แม่ลัลลาเบล ฉะ น้ำอุ่น สร้างภาพ เจอหน้าไม่กล้าพูด - น้ำอุ่น ลั่นถ้าคิดว่าเป็นลูก พร้อมขอโทษ

          แม่ : ไม่เคยเลยค่ะ ไม่ว่าจะตอนไหน ๆ ก็ไม่เคย


น้ำอุ่นให้สัมภาษณ์ว่าเขาฝากขอโทษ เขาคิดถึงลัลลาเบลตลอดเวลา เขาไม่เคยติดต่อมาช่วยเหลือเยียวยา ส่งค่าขนมให้น้องแบมเลยเหรอ ?

          แม่ : ไม่มีเลยค่ะ

จริง ๆ ควรไหม ?

          ทนาย : จริง ๆ ควรเยียวยา มันเป็นทางมนุษยธรรม เป็นจิตสำนึก ไม่ต้องรอให้มีการพิพากษา เพราะครอบครัวเขาสูญเสียไปแล้ว ก็ควรให้การเยียวยา เพราะเขาเดือดร้อนมาก

พ่อออกมาร้องไห้ ความอัดอั้นคืออะไร ?

          พ่อ : เราสูญเสียเสาหลักไป ลูกเขาก็ยังเล็ก เราแก่แล้ว ทุกวันนี้ลำบาก บ้านก็ต้องผ่อน เป็นการสูญเสีย 1 ปีที่ผ่านมาอยู่ในอกเลย ทุกคนต้องสูญเสียลูกไป

เห็นบอกว่าถ้าแม่ไม่อยู่ แบมจะอยู่ยังไง ?

          แม่ : ใช่ ครอบครัวแม่มีน้อยมาก ยังพูดกับโทนว่าถ้าวันหนึ่งไม่มีแม่กับป๊า ฝากโทนกับฝน แม่ไม่มีใครเลยในตระกูลแม่ มีกันอยู่แค่นี้

ฝนล่ะ มุมการตัดสินเมื่อวานนี้คิดว่าโอเคไหม ?

          ฝน : โอเคระดับหนึ่ง แต่สภาพจิตใจไม่มีอะไรเยียวยาได้ ปีกว่าหนูนอนเปิดไฟ ภาพติดตาที่เราไปรับเพื่อนยังติดตาอยู่ทุกวันนี้ พอจะนอนจะคิดถึงหน้าเพื่อน

เพราะเราไปรับเพื่อนที่คอนโด โทนไปช่วยดูแลยังไง ?

          โทน : ช่วยเรื่องเวลาติดต่อราชการ คอร์นเฟล็กประมาณนี้ อะไรช่วยได้ก็ช่วยเต็มที่ เขาลำบาก ล่าสุดเข้าไปหาแกตอน 4-5 ทุ่ม แกยังทำคอร์นเฟล็กอยู่เลย

ตอน 4-5 ทุ่มแม่ไม่นอนเหรอ ?

          แม่ : เอาแบมนอนก่อน เพราะถ้าแบมไม่หลับเขาจะมายุ่งกับเรา จะมาช่วยอะไรแบบนี้ เราต้องรอให้แบมหลับเราถึงจะลงมาทำ

เมื่อวานตอนไปขึ้นศาล แม่ไปด้วย เจอกลุ่มฝั่งโน้นไหม ?

          แม่ : เจอค่ะ ไม่ได้คุยกัน เขาก็เฉย ๆ ค่ะ

เข้ามาขอโทษไหม ?

          แม่ : ไม่ค่ะ


ฝนเจอไหม ?

          ฝน : เจอตรงทางเข้า เขามองแวบหนึ่งแล้วเชิดหน้าเข้าไป

โทนล่ะ ?

          โทน : เจอ แต่เขาเดินเหมือนไม่เห็นเรา

แต่น้ำอุ่นเขาบอกว่าฝากขอโทษครอบครัว เจอตัวทำไมไม่ขอโทษ ?

