ศาลอุทธรณ์พิพากษา ยกฟ้อง พระพรหมดิลก อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา และ อดีตพระอรรถกิจโสภณ เลขาเจ้าคณะกรุงเทพฯ คดีเงินทอนวัด หลังศาลชั้นต้นจำคุก 6 ปี
วันที่ 23 กันยายน 2563 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง นายเอื้อน กลิ่นสาลี หรือ อดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา, กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และ เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กับ นายสมทรง อรรถกฤษณ์ อดีตพระอรรถกิจโสภณ และเลขาเจ้าคณะกรุงเทพฯ จำเลยในคดีฟอกเงินจากการทุจริตงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนา หลังก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 3-6 ปี ไม่รอลงอาญา ซึ่งต่อมา จำเลยได้ประกันตัวระหว่างรออุทธรณ์
โดยศาลฯ เห็นว่า งบประมาณที่สำนักงานพระพุทธจัดสรรมา เป็นงบพระปริยัติธรรม 9 วัด จำนวน 72 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสถาบันการศึกษาของวัด แม้ว่าวัดสามพระยา จะไม่มีโรงเรียนสอนปริยัติธรรม แต่มีการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน อีกทั้งจำเลยทั้ง 2 เป็นบุคคลภายนอกของสำนักงานพระพุทธศาสนา ทำให้ไม่ทราบความเป็นมา และจุดประสงค์ของเงินจำนวนนี้ เมื่อได้รับเงินมา นำใช้บูรณะปฏิสังขรณ์วัด และมีพยานหลักฐานว่านำไปสร้างอาคาร "ร่มธรรม"จริง โดยจำเลยทั้ง 2 มีสิทธินำเงินไปทำนุบำรุงวัดและไม่ได้ถอน รับ โอน หรือ อำพรางแหล่งที่มาของทรัพย์สิน จึงไม่ผิดตามฟ้อง
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
ทั้งนี้ หลังจากศาลพิพากษาเสร็จสิ้น นายสมทรง หรือ อดีตพระอรรถกิจโสภณ ร้องไห้กลางห้องพิพากษาด้วยความดีใจ รวมถึง พระสงฆ์ และ กลุ่มฆราวาส ต่างดีใจและเข้าร่วมแสดงความยินดี ก่อนจะขึ้นรถกลับวัด
ขณะที่นายอรรณพ บุญสว่าง ทนายความ เปิดเผยว่า จากการสอบถามอดีตพระพรหมดิลก ตั้งใจว่าหลังจากนี้จะกลับมาสวมใส่จีวร พร้อมตั้งคำถามฝากไปถึงผู้เกี่ยวข้องว่า จะมีขั้นตอนอย่างไร โดยที่ผ่านมา อดีตพระพรหมดิลก ยังไม่เคยเปล่งวาจา ลาสิกขา ซึ่งตามพระธรรมวินัยยังถือว่าเป็นพระสงฆ์และยังคงรักษาศีล มาอย่างต่อเนื่อง
ภาพจาก สำนักข่าวไทย