ครูมาร์วิน ครูฟิลิปปินส์ ในคลิปทำร้ายเด็ก ยืนยันแค่พาไปเข้าห้องน้ำ ตกใจเห็น ครูจุ๋ม ตีเด็ก แต่อีกฝ่ายบอกเป็นวิธีลงโทษของไทยจึงไม่กล้ายุ่ง ตำรวจชี้วีซ่าหมดยื่นขออยู่ต่อ แจ้งข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงาน
จากกรณี ครูจุ๋ม จากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ทำร้ายเด็กนักเรียน ซึ่งบรรดาผู้ปกครองได้ทยอยออกมาแฉเรื่อย ๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงต่อเด็กของคุณครูที่โรงเรียนนี้ และยังพบว่ามีครูชาวฟิลิปปินส์ กระชากดึงแขนเด็ก แล้วผลักหลังออกจากห้อง ซึ่งขณะนั้น ครูจุ๋ม อยู่ในห้องด้วย ก่อนที่จะพบว่า ครูมาร์วิน เข้ามาในไทยด้วยหนังสือเดินทางแบบนักท่องเที่ยว อนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้เพียงแค่ 30 วันเท่านั้น
อ่านข่าว : สารสาสน์ราชพฤกษ์ ฉาวไม่หยุด ครูต่างชาติชี้หน้าด่าเด็ก-กระชาก ครูจุ๋มก็อยู่ด้วย !
อ่านข่าว : ค้นบ้าน ครูฟิลิปปินส์ คลิปทำร้ายเด็กอนุบาล พบพาสปอร์ตอยู่ไทยได้แค่ 30 วัน
วันที่ 28 กันยายน 2563 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายมาร์วิน ลิวานัก โอเรโฮล่า อายุ 25 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนนทบุรี ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารพบว่า นายมาร์วินเดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563 จากนั้นได้ยื่นเอกสารขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 กันยายน 2563 เนื่องจากไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้จากสถานการณ์โควิด 19 ซึ่งได้ยื่นเรื่องขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2563 โดยเรื่องยังอยู่ในระหว่างรออนุมัติ
อย่างไรก็ตาม นายมาร์วินได้ไปสมัครเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ โดยเริ่มทดลองสอนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ได้รับค่าจ้างเดือนละ 20,000 บาท โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งทางโรงเรียนแจ้งว่าอยู่ระหว่างทดลองงาน จึงไม่มีหนังสือสัญญาว่าจ้าง
โดย นายมาร์วิน ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตนไม่ได้ทำร้ายเด็ก แค่พยายามจะพาเด็กไปห้องน้ำ เนื่องจากเห็นว่าเด็กคนนั้นมีน้ำมูกไหลลงที่ปาก และเด็กได้ใช้มือเช็ดน้ำมูกจนเปรอะเปื้อนใบหน้า ตนจึงเดินไปชี้สั่งให้เด็กลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่เด็กไม่ยอมลุก ตนเลยเดินเข้าไปหาเด็กแล้วใช้มือจับแขนให้ลุกขึ้น แต่เด็กขัดขืน ตนจึงจับตัวเด็กลุกขึ้นมา ก่อนจะบังคับให้ไปเข้าห้องน้ำ
ส่วนเรื่องที่เห็นครูจุ๋มใช้ความรุนแรงกับเด็กทั้งที่ตนก็อยู่ด้วยนั้น ตนเคยถามครูจุ๋มไปแล้วว่าการกระทำแบบนี้จะไม่มีปัญหาหรือ ครูจุ๋มได้บอกกับตนว่าไม่มีปัญหา เพราะเป็นระบบโรงเรียนของประเทศไทยที่ครูสามารถทำโทษนักเรียนได้ ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะตนก็เพิ่งมารับงานเป็นครูสอนภาษาได้ไม่นาน
ทั้งนี้ พ.ต.ท. ฐิติวัฒน์ ฤชานุกูล รอง ผกก.ตม.จว.นนทบุรี กล่าวว่า นายมาร์วินได้ติดต่อและเดินทางเข้ามอบตัว พร้อมกับยืนยันว่าเป็นคนในคลิปจริง โดยทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน (Work permit) และใช้วีซ่าผิดประเภท จึงได้ดำเนินการตามกฎหมาย นำตัวส่งต่อให้ สภ.ชัยพฤกษ์ ดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นจากการเข้าตรวจสอบบรรดาครูต่างชาติที่ทำงานในโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ พบว่ามีครูต่างชาติทั้งหมด 74 คน เป็นชาวฟิลิปปินส์ จำนวน 65 คน และที่เหลือเป็นชาวเกาหลี รัสเซีย ไอร์แลนด์ ปากีสถาน โคลอมเบีย แอฟริกาใต้ อียิปต์ ออสเตรเลีย ประเทศละ 1 คน โดยขอวีซ่าประเภทครูสอนภาษาอังกฤษ มีใบอนุญาตทำงานครบทุกคน ยกเว้นนายมาร์วิน เจ้าหน้าที่ ตม. จึงตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณี ครูจุ๋ม จากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ทำร้ายเด็กนักเรียน ซึ่งบรรดาผู้ปกครองได้ทยอยออกมาแฉเรื่อย ๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงต่อเด็กของคุณครูที่โรงเรียนนี้ และยังพบว่ามีครูชาวฟิลิปปินส์ กระชากดึงแขนเด็ก แล้วผลักหลังออกจากห้อง ซึ่งขณะนั้น ครูจุ๋ม อยู่ในห้องด้วย ก่อนที่จะพบว่า ครูมาร์วิน เข้ามาในไทยด้วยหนังสือเดินทางแบบนักท่องเที่ยว อนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้เพียงแค่ 30 วันเท่านั้น
อ่านข่าว : สารสาสน์ราชพฤกษ์ ฉาวไม่หยุด ครูต่างชาติชี้หน้าด่าเด็ก-กระชาก ครูจุ๋มก็อยู่ด้วย !