          แม่ : แม่ว่าเวลาออกสื่อเขาเป็นผู้ชายพูดดูดีมาก แต่เรื่องจริงไม่ใช่ กล้าพูดตรงนี้

แม่มองว่าเขาควรเดินมาขอโทษเราบ้าง เพราะลูกทั้งคน คุณพาลูกเราไปตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ความสำนึกผิดชอบชั่วดีต้องมีในมนุษย์บ้าง แต่นี่ไม่มีเลย ?

          แม่ : ใช่

เขาฝากขอโทษแม่ แต่พอเจอแม่ไม่ขอโทษ ?

          แม่ : ค่ะ อย่างที่เขาบอกว่าเขาเมาพาน้องไปขึ้นรถ ไม่สามารถประเมินได้ว่าน้องเป็นอะไร ขนาดผู้พิพากษายังบอกได้เลยว่าคุณบอกคุณเมา แต่คุณขับรถจากบ้านบางบัวทองไปบ้านคุณใช้เวลาเป็นชั่วโมง แล้วคุณบอกคุณเมา คุณยังพาน้องนั่งในรถ ปากเป็นสีม่วงคุณถ่ายคลิปให้เพื่อนดู ศาลยังพูดเลยว่าที่อ้างว่าเมามันไม่ใช่ แม่อยากถามแม่เขาจริง ๆ ว่าคิดว่าลูกเขาทำถูกเหรอ

เขาโพสต์เฟซบุ๊กบอกเขาคิดถึงเสมอ ยินดีสู้ต่อ เขาบริสุทธิ์ ไม่บังคับใคร อยู่ที่ใจ ?

          แม่ : คนเราถ้าทำผิดแล้วยอมรับผิดสังคมยังให้อภัย แต่แบบนี้ไม่ใช่เลย

แม้แต่ขอโทษ เจอประจันหน้าก็ไม่ขอโทษ ?

          แม่ : ใช่

          ทนาย : เมื่อวานแม่เข้าห้องพิจารณาก่อน เขาเดินตามมาทีหลัง เขาเดินผ่านแม่ไปเลย เปิดประตูปุ๊บต้องเจอแม่ก่อน แต่เขาก็เดินผ่านไปเลย

วันนี้สิ่งที่จะเกิดคือเขาประกันตัวแล้ว ?

          ทนาย : เขาประกันตัวตั้งแต่เมื่อวาน เป็นสิทธิ์ของเขา จริง ๆ แล้วมีนัยเวลา 30 วัน หลังศาลอ่านคำพิพากษา ถ้าฝั่งจำเลยไม่พอใจคำพิพากษาก็มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ได้ อันนี้คือพิพากษาจำคุกเลย จำเลยที่ 1-6 ไม่ได้รอลงอาญา แต่เมื่อวานคำพิพากษาท่านใส่รายละเอียดดีมาก ทุกเหตุทุกผล เช่น การกระทำของจำเลยที่ 1 เพื่อสนองความต้องการทางเพศ แล้วการที่จำเลยที่ 1 บอกว่าทางผู้ตายยินยอมพร้อมใจที่จะไปร่วมหลับนอน ศาลไม่เชื่อ เนื่องจากก่อนหน้าที่ผู้ตายไปทำงาน ผู้ตายมีการนัดหมายกับมารดาว่าจะทานข้าว ขณะทำงานก็มีการเมสเสจหาน้ำฝนว่าถ้าไม่ไหวให้มารับด้วย นั่นแสดงว่าเขาต้องการกลับบ้าน ไม่ใช่ยินยอมพร้อมใจจะไปกับจำเลยที่ 1


น้ำอุ่น อยู่ในสาย น้ำอุ่นพูดในการสัมภาษณ์ฝากขอโทษแม่ เมื่อวานเจอแม่ทำไมไม่ขอโทษเขาเองต่อหน้า ?

          น้ำอุ่น : ผมก็ทำตัวไม่ถูกครับ ตอนไปนัดสืบ ผมก็โดนว่าโดนอะไรในศาล

ใครว่าในศาล เขาให้ว่าด้วยเหรอ ?

          น้ำอุ่น : วันนัดสืบพยาน หลังจากนั้นก็โดนคุณแม่เขาว่า ก็ไม่เป็นไร เข้าใจ

มุมแม่เขารู้สึกว่าน้ำอุ่นไม่เคยหันกลับไปดูดำดูดีเขาเลย ไม่เคยขอโทษ ?

