เปิดปมคดีโหด ! สาวใหญ่จ้างฆ่าชายเร่ร่อน หวังเงินฌาปนกิจ - ญาติ 2 คน ตายปริศนา

 

          สาวใหญ่สุดโหด จ้างสัปเหร่อฆ่าชายเร่ร่อนนอนใต้สะพานทิ้ง หวังเงินฌาปนกิจ 200,000 บาท เจ้าหน้าที่สืบเพิ่มช็อกหนัก พบก่อนหน้านี้ญาติ 2 คนตายไร้สาเหตุ

          วันที่ 9 ตุลาคม 2563 One31 รายงานว่า พ.ต.อ. ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ. 5 สอบปากคำ นางบัวลอย ทะลา อายุ 61 ปี และนายปั๋นแก้ว ขันแก้ว อายุ 48 ปี สัปเหร่อ ซึ่งเป็นผู้ลงมือฆ่า นายอนันต์ ชายเร่ร่อนที่อาศัยอยู่ใต้สะพานที่เสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย

          จากการสอบสวน นายปั๋นแก้ว ให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือฆ่านายอนันต์เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพเป็นสัปเหร่อที่บ้านห้วยน้ำริน หมู่ 2 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา นางบัวลอยได้โทร. มาหาตนโดยบอกว่าลุงคำเป็นคนแนะนำให้โทร. มาหา ต้องการให้ไปฆ่านายอนันต์ โดยให้ค่าจ้าง 40,000 บาท และโทร. มาทุกวันเป็นระยะเวลานานกว่า 1 เดือน แต่ตนก็ยังไม่ใจอ่อนทำให้ กระทั่งวันเกิดเหตุคือวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตนได้ดื่มสุราจนเมาจึงได้ลงมือก่อเหตุ

          โดยตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปหาผู้ตายที่ใต้สะพาน และใช้มีดพร้าฟันผู้ตายบริเวณศีรษะและใบหน้า ซึ่งผู้ตายก็พยายามต่อสู้แต่สู้แรงตนไม่ไหว จากนั้นตนจึงใช้มีดฟันดูแล้วว่าเสียชีวิต ก่อนจะโทร. หานางบัวลอยว่าได้ลงมือฆ่านายอนันต์สำเร็จแล้ว จึงได้กลับบ้านไปอาบน้ำแล้วนำเสื้อผ้าไปทิ้งในคลองส่งน้ำชลประทาน ส่วนมีดพร้ายาวประมาณฟุตที่ใช้ทำลาบเนื้อก็นำไปล้างและเก็บไว้ในห้องครัว ใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

          จนกระทั่งมีคนพบศพนายอนันต์นอนเสียชีวิตเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา และมีการติดตามตัวคนร้าย ตนก็ทราบข่าว แต่ก็ไม่ได้หนีไปไหน ใช้ชีวิตตามปกติ คิดว่าคนเร่ร่อนไม่น่าจะมีใครให้ความสนใจ กระทั่งเมื่อวานนี้ ตนได้ไปทำหน้าที่สัปเหร่อที่งานศพภายในสุสานบ้านสันคะยอม ต.ขี้เหล็ก ตำรวจจึงตามจับได้

          อย่างไรก็ตาม นางบัวลอยยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้จ้างวานฆ่า เพียงแค่ต้องการให้นายปั๋นแก้วไปสั่งสอนนายอนันต์เท่านั้น เพราะที่ผ่านมา นายอนันต์ชอบเอานางบัวลอยไปพูดจาในทางชู้สาวที่เสียหาย และได้รับความอับอายจึงมีความโกรธแค้น แต่ไม่คิดว่านายปั๋นแก้วจะทำจริงและทำให้นายอนันต์เสียชีวิต ยืนยันว่าไม่ได้จ้างฆ่านายอนันต์เพื่อหวังเงินฌาปนกิจ

          รอง ผบก.สส.ภ. 5 ระบุอีกว่า คดีดังกล่าวนั้นในตอนแรกตำรวจได้ตั้งประเด็นว่าอาจเป็นการดื่มสุราและทะเลาะวิวาท แต่เมื่อสืบสวนเชิงลึกพบว่าผู้ตายไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกับใคร จึงมุ่งประเด็นใหม่คือการที่มีคนในหมู่บ้านหลายคนนำคนตายไปเข้าสมาชิกฌาปนกิจ จึงได้เริ่มแกะรอยและสอบปากคำทีละคน กระทั่งสามารถจับคนลงมือฆ่า และสาวไปถึงผู้จ้างวานได้

          โดยหากนายอนันต์เสียชีวิต นางบัวลอยจะได้เงินทั้งหมด 200,000 บาท นอกจากนี้จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่า นางบัวลอยเคยนำญาติของตัวเองไปเข้าสมาชิกฌาปนกิจลักษณะเดียวกัน และเสียชีวิตแบบไม่ทราบสาเหตุมาแล้ว 2 คน ซึ่งตำรวจก็จะขยายผลตรวจสอบย้อนหลัง รวมไปถึงภรรยาของนายอนันต์ ที่นำนายอนันต์ไปเข้าฌาปนกิจอีกแห่งหนึ่ง โดยออกเงินค่าสมาชิกกับนางบัวลอยคนละครึ่ง ว่าจะเชื่อมโยงกันหรือไม่ และมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกหรือไม่
          สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ตำรวจตั้งข้อหานางบัวลอย เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน  ส่วนนายปั๋นแก้ว ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และในช่วงบ่าย ตำรวจ สภ.แม่ริม จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