อ่านข่าว : ค้นบ้าน ครูฟิลิปปินส์ คลิปทำร้ายเด็กอนุบาล พบพาสปอร์ตอยู่ไทยได้แค่ 30 วัน
วันที่ 28 กันยายน 2563 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายมาร์วิน ลิวานัก โอเรโฮล่า อายุ 25 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนนทบุรี ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารพบว่า นายมาร์วินเดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563 จากนั้นได้ยื่นเอกสารขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 กันยายน 2563 เนื่องจากไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้จากสถานการณ์โควิด 19 ซึ่งได้ยื่นเรื่องขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2563 โดยเรื่องยังอยู่ในระหว่างรออนุมัติ
อย่างไรก็ตาม นายมาร์วินได้ไปสมัครเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ โดยเริ่มทดลองสอนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ได้รับค่าจ้างเดือนละ 20,000 บาท โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งทางโรงเรียนแจ้งว่าอยู่ระหว่างทดลองงาน จึงไม่มีหนังสือสัญญาว่าจ้าง
โดย นายมาร์วิน ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตนไม่ได้ทำร้ายเด็ก แค่พยายามจะพาเด็กไปห้องน้ำ เนื่องจากเห็นว่าเด็กคนนั้นมีน้ำมูกไหลลงที่ปาก และเด็กได้ใช้มือเช็ดน้ำมูกจนเปรอะเปื้อนใบหน้า ตนจึงเดินไปชี้สั่งให้เด็กลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่เด็กไม่ยอมลุก ตนเลยเดินเข้าไปหาเด็กแล้วใช้มือจับแขนให้ลุกขึ้น แต่เด็กขัดขืน ตนจึงจับตัวเด็กลุกขึ้นมา ก่อนจะบังคับให้ไปเข้าห้องน้ำ
ส่วนเรื่องที่เห็นครูจุ๋มใช้ความรุนแรงกับเด็กทั้งที่ตนก็อยู่ด้วยนั้น ตนเคยถามครูจุ๋มไปแล้วว่าการกระทำแบบนี้จะไม่มีปัญหาหรือ ครูจุ๋มได้บอกกับตนว่าไม่มีปัญหา เพราะเป็นระบบโรงเรียนของประเทศไทยที่ครูสามารถทำโทษนักเรียนได้ ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะตนก็เพิ่งมารับงานเป็นครูสอนภาษาได้ไม่นาน
ทั้งนี้ พ.ต.ท. ฐิติวัฒน์ ฤชานุกูล รอง ผกก.ตม.จว.นนทบุรี กล่าวว่า นายมาร์วินได้ติดต่อและเดินทางเข้ามอบตัว พร้อมกับยืนยันว่าเป็นคนในคลิปจริง โดยทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน (Work permit) และใช้วีซ่าผิดประเภท จึงได้ดำเนินการตามกฎหมาย นำตัวส่งต่อให้ สภ.ชัยพฤกษ์ ดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นจากการเข้าตรวจสอบบรรดาครูต่างชาติที่ทำงานในโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ พบว่ามีครูต่างชาติทั้งหมด 74 คน เป็นชาวฟิลิปปินส์ จำนวน 65 คน และที่เหลือเป็นชาวเกาหลี รัสเซีย ไอร์แลนด์ ปากีสถาน โคลอมเบีย แอฟริกาใต้ อียิปต์ ออสเตรเลีย ประเทศละ 1 คน โดยขอวีซ่าประเภทครูสอนภาษาอังกฤษ มีใบอนุญาตทำงานครบทุกคน ยกเว้นนายมาร์วิน เจ้าหน้าที่ ตม. จึงตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
