ป้าแต๋น : จะให้ถูกใจทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ เอาเฉพาะคนที่เขาให้กำลังใจ ทำให้เรามีพลังต่อ อะไรที่เป็นด้านลบไม่ดูดีกว่า
แฮชแท็กแบนลุงพล เสียใจไหม ?
ลุงพล : ไม่ครับ สำหรับผมเองไม่รู้สึกอะไร เราไม่ใช่คนเด่นดัง มีชื่อเสียงขนาดนั้น
เหตุผลที่คนต้องมาแบน มารู้สึกไม่ดีกับเรา เพราะอะไร ?
ลุงพล : ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าเกิดจากอะไร กรณีที่บอกว่ามีการเซ็นสัญญา 1 ล้านบาท ไม่มีครับ มีการเซ็นสัญญา 6 เดือน ค่าตอบแทนอยู่ที่แค่ 3 แสนเท่านั้นเอง มีแค่นั้น
ป้าแต๋น : 1 ล้านคือถ้าขายได้โน่นแหละถึงจะได้
ถามถึงเส้นทางความรักลุงพลกับป้าแต๋น เจอกันได้ยังไง ?
ลุงพล : คือทำงานที่บริษัทเดียวกันครับ ทำงานด้วยกันทุกวัน เจอกันทุกวัน ก็เกิดความรู้สึกว่าเขานิสัยดี ป้าแต๋นเป็นคนไม่ค่อยชอบแต่งหน้า ผมก็ชอบผู้หญิงไม่แต่งหน้า ถ้าแต่งก็คงไม่เอา มันไม่เป็นธรรมชาติ
ไปจีบยังไง ?
ลุงพล : เขาเป็นคนคุยกับผู้ชายไม่เยอะ ผมก็ลองคบเขาดู ก็ใช้เวลาไม่นาน ก็ตัดสินใจอยู่ด้วยกัน สุดท้ายก็ไปขอเขาที่บ้าน ผมไปเอง ไม่ได้พาพ่อผมไป
ทำไมไม่พาพ่อไป ?
ป้าแต๋น : เขาคิดเรื่องความเป็นลูกผู้ชาย เขาก็เลยไปขอเองเลย (หัวเราะ)
ลุงพล : ก็รู้จักกันไม่ถึงปีก็ไปขอ
ป้าแต๋นชอบอะไรในตัวลุงพล ?
ป้าแต๋น : ก็ตรง ๆ ดี คุยถูกคอ สบายใจ สนุกสนาน
ที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ป้าแต๋นว่ายังไงบ้าง ?
ป้าแต๋น : ไม่ได้ว่า เพราะเราโตแล้ว ให้เราเลือกเองมากกว่า จะมีความสุขหรือทุกข์อยู่ที่เรา แกก็ไม่ว่าอะไร
ช่วงคบกันมีหนุ่มคนอื่นมาจีบป้าแต๋นไหม ?
ป้าแต๋น : ไม่มีค่ะ
แล้วลุงพล มีสาว ๆ มาชอบไหม ?
ลุงพล : ก็อาจจะมีบ้างครับ ไม่ได้ไปมองจุดนั้น เราโฟกัสมาที่เขาอยู่แล้ว
มีการหึงหวงอะไรบ้างไหม ?
ลุงพล : ตอนอยู่ด้วยกันก็มีบ้าง แต่พอมีลูกก็เน้นไปที่ลูก แต่งงานกันปี
2547 และอยู่กันมาเรื่อย ๆ มีลูก 2 คน พี่โอม อายุ 14 อยู่ ม.2
และพี่น้ำมนต์ อยู่ ป.4 ย่าง 10 ขวบ
เคยมีเรื่องราวที่ลุงพลแอบไปมีกิ๊ก ?
ป้าแต๋น : มันคงเป็นธรรมชาติผู้ชาย มันมีบ้าง แต่เราเป็นภรรยา หนักเบาให้โอกาสแค่ไหน สุดท้ายเขาก็เลือกลูกมากกว่าคนอื่น ก็กลับมาหาเรา ความผูกพันที่ผู้ชายคนหนึ่งเขารักลูก เราก็รู้สึกดี พ่อเขารักลูก ก็ให้โอกาส
ป้าแต๋นจับได้ยังไง ?
ป้าแต๋น : ผู้หญิงโทร. มาเอง เราเป็นคนรับ เรียกพี่เรียกอ้าย เราก็ว่าแปลก ๆ ก็ถามตรง ๆ เขาก็บอกว่ามีผู้หญิง
ลุงพล : ก็ไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นต้องปิด เป็นเรื่องจริง ยอมรับว่ามีจริง มีการคบ พูดคุยจริง แต่สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นไม่เหมือนป้าแต๋น ถ้าคบต่อคงไปกับเราไม่ได้ เลยกลับมาคิดห่วงลูกมากกว่า เรามีลูกกับป้าแต๋น 2 คนแล้ว เลยกลับมาดูครอบครัวเหมือนเดิม
ออกนอกลู่นอกทางนานไหม ?
