หนุ่มเมาขับรถปาดซ้ายปาดขวารถพยาบาล ก่อนเปิดกระจกโชว์เก๋าใส่ ลั่นเมาแล้วไง ด้านคนขับรถพยาบาล ผวาสุดอันตราย เมาแล้วขับเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya
วันที่ 23 ตุลาคม 2563 ผู้ใช้เฟชบุ๊ก Nan Apitchaya ได้โพสต์คลิปเผยให้เห็นชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30-35 ปี โต้เถียงกับรถพยาบาลลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ โดยระบุว่า "เวลาประมาณ 00.20 น. ถนนเส้น รพ.บุรีรัมย์ มานิตย์เมืองใหม่ รถรีเฟอร์ รพ.ลำปลายมาศ ขณะส่งคนไข้ strok fastrack ขากลับมีรถโตโยต้าวีออสขับแซงอยู่ข้างหน้ารถรีเฟอร์ พขร. จึงตีไฟเพื่อขอทาง พอรถรีเฟอร์ชิดขวารถคันหน้าก็ชิดขวา พอรถรีเฟอร์ตีไฟเลี้ยวชิดซ้าย รถคนหน้าก็ชิดซ้ายเพื่อขวาง
ครั้งแรกเราคิดว่าคงแค่บังเอิญเขาอาจจะเข้าใจผิด แต่เปล่าเลยไม่ว่าจะชิดซ้ายหรือขวาเขาก็ขับขวางหน้าเรา เห็นท่าไม่ดีเราจึงหยิบมือถือขึ้นมา ตามภาพในวิดีโอ คนขับดูเมาและไม่มีการขอโทษหรือรู้สึกผิดแต่อย่างใด #ให้ทางเท่ากับให้ชีวิต #สวัสดีคะคุณตำนวด ทะเบียนรถไม่ชัดซูมได้นะคะ" จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล โดยเฉพาะสภาพคนขับรถเก๋ง มีอาการเมาอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับโต้เถียงกับพยาบาล แบบไม่สำนึกผิดกับคำว่า "เมาแล้วไง"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya
จากการสอบถาม นายเฉลิมวุฒิ คะเชนทอน อายุ 35 ปี พนักงานขับรถพยาบาลของโรงพยาบาลลำปลายมาศ ได้ออกมาระบุว่า ตนกับพยาบาล ได้รับมอบหมายไปส่งผู้ป่วยไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ขากลับเวลาประมาณ 00.20 น. บริเวณถนนเส้น รพ.บุรีรัมย์ - มานิตย์เมืองใหม่ บ้านตราดตรวน ม.4 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง ได้มีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว ขับช้า ๆ แช่ขวาอยู่ด้านหน้า จึงเปิดไฟให้หลีก แต่ไม่ยอมหลบรถให้ จึงเปิดไฟกะพริบ แต่ไม่เปิดเสียงไซเรน เพื่อให้รู้ว่าเป็นรถพยาบาล เมื่อตนจะแซงซ้าย รถคันดังกล่าวก็กลับมาเลนซ้าย ลักษณะก่อกวนไปมาหลายครั้ง
สุดท้ายคนขับรถเก๋งก็จอดข้างทาง แล้วลดกระจกลง พยาบาลในรถจึงสอบถามว่า เมาหรือเปล่า พี่รู้ไหมว่าเป็นรถพยาบาล คนขับรถเก๋งตอบมาด้วยเสียงอ้อแอ้ว่า รู้ เมาแล้วไง เมื่อตนบอกไปว่าหน้ารถมีกล้อง (กล้องเสีย) ก็ได้รับคำตอบอีกว่า ไม่สนใจ ก่อนจะขับรถแยกย้ายกันไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัว เพราะคนขับมีอาการเมาอย่างเห็นได้ชัด การขับรถในลักษณะดังกล่าว เป็นอันตรายอย่างมากกับคนสัญจรไป-มาทั่วไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nan Apitchaya