วันที่ 26 ตุลาคม 2563 บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ มีการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่เจ้าตัวบอกว่า อยากตบคนที่วิจารณ์สถาบัน มีความยาวประมาณ 13 นาที รายละเอียดสำคัญ มีดังนี้
ตนไม่มีความคิดไปตบเด็กชู 3 นิ้ว แต่สิ่งที่ตนพูดนั้นหมายถึงคนที่ไปชูนิ้วกลางใส่ขบวนเสด็จต่างหาก แบบนั้นตนจะตบจริง ๆ ถ้าเป็นรถพ่อแม่คุณขับผ่านมา แล้วมีคนชูนิ้วกลางให้ จะทำยังไงล่ะ?
ส่วนประเด็นเรื่องชู 3 นิ้ว ตนไม่ซีเรียส เพราะเด็กออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องอนาคตของเขา เรื่องนี้ตนไม่ขอยุ่ง ไม่ว่าม็อบไหน ๆ เวทีเดียวที่ตนจะยุ่งคือ พระมหากษัตริย์เท่านั้น
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าประเทศเราเป็นปึกแผ่นมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ มีชาติ มีศาสนา ก็ต้องมีพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่เอาพระมหากษัตริย์ออกแล้วมาเป็นประธานาธิบดี อันนั้นเพ้อเจ้อ
สิ่งที่ตนไม่สบายใจคือ องค์กรร่วมกตัญญู โทรศัพท์มาขอร้องตนอย่าไปยุ่งเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน บิณฑ์ก็เริ่มน้ำตาคลอ ร้องไห้ออกมา กล่าวต่อไปว่า ตนอยากสู้เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนทำงานร่วมกับร่วมกตัญญูมา 34 ปี ทั้งชีวิตของตน ตอนนี้กลับมีคนมาบอก เสียดายทุกบาทที่ช่วยมา ตนว่าไม่จริง คนที่ล้มล้างสถาบันไม่มีทางมาช่วยตนแน่นอน คนที่่ช่วยตนมีแต่ชาวบ้าน ฉะนั้นอย่ามาอ้าง ต่อจากนี้ไม่ต้องมาช่วย
หลังจากนี้ เพื่อความสบายใจ ตนจะลาออกจากมูลนิธิตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องตนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวสถาบัน ทำให้คนมาว่ามูลนิธิได้
ขณะเดียวกัน นายบิณฑ์ ก็จะถอดเสื้อของมูลนิธิออก เหลือแต่เสื้อสีเหลือง
นอกจากนี้ บิณฑ์ ยังตั้งคำถามว่า ทำไมม็อบต้องไปสถานทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ด้วย พร้อมกับย้ำว่า ตอนนี้ตนพูดในฐานะนายบิณฑ์เท่านั้น หลังจากนี้จะสู้เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเต็มที่
