ชาวบ้านผวา พบเด็ก 3 ขวบติดกาฬโรคต่อมน้ำเหลือง ในเขตเมิ่งไห่ มณฑลยูนนาน หลังเจอซากหนูตาย ทางการประกาศใช้มาตรการตอบสนองฉุกเฉิน ควบคุมและป้องกันโรค

วันที่ 29 กันยายน 2563 เว็บไซต์ยาฮูนิวส์ รายงานว่า ทางการจีนได้ประกาศใช้มาตรการตอบสนองฉุกเฉินระดับ 4 ในเขตเมิ่งไห่ มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของกาฬโรค หลังมีรายงานพบเด็กชายวัย 3 ขวบ ป่วยเป็นกาฬโรคต่อมน้ำเหลือง (Bubonic Plague) และกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
สำหรับการตรวจพบเด็กชายที่ป่วยกาฬโรคต่อมน้ำเหลือง เกิดขึ้นระหว่างการตรวจคัดกรองประชาชนทั่วทั้งเขต ภายหลังมีการพบหนูตายโดยไม่ทราบสาเหตุ 3 ตัว ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของเขตเมิ่งไห่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคท้องถิ่นได้ยืนยันในวันที่ 21 กันยายน ว่ามีการระบาดของเชื้อกาฬโรคในกลุ่มประชากรหนู ที่เขตดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าอาการของเด็กชายยังไม่ถึงขั้นรุนแรง เขาได้รับการรักษาในทันทีที่ตรวจพบ และขณะนี้ยังอาการทรงตัว โดยเด็กชายเป็นผู้ติดเชื้อรายเดียวที่พบในขณะนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลท้องถิ่น เผยกับโกลบอลไทม์ส ว่า ขณะนี้ได้มีการส่งตัวผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศและระดับมณฑลไปยังเขตดังกล่าวแล้ว เพื่อสนับสนุนการควบคุมกาฬโรคในพื้นที่ พร้อมมีการจัดตั้งทีมสอบสวนโรค ทีมวินิจฉัย และการกักโรคชาวบ้าน ซึ่งได้มีการแจ้งเตือนให้ชาวบ้านรายงานเจ้าหน้าที่หากมีผู้สัมผัสกับซากหนูตาย และให้ขอคำแนะนำทางการแพทย์หากเริ่มแสดงอาการเหมือนมีไข้
กรณีพบผู้ติดเชื้อกาฬโรคที่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดความวิตกกังวลในกลุ่มประชาชน โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม ก็มีการแจ้งเตือนเรื่องการระบาดของกาฬโรคในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
อย่างไรก็ตาม หวัง เพ่ยอวี้ รองหัวหน้าของวิทยาลัยสาธารณสุข มหาวิทยาลัยปักกิ่ง คาดการณ์ว่ากาฬโรคไม่น่าจะแพร่ระบาดไปทั่วมณฑลยูนนาน แต่ประชาชนจำต้องมีความตื่นตัวในความเป็นไปได้ที่จะมีการติดเชื้อ เพราะเชื้อสามารถแพร่ได้อย่างรวดเร็วในกลุ่มหนู และหนูซึ่งเป็นแหล่งเชื้อโรคที่สำคัญ อาจทำให้โรคแพร่สู่คนได้จากการถูกหมัดหนูที่มีเชื้อกัด
อนึ่ง สำหรับผู้ที่ติดเชื้อสามารถพัฒนาอาการต่าง ๆ เช่น มีไข้ เริ่มมีอาการต่อมน้ำเหลืองบวม ตามมาด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด อวัยวะล้มเหลว ซึ่งอาจนำไปสู่ความตายในที่สุด โดย หวัง เพ่ยอวี้ ชี้ว่าอัตราของผู้ที่เสียชีวิตจากกาฬโรคนั้นสูงถึง 40-50% เลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก news.yahoo.com, โกลบอลไทม์ส

สำหรับการตรวจพบเด็กชายที่ป่วยกาฬโรคต่อมน้ำเหลือง เกิดขึ้นระหว่างการตรวจคัดกรองประชาชนทั่วทั้งเขต ภายหลังมีการพบหนูตายโดยไม่ทราบสาเหตุ 3 ตัว ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของเขตเมิ่งไห่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคท้องถิ่นได้ยืนยันในวันที่ 21 กันยายน ว่ามีการระบาดของเชื้อกาฬโรคในกลุ่มประชากรหนู ที่เขตดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าอาการของเด็กชายยังไม่ถึงขั้นรุนแรง เขาได้รับการรักษาในทันทีที่ตรวจพบ และขณะนี้ยังอาการทรงตัว โดยเด็กชายเป็นผู้ติดเชื้อรายเดียวที่พบในขณะนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลท้องถิ่น เผยกับโกลบอลไทม์ส ว่า ขณะนี้ได้มีการส่งตัวผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศและระดับมณฑลไปยังเขตดังกล่าวแล้ว เพื่อสนับสนุนการควบคุมกาฬโรคในพื้นที่ พร้อมมีการจัดตั้งทีมสอบสวนโรค ทีมวินิจฉัย และการกักโรคชาวบ้าน ซึ่งได้มีการแจ้งเตือนให้ชาวบ้านรายงานเจ้าหน้าที่หากมีผู้สัมผัสกับซากหนูตาย และให้ขอคำแนะนำทางการแพทย์หากเริ่มแสดงอาการเหมือนมีไข้
กรณีพบผู้ติดเชื้อกาฬโรคที่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดความวิตกกังวลในกลุ่มประชาชน โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม ก็มีการแจ้งเตือนเรื่องการระบาดของกาฬโรคในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
อย่างไรก็ตาม หวัง เพ่ยอวี้ รองหัวหน้าของวิทยาลัยสาธารณสุข มหาวิทยาลัยปักกิ่ง คาดการณ์ว่ากาฬโรคไม่น่าจะแพร่ระบาดไปทั่วมณฑลยูนนาน แต่ประชาชนจำต้องมีความตื่นตัวในความเป็นไปได้ที่จะมีการติดเชื้อ เพราะเชื้อสามารถแพร่ได้อย่างรวดเร็วในกลุ่มหนู และหนูซึ่งเป็นแหล่งเชื้อโรคที่สำคัญ อาจทำให้โรคแพร่สู่คนได้จากการถูกหมัดหนูที่มีเชื้อกัด
อนึ่ง สำหรับผู้ที่ติดเชื้อสามารถพัฒนาอาการต่าง ๆ เช่น มีไข้ เริ่มมีอาการต่อมน้ำเหลืองบวม ตามมาด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด อวัยวะล้มเหลว ซึ่งอาจนำไปสู่ความตายในที่สุด โดย หวัง เพ่ยอวี้ ชี้ว่าอัตราของผู้ที่เสียชีวิตจากกาฬโรคนั้นสูงถึง 40-50% เลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก news.yahoo.com, โกลบอลไทม์ส