          น้ำอุ่น : ผมก็อยากขอโทษ แต่ก็ต้องสู้

เขานั่งอยู่ตรงนี้ อยากขอโทษเขาไหม หรือถ้าขอโทษจะกลายเป็นว่าเราผิด ?

          น้ำอุ่น : ผมถูกตัดสินผิดอยู่แล้ว แต่ยังไงดี ถ้าเขาเปิดใจ หรือคิดว่าเป็นลูกคนหนึ่งหรือเป็นอะไรอย่างนี้ ผมก็พร้อมจะขอโทษนะ
 
แม่ให้น้ำอุ่นเป็นลูกแม่ไหม ?

          แม่ : ไม่ค่ะ เพราะว่าพฤติกรรม ถ้าเป็นแม่แล้วมีลูกแบบนี้สมควรเหรอ

          น้ำอุ่น : แล้วจะให้ผมทำยังไง

อยากขอโทษเขาไหมล่ะ ?

          น้ำอุ่น : ก็ฝากขอโทษด้วย

ไม่ต้องฝาก ขอโทษเขาเลย ?

          นำอุ่น : ก็ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้้น แต่ก็ให้เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย ยังไงผมก็ต้องพิสูจน์ตัวเองเหมือนกัน เพราะบางสิ่งบางอย่างเป็นการกล่าวอ้างขึ้นมา และเป็นทัศนคติส่วนตัวเท่านั้น ต้องพิสูจน์ต่อไป


พวกเพื่อน ๆ บางบัวทองได้คุยกันไหม ?

          น้ำอุ่น : ไม่ค่อยได้คุยกันแล้ว คิดว่าเครียดกันอยู่ ไม่ค่อยได้คุย แต่ไปศาลก็คุยบ้าง

ชั้นอุทธรณ์กังวลไหม ?

          น้ำอุ่น : ไม่ครับ เราก็ตามประเด็นไป ศาลชั้นต้นตัดสินเราก็แย้งไปทีละประเด็น เราไม่ได้มีเจตนานะ ศาลชั้นต้นผมว่าก็เป็นไปได้ดี แต่ตัดสินมาผมก็ยังงง ๆ แต่ก็ไม่เป็นไร ผมก็เคารพคำตัดสินของศาล

จะไปเยียวยาอะไรครอบครัวเขาไหม ?

          น้ำอุ่น : ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย

มองยังไง ?

          ทนาย : (ยิ้ม) จริง ๆ แล้วมนุษยธรรมนะครับ คงไม่ต้องรอถึงคำพิพากษา แต่ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของเขา


การขอโทษ การเข้าไปเยียวยา ภาษากฎหมายเป็นการบรรเทาอย่างหนึ่ง แต่นี่ไม่มีเลย ?

          ทนาย : ใช่ครับ ดูอย่างกรณีเสี่ยชนคนตายแล้วเยียวยา อันนั้นคือมนุษยธรรม ไม่ต้องรอศาลพิพากษา เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำ ทำให้หลายชีวิตเดือดร้อนยังไง และจะบรรเทาเบาบางยังไง

ศาลชั้นต้นให้ชำระเป็นตัวเงิน 7 แสน ใครเป็นผู้รับ ?

          ทนาย : คุณแม่ครับ ค่าอุปการะเลี้ยงดู ปกติแล้วทางน้องเบลเขาให้คุณพ่อคุณแม่เดือนละ 6 พันบาท อันนี้เนื่องจากคุณแม่เข้าเป็นโจทก์ร่วม ทางศาลพิพากษาให้ส่วนคุณแม่ ส่วนฝั่งคุณพ่อและน้องแบมยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ เดี๋ยวจะมีการใช้สิทธิ์ต่อแน่นอน คดีแพ่งต้องยึดตามคดีอาญา เราอาจจะใช้สิทธิ์ตอนคดีอาญาถึงที่สุดแล้ว

7 แสนจากน้ำอุ่นหรือจากทั้งหมด ?

