ยายวัย 65 ปี ร้องไห้กลางห้างดัง หลังรับเงินจากบัตรคนจนเพิ่ม 500 ตอนแรกคิดว่าไม่ได้เงิน ความจริงดีใจมากที่ได้เงินส่วนนี้ เพราะชีวิตรันทด ไม่มีบ้านอยู่ เสียเสาหลักครอบครัว ต้องกินน้ำพริกประทังชีวิตมาโดยตลอด
จากกรณีนางชวร ซ่อนกลิ่น อายุ 65 ปี
ยืนร้องไห้ระหว่างรอรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน 500 บาท
เพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ห้างทวีกิจ สาขา อ.บ้านด่าน
เนื่องจากรัฐบาลอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยา
และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรฯ ประมาณ 14 ล้านคน
ในช่วงที่มีสถานการณ์ COVID-19 อีกเดือนละ
500 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน กระทั่งมาทราบว่า นางชวรร้องไห้เพราะความดีใจ
ที่ได้อาหารมาต่อชีวิตให้กับ 3 ชีวิตในครอบครัว เพราะทั้งบ้านไม่มีอาหาร
ไม่มีเงินติดตัว จนเป็นที่สงสารกับผู้พบเห็นและพนักงานของห้างเป็นอย่างมาก
วันที่ 9 ตุลาคม 2563 จากการตรวจสอบที่บ้านของนางชวร ใน ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ พบเป็นบ้านไม้ยกสูง เป็นบ้านของน้องสาว ทั้งหมดอยู่ด้วยกัน 3 คน มีสามีอายุ 67 ปี และลูกชายอายุ 35 ปี
นางชวร เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน ลูกสาวแต่งงานแล้วหายไปติดต่อไม่ได้ ลูกชายทำงานเป็น รปภ.ที่กรุงเทพฯ แล้วกลับมาช่วงโควิด-19 ก่อนจะมาป่วยเป็นจิตเวช ตอนนี้อยู่ด้วยกัน 3 ชีวิต สาเหตุที่ร้องไห้ที่ร้านซูเปอร์มาเกต เพราะดีใจสุดชีวิต เมื่อรู้ว่าสามารถใช้บัตรซื้อของได้อีก 500 บาท เพราะทั้งบ้านไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว มีเพียงข้าวสารที่ใช้เงินเบี้ยคนชราไปซื้อไว้ ส่วนกับข้าวกินน้ำพริกทั้ง 3 เวลา เงินจำนวน 500 บาท ที่ได้จากรัฐบาลครั้งนี้ถือว่าต่อชีวิตได้จริง ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า
หลังจากมีการนำเสนอความทุกข์ของนางชวร
โลกออนไลน์ต่างออกมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ล่าสุดนายรังสิกร ทิมาตฤกะ
ส.ส. ในพื้นที่ได้ให้ทีมงานนำข้าวสารไปมอบให้เบื้องต้นแล้ว