ชายชรา วัย 87 ปี ไปนวดเท้า ตัดสินใจกดสิวข้าวสาร หลังเห็นโฆษณาราคาถูก ไม่ถึงพันบาท แต่พอเสร็จ กลับโดนคิดเงินแสนกว่าบาท ทำเอาช็อก แทบหัวใจวาย
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 เว็บไซต์มาเธอร์ชิป รายงานว่า โลกออนไลน์ของสิงคโปร์กำลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งอย่างหนัก เรื่องโฆษณาไม่ตรงกับความจริง และหลอกลวงผู้บริโภค หลังจากชายชราคนหนึ่งไปใช้บริการกดสิวข้าวสารที่หน้า เพราะเห็นในโฆษณาว่าราคาถูก ไม่ถึงพันบาท แต่พอถึงเวลาคิดเงิน กลับโดนไปเป็นหลักแสนบาท !!
ชายชราคนดังกล่าวมีชื่อว่า คุณตาเหย่ วัย 87 ปี ได้ไปนวดเท้าที่สปาและคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ชื่อย่อ อี เขาเห็นป้ายโฆษณาค่ากดสิวข้าวสาร ระบุราคา 38 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 870 บาท ซึ่่งพนักงานก็แนะนำด้วย คุณตาเห็นว่าราคาไม่ได้แพงมาก จึงตัดสินใจยอมใช้บริการ หลังจากทำเสร็จ ทางร้านคิดเงินเขาในราคา 4,445 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว ๆ 102,210 บาท ทำให้คุณตาเหย่ตกใจมาก แต่ก็ต้องจำใจจ่ายเพราะไม่อยากมีปัญหา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jessie Kang
คุณตาใช้บัตร NETS (บัตรแทนเงินสด) จ่ายเงินให้กับทางร้านไป 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 45,990 บาท เพราะติดลิมิตวงเงินของบัตร ทางระบบก็ได้มีการแจ้งเตือนคุณตาว่าเขาอาจตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ เพราะอยู่ดี ๆ เขารูดใช้เงินมากถึง 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ในครั้งเดียว และตัดลิมิตวงเงินของบัตร
ด้วยเหตุนี้ คุณตาเหย่จึงต้องไปธนาคารเพื่อเบิกถอนเงินออกมาจ่ายที่เหลือจนครบ โดยมีพนักงานของร้านเดินประกบไปด้วย และหลังจากนั้นทางสปาดังกล่าวก็ไม่ได้ออกใบเสร็จ หรือใบกำกับภาษีให้แต่อย่างใด ๆ
ในเวลาต่อมา หลังจากหลานชายของคุณตาทราบเรื่อง เขาก็เดินทางไปที่สปาทันทีเพื่อสอบถามที่มาที่ไปของราคาแพงมหาโหดนี้ ทั้งที่ติดป้ายหน้าร้านไว้แค่ 38 ดอลลาร์สิงคโปร์ พนักงานของร้านอ้างว่า ค่าใช้จ่ายในการกดและจี้สิวข้าวสารอยู่ที่เม็ดละ 20 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 460 บาท ซึ่งคุณตามีสิวเป็นจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายจึงแพงตามไปด้วย และเมื่อเขาขอดูใบเสร็จทางร้านก็ไม่ยอมออกให้ มีแค่สลิปจากเครื่องรูดบัตรเท่านั้น
3 วันต่อมา หลานชายกลับไปที่ร้านอีกครั้งเพื่อขอดูใบเสร็จค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทางร้านก็ยังคงไม่ออกให้เช่นเดิม ทำให้หลานชายไม่พอใจที่ฉวยประโยชน์จากคนแก่แบบนี้ และที่คุณตาของเขาตัดสินใจทำเพราะเห็นว่าป้ายราคาหน้าร้านระบุว่า 38 ดอลลาร์สิงคโปร์ แต่กลับมาบอกทีหลังว่ากดสิวเม็ดละ 20 ดอลลาร์สิงคโปร์
ด้าน นางฮวง เจ้าของสปาดังกล่าว เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า ชายชราเข้ามาใช้บริการนวดเท้าจริง แต่ได้ขอให้พนักงานกดสิวข้าวสารที่คอออกให้ ซึ่งเธออ้างว่ามีการคุยเรื่องราคากันแล้ว และลูกค้าก็ตกลงรับรู้ราคาที่ต้องจ่าย พร้อมยืนยันว่าไม่เคยโฆษณาเกินจริง และทางสปาของเธอไม่ได้ทำอะไรผิด
ครอบครัวของชายชราเดินทางไปที่สปาหลายครั้ง เพื่อจะคุยกับเจ้าของร้านให้รู้เรื่อง ซึ่งพนักงานคนหนึ่งก็ได้อ้างว่า ตอนที่คุณตาเหย่มาใช้บริการ เขาได้เอ่ยปากถามว่าทางสปามีบริการพิเศษแนวนวดนาบหรือไม่ เรื่องนี้ทำให้ครอบครัวไม่พอใจอย่างมากที่กล้าใส่ความคนแก่แบบนี้ หลานชายของคุณตาเหย่ กล่าวอย่างโกรธแค้นว่า คุณตาของเขาอายุ 87 ปีแล้ว มันยากที่จะเชื่อว่าเขาพูดอะไรทำนองนั้น ซึ่งคุณตาก็ตกใจมาก และยืนยันว่าไม่เคยพูดแบบนั้นเลยสักครั้ง
ล่าสุดทางครอบครัวได้มีการแจ้งความเรียบร้อย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าตรวจสอบสปาดังกล่าวแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก
Mothership
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 เว็บไซต์มาเธอร์ชิป รายงานว่า โลกออนไลน์ของสิงคโปร์กำลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งอย่างหนัก เรื่องโฆษณาไม่ตรงกับความจริง และหลอกลวงผู้บริโภค หลังจากชายชราคนหนึ่งไปใช้บริการกดสิวข้าวสารที่หน้า เพราะเห็นในโฆษณาว่าราคาถูก ไม่ถึงพันบาท แต่พอถึงเวลาคิดเงิน กลับโดนไปเป็นหลักแสนบาท !!