          ทนาย : ร่วมกันทั้งหมดครับ 2 ส่วนทีหลัง ทางพ่อกับน้องแบมยังไม่ได้ยื่นใช้สิทธิ์ไป

อีกกี่ปีจะได้เงินเยียวยา ค่าเทอมน้องแทบไม่มี ค่ากินก็แทบไม่มี บ้านกำลังจะขาย ?

          ทนาย : จริง ๆ แล้วเราตอบไม่ได้ เช่น ศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว จำเลยอาจไม่ชำระเลยก็ได้ เหมือนคดีที่ผ่านมาต้องอาศัยสื่อ สังคมกดดันเขาถึงยอมชำระ ซึ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินไปบังคับเขาไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็อยู่ที่จิตสำนึกด้วย

โทนหนักใจไหมเรื่องการอุทธรณ์ จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า ?

          โทน : ไม่ครับ เพราะเราก็เชื่อในทนาย และเชื่อในกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่วันแรกที่ผมพูด

หนักใจไหมทนาย ?

          ทนาย : ไม่หนักใจ เนื่องจากพยานหลักฐาน ต้องขอบคุณหลาย ๆ หน่วยงาน กระทรวงยุติธรรม ท่านปรเมศวร์ ทางทีมงานนิติเวช จุฬาฯ ที่ทำพยานหลักฐานดี ๆ เข้ามาสู้สำนวน ให้ศาลท่านใช้ประกอบการพิจารณา ซึ่งคำพิพากษาเมื่อวานนี้ละเอียดมาก

สรุปลัลลาเบลเสียชีวิตตอนกี่โมง ?

          ทนาย : ช่วง 17.10-19.00 น. ซึ่งอยู่กับน้ำอุ่น กล้องวงจรปิดระยะเวลาคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่ตรง แต่ศาลท่านพิเคราะห์แล้วเชื่อว่า 17.10 น. อยู่กับน้ำอุ่น คาดว่าเป็นช่วงที่อยู่ในรถ เนื่องจากประกอบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จะเห็นได้ว่ามีการปัสสาวะ แพทย์นิติเวชท่านเบิกความว่ามี 2 อาการหลัก คือ โคม่ากับเสียชีวิต เพราะกล้ามเนื้อคลายตัว


นาฬิกาที่ลัลลาเบลใส่อยู่ช่วยไหม ?

          ทนาย : ท่านนำมาใช้ประกอบ คือเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์เขาได้ดึงข้อมูลการเต้นของชีพจร ประกอบกับระยะเวลา และประกอบกับอาการที่เห็นจากคลิปต่าง ๆ ศาลท่านนำมาประกอบหมดเลยว่าช่วงเวลาที่ข้อมูลหายไป อาจเป็นไปได้ที่อาจถอดออก เพราะตอนร่างน้องลงมา ที่น้ำอุ่นลงมาแล้ว น้ำอุ่นมีการถอดออกไป ไม่รู้ว่าถอดช่วงไหน แต่ใช้ประกอบว่ามีช่วงหนึ่งการเต้นของหัวใจแรงมาก ซึ่งในการเสียชีวิต ศาลท่านเชื่อว่าเสียชีวิตจากแอลกอฮอล์ในเลือดสูงไปกดศูนย์กลางสมอง ทำให้หัวใจล้มเหลว

ไม่ได้เกี่ยวกับน้ำอุ่นบอกว่าถ้ารู้คงพาไปโรงพยาบาล ปัญหาคือศาลตัดสินว่าคุณพาเขาไปทำไม ให้เขาดื่มเหล้าทำไม เป็นการล่อลวงอย่างหนึ่ง บ้านบางบัวทองก็โดนแบบนี้ ?

          ทนาย : ใช้คำว่าใช้กลอุบาย หลอกชักชวน

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณเห็นอาการแล้วพาไปหาหมอหรือไม่ เพราะความผิดเกิดตอนแรกแล้วที่คุณให้เขาดื่มเหล้าขนาดนั้น ?

          ทนาย : คุณต้องการอะไรถึงให้เขาดื่มเหล้าขนาดนั้น คุณมีวัตถุประสงค์อะไร

          ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส วันที่ 15 ตุลาคม 2563 โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33