สนธิ กลับลำ 360 องศา ไม่ติด ถ้าทักษิณได้นิรโทษกรรมกลับไทย แม้ตัวเองเคยรัฐประหาร


           สนธิ บุญยรัตกลิน กลับลำ เผย รับได้ถ้า ทักษิณ ได้นิรโทษกรรมกลับไทยแบบมีเงื่อนไขเพื่อสร้างความปรองดอง แม้ตัวเองเคยรัฐประหาร เชื่อ รัฐประหาร 2563 ไม่เกิด ถึงเกิดก็ไม่สำเร็จ

สนธิ บุญยรัตกลิน
ภาพจาก STR/AFP
(แฟ้มภาพ)

           วันที่ 2 ตุลาคม 2563 ไทยโพสต์ รายงานกรณีที่ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก และ อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนี้

- กรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เข้าประเทศตั้งแต่ปี 2549 จนบัดนี้ยังไม่ได้กลับมา มองว่าเจ้าตัวมีการพัฒนาหรือลดบทบาทของตัวเองอย่างไรบ้าง

           พล.อ. สนธิ ระบุว่า นายทักษิณ อายุอ่อนกว่าตน 3 ปี ปัจจุบันก็อายุ 70 กว่าปีแล้ว ต้องมองว่าสุขกายสุขใจอย่างไร คงไม่คิดจะสู้ไปถึงปานนั้น ตนคิดว่าคนรุ่นใหม่กำลังมีบทบาทมากกว่า และน่าจะเกิดกับคนรุ่นใหม่

- ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบันนายทักษิณ ได้ติดต่อมาหรือไม่

           พล.อ. สนธิ กล่าวว่า ถ้าคุณทักษิณเจอผมเขาจะเรียกพี่ ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าได้ติดต่อกันหรือไม่นั้น พล.อ. สนธิ ระบุว่า ไม่ ไม่ได้ติดต่อกันอย่างนั้น แต่เจอกันด้วยกรณีใดก็ตาม นายทักษิณ จะเรียกตนว่าพี่บัง ซึ่งเจ้าตัวก็ยังเรียกพี่อยู่ ไม่เคยรื้อฟื้นอดีตมาคุย เขามีมารยาท เป็นผู้ใหญ่

           พล.อ. สนธิ เผยอีกว่า ตนเคยคุยโทรศัพท์ครั้งแรกกับนายทักษิณ หลังปฏิวัติ เจ้าตัวบอกว่าตัวเองเป็นนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะ ตนมองว่านายทักษิณ เป็นสุภาพบุรุษ เราเรียนจบเตรียมทหารมาด้วยกัน เป็นพี่น้องกัน ตัดกันไม่ขาด จะเกลียดกันแต่ไหนเดี๋ยวก็ดีกัน

ทักษิณ ชินวัตร
ภาพจาก PKittiwongsakul/Shutterstock.com
(แฟ้มภาพ)

- อยากฝากอะไรผ่านสื่อไปถึงนายทักษิณหรือไม่

           พล.อ. สนธิ กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร นายทักษิณ สบายดีกว่าตน ต้องศึกษาว่านายทักษิณ ทำอย่างไรจึงหนุ่ม มีอะไรดี ตนกำลังจะหาวิธีเพื่อตามให้ทัน

- หากจะมีการนิรโทษกรรมให้ทักษิณ เพื่อจะได้กลับประเทศและสร้างความปรองดองนั้น

           พล.อ. สนธิ เผยว่า หากจะทำจริง ๆ ก็ทำได้ แต่คงต้องมีเงื่อนไขว่า หากนิรโทษกรรมแล้ว กลับมาแล้วจะต้องช่วยทำอะไร หรือไม่ทำอะไร ต้องมีเงื่อนไข

- ผู้สื่อข่าวถามความเห็นเรื่องความเคลื่อนไหวของนักศึกษา


           พล.อ. สนธิ กล่าวว่า ผู้ใหญ่ก็มีประสบการณ์ในการดำเนินเพียงแต่ ผู้ใหญ่ต้องหันกลับมามองว่าแนวคิดว่าเด็กกำลังคิดอะไร อย่าไปคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดถูก ต้องมองว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ทันกับสิ่งที่เด็กคิดได้หรือไม่ ผู้ใหญ่ควรมองเด็กให้ถูกและเด็กต้องเข้าใจปัญหาของผู้ใหญ่เช่นกัน อย่ามองข้ามพื้นฐานของความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ต้องจัดเชื่อมโยงกันถือเป็นเรื่องสำคัญ

- ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเรียกร้องกลุ่มชุมนุมเรื่องสถาบัน

           พล.อ. สนธิ กล่าวว่า โลกนี้มีการปกครอง 3 แบบ คือประชาธิปไตย เผด็จการ และสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประเทศเราอยู่มาเป็นพันปีได้ เพราะสถาบันเป็นหลักให้ประเทศคงอยู่มาจนทุกวันนี้ สถาบันมีบุญคุณกับแผ่นดิน เป็นปูชนีทางความคิด แต่เราต้องมองว่าประชาธิปไตย และสังคมนิยมจะเอาแบบไหน ตนมองว่าระบอบประชาธิปไตย และสังคมนิยมต่าง ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย จึงเสนอการปกครองประชาธิปไตยแบบไทย ๆ และมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งนี้เด็กรุ่นใหม่อาจจะมองสถาบันมีประโยชน์ไม่มาก แต่จริง ๆ แล้วให้ย้อนไปในอดีตว่าสถาบันได้สร้างอะไรให้กับประเทศไทยบ้าง เป็นบุญคุณและกตัญญู

- สถานการณ์การเมืองว่าปี 2549 ต่างจากปัจจุบันอย่างไร


           พล.อ. สนธิ กล่าวว่า สถานการณ์ในแต่ละห้วงไม่เหมือนกัน จะเปรียบเทียบกันไม่ได้ ปัจจัยต่าง ๆ มีองค์ประกอบไม่เหมือนกัน แต่ปัญหาที่บ่นกันมากคือเรื่องคอร์รัปชัน เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำให้ประชาชนเห็นถึงความโปร่งใส

- เมื่อถามถึงกระแสข่าวรัฐประหารในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา


           พล.อ. สนธิ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าจะมีรัฐประหาร เพราะปัญหาของความขัดแย้งในประเทศก็รุนแรงพอแล้ว วิธีการแก้ก็มีอยู่ ไม่จำเป็นต้องรัฐประหาร เชื่อว่าแก้ไขปัญหาตอนนี้ไม่ได้ ปัญหาตอนนี้หนักกว่า 2549 เนื่องจากวันนี้ความขัดแย้งสองฝ่ายแย่กว่าเก่า และปฏิบัติจะไม่มีทางสำเร็จ ดังนั้นต้องแก้ไขปัญหาตามที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ซึ่งถูกต้องแล้ว แต่ต้องอดทนและทำความเข้าใจให้ทุกกลุ่มหันกลับมาคิดและช่วยกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์, ไทยโพสต์


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สนธิ กลับลำ 360 องศา ไม่ติด ถ้าทักษิณได้นิรโทษกรรมกลับไทย แม้ตัวเองเคยรัฐประหาร อัปเดตล่าสุด 2 ตุลาคม 2563 เวลา 17:47:48 30,295 อ่าน
TOP
x close