ลุงพล : ไม่นานครับ ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ มีเรื่องไม่สบายใจในครอบครัวก็เลยได้รู้จักผู้หญิงอีกคน ประมาณ 3-4 เดือน
ผู้หญิงยอมเลิก ?
ลุงพล : เขายอมครับ เพราะเราไปด้วยกันไม่ได้ ผมก็มีครอบครัวอยู่แล้ว อีกอย่างป้าแต๋นคงเส้นคงวา ไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง ก็กลับมาหาครอบครัว
ผู้หญิงทราบไหมว่ามีครอบครัว ?
ลุงพล : น่าจะทราบ เพราะผมก็ไม่ได้ปิดบังว่าผมมีครอบครัวแล้ว
เวลาผู้ชายไปจีบผู้หญิงทั้งที่มีลูกมีครอบครัว บอกเขายังไงเขาถึงยอมคบ ?
ลุงพล : ก็บอกเปิดเผยว่ามีลูกมีครอบครัวแล้ว แค่ถูกชะตาอยากคุยด้วย อยากรู้จัก อยากพูดคุย
ป้าแต๋น : ยื่นเบอร์ให้เลย (หัวเราะ)
ตอนนั้นป้าแต๋นรู้เสียใจไหม ?
ป้าแต๋น : วันที่รู้ก็ถามว่าทำแบบนี้ทำไม ถามแค่นั้นแหละ แล้วก็เงียบ แต่วันนั้นก็ไม่พูดเลย ถ้าเขาจะไปต่อก็ให้ไปต่อ ปล่อยไปเลย จนวันหนึ่งเขาบอกว่าจะอยู่ตรงนี้แล้วนะ ก็ให้เขาไปดูว่าคนนั้นดีไม่ดี ป้าก็อยู่เงียบ ๆ ของป้า จนวันหนึ่งผู้หญิงคนนั้นก็มีเรื่องไม่ดีออกมา
ลุงพล : เอาง่าย ๆ เขาไม่ได้ดูผมแค่คนเดียว เขาคบผู้ชายหลายคน ก็เลยมันไม่ใช่แล้ว ไม่เหมือนป้าแต๋น เลยกลับมา คิดว่าคงมั่นคงกับเขาแล้วแหละ ทุกวันนี้ไม่คิดอะไร อยู่กับลูกมากกว่า
ป้าแต๋น : ผมหงอกเยอะ ก็ต้องให้เด็กถอน (หัวเราะ)
ลุงพล : ไม่ ๆ
ตอนนี้ลุงพลเข้ามาอยู่ในวงการ ต้องมีผู้หญิงชื่นชอบเยอะ กลัวไหม ?
ป้าแต๋น : ถ้ายังคิดไม่ได้ก็ปล่อยไปตามเวรตามกรรม เราโต ๆ กันหมดแล้ว ถ้าคิดไม่ได้ก็ปล่อย เราก็ห้ามไม่ได้ถ้าเขาจะไป
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ป้าแต๋นทำไง ?
ป้าแต๋น : คงทำใจแล้ว แก่แล้ว
ลุงพล : อยู่ที่่ตัวผม คงไม่มีแล้ว มั่นใจครับ (หัวเราะ)
ป้าแต๋น : ออกทีวี มีหลักฐานเลยนะ (หัวเราะ)
ลุงพล : จ้า (หัวเราะ)
ปกติเถียงกันบ่อยไหม ?
ป้าแต๋น : บ่อยจ้ะ แต่แป๊บเดียว
ลุงพล : เราทำงานก็ปรึกษากัน ผมชอบเอาเหตุผลมาคุยกัน
ป้าแต๋น : เรื่องทะเลาะกันบ่อยก็เรื่องลูกมากกว่า คนหนึ่งดุลูก อีกคนก็ห้าม เขาจะห้าม แต่ไม่นาน ไม่ถึง 10 นาที ก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม
ทะเลาะกันแล้วใครง้อใคร ?
ป้าแต๋น : ไม่ได้ง้อ เจอหน้ากันก็กลับมาคุยกันปกติ
เป็นคนที่ไม่ได้โกรธอะไรนาน ?
ป้าแต๋น : ก็คุยกันปกติ
พอเจอหลาย ๆ ปัญหา ทำให้รักกันมากขึ้นไหม ?
ลุงพล : เราพยายามให้กำลังใจ อยู่เคียงข้างกันแบบนี้
พยายามจับมือไปด้วยกัน เจออุปสรรคข้างหน้าก็พยายามให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
แสดงความรักให้ดูหน่อยได้ไหม ?
ลุงพล : ได้ครับ ถ้าเอกลักษณ์ลุงกับป้า แค่กอดกันก็อบอุ่น (กอดป้าแต๋น) ส่วนใหญ่ไม่ได้หวาน
นั่งจับมือกันก็หวานแล้วนะ ?
ป้าแต๋น : ทะเลาะกันก็ไม่นาน ไม่ต้องบอกว่ารักหรืออะไร เราดูออกก็พอ ครอบครัวมีความสุขก็ดีแล้ว
รายการ ถามสุดซอย ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.20 น. ทางเนชั่น
ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล