อดีตรองโฆษกพลังประชารัฐ เย้ย ปิยบุตร ร้อนรน หลังเจอพลังเงียบแสดงตัวรักสถาบันอย่างจริงใจ ตามด้วยแฮชแท็ก #พลังเงียบ ที่ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ เชื่อ อีกฝ่ายไม่อยากอยู่ประเทศไทยแล้ว
วันที่ 25 ตุลาคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า
นางสาวทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี
อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล
แกนนำคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิรูปและปฏิวัติ ว่า
เข้าใจได้ว่าแรงจูงใจที่ต้องเขียนเนื้อความแบบนั้นอาจเป็นเพราะนายปิยบุตรเกิดอาการร้อนและขัดใจที่เห็นภาพปวงชนชาวไทยจำนวนมากสามัคคี
แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันอย่างจริงใจ เป็นความรู้สึกที่มาจากใจ
จากศรัทธา
รวมถึงพบกระแสพลังของประชาชนชาวไทยที่รักในหลวงและเทิดทูนในสถาบันได้ร่วมแสดงพลังบริสุทธิ์ให้เห็นในทวิตเตอร์ด้วยแฮชแท็ก
#พลังเงียบ กระหึ่มโลกโซเชียลจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์
อาจทำให้นายปิยบุตรตระหนก
ตื่นจากการหลอกตนเองว่าคนส่วนใหญ่หลงเชื่อการปลุกปั่นที่ได้ทำมาตลอดเวลา
ทั้งนี้ การที่นายปิยบุตรโพสต์เรื่อง เส้นบาง ๆ ระหว่างการปฏิรูปและการปฏิวัติ ดูท่านายปิยบุตรจะรู้ดี ยิ่งคำว่าปฏิวัตินั้น นายปิยบุตรนำมาใช้สื่อความหมายโดยนัยบ่อยครั้ง จนอาจจะน่าเชื่อได้ว่าจะเป็นเจตนาแท้จริงของนายปิยบุตรหรือไม่ จากพฤติกรรมต่าง ๆ สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันว่า คำว่า ปฏิวัติ คือเจตนาและจุดประสงค์ที่ต้องการ เพียงแต่เอาคำว่า ปฏิรูป มาบังหน้า เพื่อเป็นเกราะกำบังด้านกฎหมายตามประสาคนที่รู้กฎหมายแบบอ่านข้ามหน้า และต้องการใช้ช่องโหว่ของกฎหมายที่คิดเองเออเองให้เป็นประโยชน์ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนที่เชื่อนายปิยบุตรเบิกเนตร อย่าไปยืนออกหน้าแล้วยอมให้เขามาหลบอยู่ข้างหลัง คอยฉกฉวยผลประโยชน์ หลอกขายฝัน และขอให้มีสติ อย่าถูกข้อมูลลวงชี้นำให้ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองที่ขี้ขลาดและไม่หวังดีกับประเทศชาติ
1. ไม่อยากอยู่ประเทศไทยแล้ว
2. กลัวนายจ้างที่ตนเฝ้ายกยอแอบหลอกใช้จะหมดศรัทธาในภาพเงาที่สร้างมาของตนเอง
3. ประชาชนจะรู้ทันว่าการชุมนุมเกิดจากมายาคติ กุข่าวลือ สร้างข้อมูลเท็จ ปั่นกระแสสังคม
ขณะเดียวกัน ในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างตั้งข้อสังเกตเรื่องแฮชแท็ก #พลังเงียบ พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่า สาเหตุที่แท็กนี้ดังขึ้นมาได้อาจจะเป็นเพราะระบบคอมพิวเตอร์ที่ช่วยกันพิมพ์ ไม่ได้มาจากคนพิมพ์จริง ๆ พร้อมกับแนบหลักฐานซึ่งผู้ใช้หลายคนต่างทวีตเป็นข้อความเดียวกันและภาพเดียวกัน จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คนจะทวีตเหมือนกันหมด
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN