จับเจ้าบ่าวแสบ งัดบ้านคนถูกหวย 12 ล้าน ปลอมตัวถอนเงินเกลี้ยง เอาไปจ่ายค่าสินสอด

 
          ตำรวจรวบทันควัน หนุ่มงัดบ้านผู้โชคดีถูกลอตเตอรี่ 12 ล้าน ขโมยสมุดบัญชี บัตรประชาชน ให้แม่ปลอมเป็นเจ้าของไปเบิกเงิน เอาไปจ่ายค่าสินสอด

          วันที่ 22 ตุลาคม 2563 ช่อง 3 รายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายบุกงัดบ้านพักและลักทรัพย์บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของนายทองอ่อน อนุกูลประชา อายุ 54 ปี และนางหมุด อนุกูลประชา อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 จำนวน 12 ล้านบาท
 
          โดยคนร้ายได้ขโมยทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวนหนึ่ง พร้อมสมุดบัญชีเงินฝากและพันธบัตรรัฐบาล รวม 5 เล่ม, โฉนดที่ดิน 2 ใบ เนื้อที่ 9 ไร่ และ 7 ไร่

          เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบพยานและชาวบ้านในชุมชนจนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ จอดอยู่บริเวณป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน จึงตรวจเช็กหาเจ้าของรถจนพบว่าคือ นายนิสิต ไตรภูมิ อายุ 23 ปี มีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้าตามบ้าน และเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานกับ น.ส.สุดารัตน์ เสนาคูณ อายุ 19 ปี เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2563

          ชุดสืบสวน สภ.ไทยเจริญ จึงเดินทางไปที่บ้านเจ้าสาวที่เพิ่งแต่งงาน และพบนายนิสิตอยู่กับแฟนสาวพอดีจึงเรียกมาคุย โดยเบื้องต้นนายนิสิตได้ให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจดูในกระเป๋าสะพาย พบสมุดธนาคารและบัตรประจำตัวประชาชนของนางหมุด อนุกูลประชา ผู้เสียหาย ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ไทยเจริญ พร้อมตามตัวนางวันเพ็ญ ไตรภูมิ อายุ 60 ปี แม่ของนายนิสิต ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบัญชี และถอนเงินไป 2.9 ล้านบาท มาสอบปากคำ

           ทั้งนี้ จากการติดตามทรัพย์สินที่ถูกลักทรัพย์ไปนั้น ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร สามารถติดตามยึดคืนมาได้เกือบทั้งหมด ทั้งเงินจากการไปมัดจำรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ จำนวน 430,000 บาท, เงินที่คนร้ายแบ่งให้แม่ จำนวน 140,000 บาท, สร้อยทองคำ หนัก 2 บาท, เงินสินสอดที่คนร้ายนำไปให้กับแม่ของเจ้าสาว จำนวน 294,100 บาท ทองคำจากเจ้าสาว หนัก 2 บาท เงินในบัญชี น.ส.สุดารัตน์ ที่คนร้ายให้นำไปเปิดบัญชีใหม่ จำนวน 1,900,0009 บาท และยอดเงินจากบรรดาญาติ ๆ ของนายนิสิตที่นำมามอบคืนอีก ซึ่งได้คืนเกือบทั้งหมดขาดไปไม่กี่หมื่นบาท

          ขณะที่ นายทองอ่อน และนางหมุด ผู้เสียหาย ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร ที่ติดตามทำคดีนี้อย่างเต็มที่ จนสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถติดตามเงินที่ถูกคนร้ายกระจายไปได้เกือบทั้งหมด

           อย่างไรก็ตาม หลังจากผู้จัดการภาคของธนาคารกรุงไทยทราบเรื่อง ได้เข้าเจรจากับผู้เสียหาย เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้บอกว่าจะฟ้องเจ้าหน้าที่ผู้อนุมัติที่จ่ายเงินเกือบ 3 ล้านไปโดยง่ายผิดปกติ โดยจะขอเจรจาให้ผู้เสียหายเปลี่ยนใจไม่ฟ้องเอาความ พร้อมยืนยันว่าจะชดเชยเงินที่ขาดหายไป