ชายชราคนดังกล่าวมีชื่อว่า คุณตาเหย่ วัย 87 ปี ได้ไปนวดเท้าที่สปาและคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ชื่อย่อ อี เขาเห็นป้ายโฆษณาค่ากดสิวข้าวสาร ระบุราคา 38 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 870 บาท ซึ่่งพนักงานก็แนะนำด้วย คุณตาเห็นว่าราคาไม่ได้แพงมาก จึงตัดสินใจยอมใช้บริการ หลังจากทำเสร็จ ทางร้านคิดเงินเขาในราคา 4,445 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว ๆ 102,210 บาท ทำให้คุณตาเหย่ตกใจมาก แต่ก็ต้องจำใจจ่ายเพราะไม่อยากมีปัญหา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jessie Kang
คุณตาใช้บัตร NETS (บัตรแทนเงินสด) จ่ายเงินให้กับทางร้านไป 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 45,990 บาท เพราะติดลิมิตวงเงินของบัตร ทางระบบก็ได้มีการแจ้งเตือนคุณตาว่าเขาอาจตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ เพราะอยู่ดี ๆ เขารูดใช้เงินมากถึง 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ในครั้งเดียว และตัดลิมิตวงเงินของบัตร
ด้วยเหตุนี้ คุณตาเหย่จึงต้องไปธนาคารเพื่อเบิกถอนเงินออกมาจ่ายที่เหลือจนครบ โดยมีพนักงานของร้านเดินประกบไปด้วย และหลังจากนั้นทางสปาดังกล่าวก็ไม่ได้ออกใบเสร็จ หรือใบกำกับภาษีให้แต่อย่างใด ๆ
ในเวลาต่อมา หลังจากหลานชายของคุณตาทราบเรื่อง เขาก็เดินทางไปที่สปาทันทีเพื่อสอบถามที่มาที่ไปของราคาแพงมหาโหดนี้ ทั้งที่ติดป้ายหน้าร้านไว้แค่ 38 ดอลลาร์สิงคโปร์ พนักงานของร้านอ้างว่า ค่าใช้จ่ายในการกดและจี้สิวข้าวสารอยู่ที่เม็ดละ 20 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 460 บาท ซึ่งคุณตามีสิวเป็นจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายจึงแพงตามไปด้วย และเมื่อเขาขอดูใบเสร็จทางร้านก็ไม่ยอมออกให้ มีแค่สลิปจากเครื่องรูดบัตรเท่านั้น
3 วันต่อมา หลานชายกลับไปที่ร้านอีกครั้งเพื่อขอดูใบเสร็จค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทางร้านก็ยังคงไม่ออกให้เช่นเดิม ทำให้หลานชายไม่พอใจที่ฉวยประโยชน์จากคนแก่แบบนี้ และที่คุณตาของเขาตัดสินใจทำเพราะเห็นว่าป้ายราคาหน้าร้านระบุว่า 38 ดอลลาร์สิงคโปร์ แต่กลับมาบอกทีหลังว่ากดสิวเม็ดละ 20 ดอลลาร์สิงคโปร์
ด้าน นางฮวง เจ้าของสปาดังกล่าว เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า ชายชราเข้ามาใช้บริการนวดเท้าจริง แต่ได้ขอให้พนักงานกดสิวข้าวสารที่คอออกให้ ซึ่งเธออ้างว่ามีการคุยเรื่องราคากันแล้ว และลูกค้าก็ตกลงรับรู้ราคาที่ต้องจ่าย พร้อมยืนยันว่าไม่เคยโฆษณาเกินจริง และทางสปาของเธอไม่ได้ทำอะไรผิด
ครอบครัวของชายชราเดินทางไปที่สปาหลายครั้ง เพื่อจะคุยกับเจ้าของร้านให้รู้เรื่อง ซึ่งพนักงานคนหนึ่งก็ได้อ้างว่า ตอนที่คุณตาเหย่มาใช้บริการ เขาได้เอ่ยปากถามว่าทางสปามีบริการพิเศษแนวนวดนาบหรือไม่ เรื่องนี้ทำให้ครอบครัวไม่พอใจอย่างมากที่กล้าใส่ความคนแก่แบบนี้ หลานชายของคุณตาเหย่ กล่าวอย่างโกรธแค้นว่า คุณตาของเขาอายุ 87 ปีแล้ว มันยากที่จะเชื่อว่าเขาพูดอะไรทำนองนั้น ซึ่งคุณตาก็ตกใจมาก และยืนยันว่าไม่เคยพูดแบบนั้นเลยสักครั้ง
ล่าสุดทางครอบครัวได้มีการแจ้งความเรียบร้อย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าตรวจสอบสปาดังกล่าวแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก
Mothership