สาวนักเทศน์ พลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือ ก้าวเข้าสู่วงการแซ่บ ปลดเปลื้องอารมณ์ เปลื้องผ้าถ่ายนู้ด เผย ไม่เคยมีความสุขเท่านี้เลยในชีวิต
นิโคล มิตเชลล์ (Nikole Mitchell) หญิงชาวอเมริกัน วัย 36 ปี การเติบโตมาในครอบครัวที่เคร่งศาสนา ทำให้นิโคลถูกคาดหวังว่าจะเป็นคนเรียบร้อย เงียบขรึม สงวนตัว และอ่อนหวาน ทว่าความฝันของเธอกลับไม่ได้เป็นไปตามจารีตนิยมเช่นนั้น และมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
ตามรายงานของเว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ นิโคล เผยว่า ตั้งแต่เด็ก ๆ เธอถูกสอนและปลูกฝังความเชื่อว่าความปรารถนาและร่างกายของเธอ ล้วนเป็นบาปมาตั้งแต่เกิด ในขณะที่ในใจลึก ๆ เธอมีความใฝ่ฝันที่แตกต่างสุดขั้ว เธออยากจะเป็นนักเต้นระบำเปลื้องผ้า แต่เธอก็ต้องเก็บซ่อนมันเอาไว้ อุทิศตนดำเนินชีวิตตามวิถีปฏิบัติแห่งคริสต์ศาสนา และได้กลายเป็นนักเทศน์ หรือศิษยาภิบาล
แต่ถึงนิโคลจะยอมใช้ชีวิตอยู่ในกรอบที่ครอบครัวต้องการ เธอก็ยังถูกมองว่าเป็นคนดื้อรั้นในสายตาครอบครัวของเธอ แม่ของเธอมักจะสอนเสมอว่า ผู้หญิงจะไม่สามารถเป็นผู้นำได้ หน้าที่รับผิดชอบของผู้หญิงคือการอยู่ในครัว และดูแลลูก ๆ ซึ่งเธอรู้สึกว่ามันขัดกับสัญชาตญาณของเธออยู่ตลอด แต่ที่เธอยอมเป็นศิษยาภิบาลก็เพราะส่วนหนึ่งเธอชอบการแสดงออก
กระทั่งในปี 2554 นิโคลและอดีตสามีของเธอได้เข้าร่วมกับโบสถ์ Woodland Hills ในเมืองเซนต์พอล ของรัฐมินนิโซตา ครั้งนั้นถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ของเธอ ทำให้เธอเปิดโลกเรื่องความเท่าเทียมกันทางเพศ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ในโลกนี้ หลังจากนั้นมาความคิดของเธอก็เริ่มพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปมาก
จากนั้นในปี 2559 นิโคลมีความคิดที่อยากจะแสดงตัวตนที่แท้จริงของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเธอเปิดเผยความใฝ่ฝันของเธอ เธอจะถูกมองว่าเป็นความแปลกประหลาด และรับไม่ได้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในแวดวงคริสตจักร เธออาจจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไป และแล้วก็ถึงวันที่เธอตัดสินใจรวบรวมความกล้าทั้งหมดก้าวออกมาจากความลับ
ในเดือนกรกฎาคม 2560 นิโคลเริ่มเดินตามความฝันของเธอ รับงานระบำเปลื้องผ้าและถ่ายนู้ด แม้จะต้องแลกกับคำวิจารณ์ต่อว่าสารพัด แต่เธอก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในเส้นทางนี้
นิโคล เล่าถึงความรู้สึกว่า "ฉันร้องไห้ ไม่ใช่เพราะว่าฉันเสียใจ แต่เพราะฉันไม่เคยรู้สึกมีความสุขเท่านี้มาก่อนในชีวิต ฉันไม่เคยรู้สึกเซ็กซี่และมีอิสระในร่างกายเท่านี้เลย ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงออกในทางใดก็ตามที่ทำให้พวกเขารู้สึกดี และนี่คือสิ่งที่ฉันรู้สึกดี"
"เรื่องการแสดงออกทางเพศของฉันเป็นการเยียวยาและศักดิ์สิทธิ์ และเมื่อฉันมอบของขวัญนี้ให้กับผู้คน ก็เหมือนพวกเขาได้รับการอวยพร"
